ไลฟ์สไตล์

‘รังสิตคลอง9’ต้นแบบชุมชนน่าอยู่

‘รังสิตคลอง9’ต้นแบบชุมชนน่าอยู่

27 พ.ย. 2558

ทำมาหากิน : ‘รังสิตคลอง9’ ต้นแบบชุมชนน่าอยู่ จัดกิจกรรมสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน : โดย...สุรัตน์ อัตตะ

 
       แม้ชุมชนบ้านเอื้ออาทร รังสิตคลอง 9 ของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ใน ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จะเป็นแหล่งรวมของผู้มีรายได้น้อยกว่า 500 หลังคาเรือนมีผู้อยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 2,000 คน แต่กลับอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มีความเอื้ออาทรต่อกัน ภายใต้การบริหารจัดการของคณะกรรมการชุมชนที่เข็มแข็ง จนสามารถขับเคลื่อนผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรมได้อย่างรวดเร็ว โดยการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการจัดตั้งกลุ่มต่างๆ เพื่อให้คนในชุมชนได้ทำกิจกรรมต่างๆ ตามความถนัดของตนเอง
 
       ธวัช ชิวรัมย์ ประธานคณะกรรมการชุมชนเล่าว่า แรกๆ เข้ามาอยู่ก็เหมือนชุมชนอื่นที่ต่างคนต่างอยู่ เมื่อการเคหะแห่งชาติตั้งกรรมการชุมชนจึงร่วมกับคณะอีก 23 คน เข้าร่วมเป็นชุดก่อตั้ง เริ่มตั้งแต่กิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม เริ่มจากวันสงกรานต์แล้วขยายมาจัดกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา วันพ่อแห่งชาติ วันแม่แห่งชาติและวันเด็ก โดยมีการเคหะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้การสนับสนุน จากนั้นจึงเริ่มต้นกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยจัดตั้งกลุ่มกีฬาต่างๆ เช่น ฟุตซอล ตะกร้อ มวยไทย แอโรบิก เปตอง จักรยาน มีหัวหน้ากลุ่มที่เป็นจิตอาสาคอยดูแล ชักชวนให้มีคนเข้าร่วมเพิ่มขึ้น ส่วนกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม เริ่มต้นด้วยการเคหะแห่งชาติอบรมการทำน้ำหมักชีวภาพด้วยถังขนาด 500 ลิตร แจกจ่ายให้คนในชุมชนใช้ในครัวเรือน ทั้งถูพื้น ราดห้องน้ำ หรือพื้นที่ส่วนที่มีกลิ่น และใช้เทลงตามท่อระบายน้ำทิ้ง ก่อนลงบ่อบำบัดน้ำเสีย
 
       “เริ่มต้นใช้กัน 2 เดือนถึงจะหมด ตอนนี้แค่ครึ่งเดือนก็หมดแล้ว การเคหะ ให้ถังเพิ่มอีก 2 ถัง ขนาดถังละ 1,000 ลิตร ก็จะเอาถังหนึ่งไปตั้งไว้ตรงบ่อบำบัดน้ำเสีย ปล่อยให้น้ำหมักหยดลงบ่อโดยตรง เท่าที่ใช้มาช่วยเรื่องกลิ่นได้มากเลย”
 
       สุชาดา สามปรุ กรรมการชุมชน ผู้ริเริ่มการทำน้ำหมักชีวภาพ ก่อนผันมาทำผลิตภัณฑ์น้ำยาปลอดภัยจำหน่าย ได้แก่ น้ำยาอเนกประสงค์ น้ำยาล้างจาน ตะไคร้ไล่ยุง ซึ่งล้วนมีส่วนผสมของน้ำหมักชีวภาพที่ได้รับการพิสูจน์คุณภาพมาแล้ว และกำลังขยายไปผลิตน้ำยาปรับผ้านุ่มต่อไป
 
       "ทุกกิจกรรมดิฉันตั้งใจผลิตให้ชุมชนได้ใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในราคาถูกกว่าท้องตลาด เป็นการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชน ช่วยเศรษฐกิจชุมชนให้สะพัด และผลกำไรจะใช้ในกิจกรรมของชุมชน” สุชาดาเผย พร้อมระบุอีกว่าขณะเดียวกันยังจัดตั้งกลุ่มธนาคารขยะเพื่อคัดแยกขยะ โดยได้รับการสนับสนุนตะแกรงและเครื่องชั่งจากจังหวัดปุทมธานีผ่านเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ กิจกรรมนี้จะลดปริมาณขยะและนำขยะที่เป็นประโยชน์ไปใช้ในรูปรีไซเคิล หรือรียูสไปขาย เป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
 
       “ขณะนี้แผนการอันใกล้นี้จะขยายไปสู่กิจกรรมปลูกผักปลอดสารพิษ โดยใช้พื้นที่ว่างริมบ่อบำบัดน้ำเสียประมาณ 50 ตารางวาเป็นจุดเริ่มต้น โดยมีคุณสมาน ภุมราดี กรรมการชุมชนอีกคน ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม เพราะมีประสบการณ์เจนจัดจากอาชีพงานจัดสวน รู้จักไม้ วิธีปลูก และดูแลโดยตรงอยู่แล้ว เหลือก็เพียงหาสมาชิกมาร่วมดูแล ซึ่งจะทำให้ชุมชนได้บริโภคผัก ทั้งมีความสดแถมยังปลอดสารพิษ เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย” สุชาดากล่าวและว่า
 
       อีกทั้งยังดัดแปลงจักรยานใช้แล้วปั่นเพื่อสูบน้ำจากบ่อบำบัดเข้าสู่แปลงปลูก ได้ทั้งน้ำ ความสะดวกและออกกำลังขาไปในตัว “บ่อบำบัดน้ำเสีย น้ำใสสะอาดอยู่แล้ว มีเครื่องบำบัดน้ำเสีย และเทน้ำหมักลงไปช่วยด้วย ทำให้ทุกวันนี้สามารถเลี้ยงปลานิลได้ด้วย
 
       บ้านเอื้ออาทร รังสิตคลอง 9 แม้ไม่ได้เป็นชุมชนหรูหราราคาแพง แต่ผู้อยู่อาศัยกลับมีคุณภาพชีวิตที่ดีจากการร่วมจิตอาสาในการทำกิจกรรมต่างๆ  ส่งผลให้ชุมชนแห่งนี้มีความเข้มแข็งและน่าอยู่มากทีเดียว