
เสนอ'ดาว์พงษ์'ทบทวน'ผูกขาดตำรา'
19 พ.ย. 2558
สมาคมผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษา เผย ผลกระทบจากนโยบายให้ สพฐ.จัดซื้อหนังสือ 4 รายวิชาโดยตรง เสนอ 'ดาว์พงษ์' ทบทวน 'ผูกขาดตำรา'
หลังจากกลายเป็นเรื่องสั่นสะเทือนไปทั่ววงการพิมพ์ตำราแบบเรียน เมื่อนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ หัวหน้าคณะทำงานกำหนดแนวทางการประเมินประสิทธิภาพและติดตามการดำเนินงานขององค์การค้า (อค.) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขอความร่วมมือโรงเรียนในสังกัด สพฐ.สั่งซื้อหนังสือใน 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้หลัก ได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และสังคมศึกษา ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จาก อค.แทนการสั่งซื้อจากสำนักพิมพ์เอกชน โดยอ้างว่าเพื่อให้เด็กได้ใช้ตำราที่มีเนื้อหาเดียวกัน และแก้ปัญหาการจัดส่งหนังสือล่าช้า
ล่าสุด วันนี้ (19 พ.ค.) สมาคมผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษา เผย ผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว พร้อมเสนอข้อมูลเพื่อตอบประเด็นปัญหาต่างๆ ให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาอีกครั้ง




ใบปลิวว่อนต่อต้ายยึดครองสพฐ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใบปลิวบันทึกข้อความ เรื่องแถลงการณ์การรวมพลังเรียกร้องความเป็นธรรม และต่อต้านกลุ่มกระบวนการยึดครอง สพฐ.ที่ชั่วร้าย ถึงแกนนำและพี่น้องผู้เป็นกำลังสำคัญของ สพฐ.โดยใบปลิวดังกล่าวถูกพบที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขณะเดียวกันยังมีการถ่ายภาพและส่งต่อผ่านโปรแกรมไลน์ (Line) ของข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ด้วย โดยบันทึกข้อความดังกล่าวมีใจความสำคัญระบุว่า ขณะนี้มีกลุ่มกระบวนการยึดครอง สพฐ.ที่ชั่วร้าย อาศัยจังหวะที่ทหารมีอำนาจเข้ามาเสียบตำแหน่งสำคัญใน สพฐ. โดยคนที่มีศักยภาพใน สพฐ.ไม่ได้รับการแต่งตั้งแม้แต่คนเดียว และมีการแต่งตั้งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษแบบแท็กทีมมากินเงินหลวง นอนโรงแรมและคอรัปชั่นส์อย่างไม่ละอายใจ
นอกจากนี้ ในใบปลิวยังระบุด้วยว่าการทำงานในระดับชาติไม่ง่าย วิสัยทัศน์ของ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา และผอ.สถานศึกษาแคบเกินกว่าที่จะทำงานใหญ่ระดับชาติ ขาดความเชี่ยวชาญ ถึงเวลาที่ต้องรวมตัวต่อต้านการตั้งคนข้ามหัวโดยไม่ได้ดูศักยภาพ เพื่อให้กระบวนการชั่วร้ายที่ยึดครอง สพฐ.ได้รู้สำนึกและเกิดยางอาย ไม่กล้าทำอะไรโดยไม่เกรงใจคน สพฐ. โดยนัดแสดงพลังต่อต้านด้วยการนัดหยุดงานพร้อมกันในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ ในใบปลิวดังกล่าวได้ระบุชื่อคนที่ถูกอ้างว่าเป็นประธานและรองประธานแกนนำ พร้อมทั้งผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเข้ามาทำงานใน สพฐ.ด้วย
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ได้อ่านใบปลิวดังกล่าวแล้ว แต่ไม่รู้ว่าต้องการอะไรเพราะบรรยากาศการทำงานของ สพฐ.ก็ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นการสร้างสถานการณ์มากกว่า เพราะผู้ถูกแอบอ้างชื่อก็มาขอโทษตน ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์เชื่อว่าใบปลิวอาจจะมีสาเหตุจากการที่ตนให้ นายชลำ อรรถธรรม ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ภูเก็ต มารักษาราชการในตำแหน่ง ผอ.สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สนผ.) ซึ่งอาจมีคนไม่พอใจ แต่ก็อยากถามว่า ผอ.เขตพื้นที่ฯเป็นคน สพฐ.หรือเปล่า การมองว่าเข้ามายึดครอง สพฐ. ตนมองว่าเป็นเรื่องตลก
ด้าน พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า ตนได้อ่านใบปลิวดังกล่าวแล้ว คงต้องดูก่อนว่าใบปลิวที่เผยแพร่ออกมามีมูลความจริงมากน้อยแค่ไหน เพราะจะให้เชื่อข้อมูลจากใบปลิวทั้งหมดคงไม่ได้ และไม่ทราบว่าผู้ที่นำมาเผยแพร่มีจุดประสงค์จะสื่อสารข้อมูลถึงใคร หากต้องการจะสื่อสารมาถึงตัว รมว.ศึกษาธิการ ก็ขอให้ส่งเรื่องมาถึงตนโดยตรงได้เลยตนพร้อมจะตรวจสอบให้และเป็นความลับอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนไม่มีนอกมีในกับใครทั้งสิ้นข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการตนก็ยังรู้จักไม่หมดทุกคนด้วย
ส่วนที่มีการระบุว่าการแต่งตั้งข้าราชการใน สพฐ.ไม่เหมาะสมมีการข้ามหัวและได้คนไม่มีศักยภาพนั้น เรื่องนี้ตนให้อำนาจผู้บริหารของแต่ละหน่วยงานในการพิจารณาแต่งตั้งอยู่แล้วและตนก็ไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว แต่ดูตามผลงานที่สามารถจะทำงานในตำแหน่งนั้นๆ อย่างกรณีของนายพะโยม ชิณวงศ์ ที่ตั้งเป็นรองเลขาธิการ กพฐ. ตนก็สอบถามทั้ง เลขาธิการ กพฐ. และปลัด ศธ.ดังนั้น เมื่อเลือกบุคคลนั้นมาดำรงตำแหน่งแล้วจะถูกจะผิดคนที่คัดเลือกมาก็ต้องรับผิดชอบ แม้กระทั่งการแต่งตั้งระดับเลขาธิการองค์กรหลัก หรือแม้แต่ นายการุณ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์นั้น ตนก็พร้อมจะรับผิดชอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ส่วนที่จะมีการนัดหยุดงานในวันที่ 11 ธ.ค.นั้น เป็นข้าราชการมีผู้บังคับบัญชาหากมีอะไรก็ควรมาพูดคุยกัน ไม่ใช่ทำอะไรตามความรู้สึก