
บานแล้ว!กุหลาบพุกามแห่งเดียวในเชียงใหม่
20 พ.ย. 2558
นทท.แห่ชมกุหลาบพุกามที่มีเพียงต้นเดียวในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ จ.เชียงใหม่ ออกดอกบานสะพรั่งสีส้มสด ก่อนจะแปรสภาพเป็นผลสีเหลืองอ่อนคล้ายลูกพลับ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (19 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเห็นต้นกุหลาบพุกามออกดอกบานสะพรั่งที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งถูกนำมาปลูกไว้บริเวณด้านหน้าส่วนจัดแสดงเรือนพืชทนแล้ง และกลายเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมความงดงามของพันธุ์พืชนานาชนิด โดยดอกกุหลาบพุกามนั้นมีเอกลักษณ์คือ ดอกจะเป็นสีส้มสด มีประมาณ 3-5 กลีบ อีกทั้งยังมีผลของต้นกุกลาบพุกามสีเหลืองอ่อนที่ออกพร้อมกัน ลักษณะคล้ายกับลูกพลับ ส่วนลำต้นนั้นสูงประมาณ 5 เมตร ตามกิ่งก้านและลำต้นจะมีหนามงอกออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนามเหล่านี้มีพิษเบาบางที่อาจจะระคายเคืองผิวเล็กน้อยหากถูกหนามตำแต่ก็ไม่เป็นอันตรายมากนัก
นางสาวศิริดาว มณีขัติย์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับต้นกุหลาบพุกามนี้มีความสูงราว 5 เมตร และมีเพียงต้นเดียวในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ จ.เชียงใหม่ จุดเด่นอยู่ที่ดอกกุหลาบพุกามสีส้มสด มีเอกลักษณะเฉพาะคล้ายกับดอกกุหลาบ อีกทั้งผลของต้นกุหลาบพุกามยังมีจุดเด่นคือ ความเป็นสีเหลืองอ่อนคล้ายกับลูกพลับ แต่ไม่สามารถกินได้ ถือเป็นพืชประดับชนิดหนึ่ง

จากการสำรวจตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พบว่า ต้นกุหลาบพุกามขนาดใหญ่ มีเพียงแค่ 2 แห่งเท่านั้นคือ ที่สวนพฤษศาสตร์ฯ ที่จ.เชียงใหม่ และที่สวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี โดยต้นกุหลาบพุกามจะออกดอกตลอดปี และไม่แนะนำให้นักท่องเที่ยวสัมผัสโดนกับหนามของต้นกุหลาบพุกาม เนื่องจากหนามนั้นมีพิษ แต่ไม่ร้ายแรง หากถูกหนามตำอาจจะเกิดการระคายเคืองบ้างเล็กน้อย และแนะนำให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปโดยเว้นระยะห่างให้เหมาะสมกับต้นกุหลาบพุกาม โดยสาเหตุที่เรียกว่า กุหลาบพุกาม ก็เนื่องจากว่า ถูกนำเข้ามาจากอเมริกาเหนือ และมาขยายพันธุ์ในเอเชีย โดยสันนิฐาน ถูกพบครั้งแรกที่เมืองพุกามประเทศเมียนมา ก่อนจะนำมาขยายพันธุ์ต่อในประเทศเขตร้อนชื้น.ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย,มาเลเซียและกัมพูชา

ทั้งนี้จากข้อมูลของสำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สวนจิตรลดา ระบุว่า ต้นกุหลาบพุกามนั้นเป็นไม้พุ่ม มีความสูงได้ถึง 5 เมตร ลำต้นมีหนามแหลมคม ออกดอกสีส้มสดคล้ายกับกุหลาบ อยู่ในวงศ์ตระกูลกระบองเพชร เป็นพืชทนแล้ง มีถิ่นกำนิดที่โคลัมเบีย ในเขตร้อนของอเมริกา ปลูกได้ทั่วไปในเขตร้อน ถือเป็นไม้ประดับ สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการปักชำกิ่งและหนามมีพิษเล็กน้อย พอระคายผิวแต่ไม่เป็นอันตราย

