ไลฟ์สไตล์

ภัยจากการสำลักอาหาร-น้ำในผู้สูงอายุ

ภัยจากการสำลักอาหาร-น้ำในผู้สูงอายุ

23 พ.ย. 2558

ภัยจากการสำลักอาหาร-น้ำในผู้สูงอายุ : คอลัมน์ ดูแลสุขภาพ

 
 
 
 
          มนุษย์ทุกคนเกิดมามีจุดอ่อนตรงที่ทางเดินอาหารและทางเดินหายใจส่วนต้น ใช้ช่องทางร่วมกันในบริเวณคอหอย ก่อนที่จะแยกออกเป็นหลอดลมซึ่งอยู่ทางด้านหน้าของลำคอและหลอดอาหารซึ่งอยู่ทางด้านหลัง การกลืนอาหารและน้ำโดยไม่สำลักเข้าหลอดลมต้องอาศัยการควบคุมของระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่ซับซ้อน ทำงานประสานกันอย่างถูกต้องโดยอัตโนมัติไม่ผิดพลาดตั้งแต่เกิด ทุกครั้งที่กลืนอาหารและน้ำ กล้ามเนื้อปากและลิ้นจะผลักดันอาหารและน้ำลงไปในคอไม่ให้ไหลขึ้นจมูก และกล้ามเนื้อบริเวณคอจะยกกล่องเสียงขึ้นมาชนกับใต้ฝาปิดกล่องเสียง ไม่ให้อาหารและน้ำเล็ดลอดเข้าสู่หลอดลม รวมทั้งหูรูดของหลอดอาหารส่วนบนจะคลายตัว เพื่อให้อาหารและน้ำเคลื่อนลงสู่หลอดอาหาร
 
          แต่เมื่อคนอายุมากขึ้น มีโรคประจำตัว เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคความจำเสื่อม โรคพาร์กินสัน โรคจากอุบัติเหตุทางสมอง โรคของเส้นประสาท โรคมัยแอสธีเนีย กราวิส โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง การทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่ควบคุมการกลืนเริ่มผิดพลาด เกิดการสำลักง่าย ผลตามมาของการสำลักขึ้นอยู่กับปริมาณสิ่งที่สำลัก สำลักบ่อยแค่ไหน ทุกวันหรือนานๆ ครั้ง ของที่สำลักเป็นของแข็ง เศษอาหาร ของเหลว น้ำ น้ำมัน หรือกรดจากกระเพาะอาหาร ประสิทธิภาพในการไอขับสิ่งแปลกปลอมออกได้เองและภูมิคุ้มกันของร่างกาย ภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาจากการสำลักเศษอาหาร เช่น ขนมเข่ง ขนมโมจิ ลูกชิ้น ยาเม็ดโตๆ ติดคอ ทำให้ขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตได้ทันที โรคปอดอักเสบจากการสำลักกรดหรือน้ำมัน และปอดติดเชื้อจากเชื้อโรคในช่องปากลงปอด สุดท้ายทำให้ระบบหายใจล้มเหลว
 
          ๐ วิธีการป้องกันการสำลัก
          ก่อนอื่นต้องประเมินว่าผู้ป่วยมีปัญหาการกลืนระดับไหน โดยให้ลองดื่มน้ำเปล่าหนึ่งช้อนชา ถ้าไม่สำลักเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งช้อนโต๊ะ ถ้าเริ่มสำลักตั้งแต่ดื่มน้ำเปล่าปริมาณน้อยๆ แสดงว่ามีปัญหาการกลืนรุนแรง แนะนำอาหารซึ่งมีอยู่ 4 ระดับขึ้นกับผู้ป่วยมีปัญหาการกลืนตั้งแต่มากสุดลงไปน้อยสุด
 
          ระดับที่ 1 เหมาะกับผู้ป่วยเพิ่งเริ่มฝึกกลืน เช่น อาหารปั่นข้น ปั่นอาหารให้ละเอียดมีลักษณะข้นหนืด เช่น โจ๊กปั่นข้น ซุปปั่นข้น ไข่ตุ๋น
 
          ระดับที่ 2 เป็นอาหารปั่นเหลวกว่าระดับที่ 1 อาหารทุกอย่างสับละเอียด เช่น ซุปข้นแต่เหลวกว่าระดับที่ 1
    
          ระดับที่ 3 เป็นอาหารอ่อน เคี้ยวง่าย ไม่มีกากแข็ง สับหยาบๆ เช่น ข้าวต้มขาวปกติ ปลานึ่ง เต้าหูหมูสับ
    
          ระดับที่ 4 เหมาะกับผู้ป่วยที่มีปัญหาการกลืนเล็กน้อย เป็นอาหารอ่อนปกติ อาหารไม่จำเป็นต้องบดหรือสับนอกจากนี้ควรปรึกษานักกิจกรรมบำบัดช่วยในการฝึกกระตุ้นกล้ามเนื้อปากและลิ้น และกระตุ้นการกลืน เวลากลืนอาหารแนะนำให้นั่งตัวตรง ก้มศีรษะเล็กน้อย ตั้งใจกินทีละคำ ไม่พูดคุยระหว่างกิน
 
          ปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ทำด้วยสารธรรมชาติมีขายในโรงพยาบาลและร้านขายยา เมื่อนำสารธรรมชาตินี้มาผสมกับน้ำจะทำให้น้ำข้นหนืด โดยไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ไม่มีสี ช่วยให้กลืนน้ำได้โดยไม่สำลัก ข้อห้ามสำหรับคนสูงอายุ คนที่มีปัญหาทางการกลืน คนที่มีโรคทางสมอง ห้ามอม กลั้วคอ และกลืนน้ำมันทุกชนิด เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันละหุ่ง เพราะน้ำมันทุกชนิดสำลักง่ายยิ่งกว่าน้ำ เนื่องจากเป็นของเหลวที่เบากว่าน้ำ ถ้าสำลักแล้วโอกาสเป็นโรคปอดอักเสบสูง รักษายาก อาจเสียชีวิตได้
   
          ถ้าทำทุกอย่างแล้วผู้ป่วยยังสำลักอาหารและน้ำหรือไม่ยอมกลืน ก็ต้องพิจารณาใส่สายยางผ่านทางจมูกเข้ากระเพาะอาหาร และให้อาหารผ่านสายยาง แต่ถ้าต้องให้อาหารผ่านสายยางทางจมูกเป็นเวลานาน เนื่องจากมีปัญหาการกลืนถาวรแก้ไขไม่ได้ แนะนำให้เจาะกระเพาะอาหารทางหน้าท้องและให้อาหารทางสายไปยังกระเพาะอาหารโดยตรง เพราะจะลดโอกาสการสำลักน้ำลายในปากลงปอด และลดโอกาสโรคปอดติดเชื้อจากการสำลักน้ำลายได้มากกว่า
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์
อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
โรคทางเดินหายใจและผู้สูงอายุ
โรงพยาบาลวิชัยยุทธ