
ทรัพยากรแร่ : ทรัพยากรส่วนรวมของคนไทย
15 พ.ย. 2558
หลากมิติเวทีทัศน์ : 'ทรัพยากรแร่' ทรัพยากรส่วนรวมของคนไทย : โดย...ศยามล ไกยูรวงศ์
ทรัพยากรแร่ถือว่าเป็นทรัพยากรส่วนรวม (common property) ของทุกคน หรือที่เรียกว่า “สาธารณสมบัติของแผ่นดิน” ในอดีตที่ผ่านมาจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแร่ เนื่องจากประเทศไทยยังมีทรัพยากรแร่จำนวนมาก เงินทุนและความรู้ในการใช้เทคโนโลยีทั้งด้านการสำรวจแร่ การทำเหมืองแร่ ต้องพึ่งพาต่างชาติ รัฐบาลไทยจึงให้ใช้ประโยชน์และให้สิทธิพิเศษแก่บริษัทเอกชนต่างชาติ เพื่อให้มีการพัฒนาคนไทยให้มีความรู้ในการทำเหมืองแร่และการประกอบโลหกรรม
อย่างไรก็ตาม การทำเหมืองแร่และการประกอบโลหกรรมมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ แต่มาตรการทางกฎหมายและในทางนโยบายของการกำกับดูแลให้บริษัทเอกชนที่ได้รับอนุญาตประทานบัตรแร่ ยังขาดประสิทธิภาพ จึงทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนในพื้นที่กับผู้ประกอบการทำเหมือง
สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรณีกรมทรัพยากรธรณี(พ.ศ. 2555) ได้จัดทำยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรแร่ พ.ศ.2555-2559 โดยส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรแร่ในการสร้างมูลค่าเพิ่มในลักษณะผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องที่ใช้แร่เป็นวัตถุดิบมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ประเมินศักยภาพและพัฒนาแหล่งแร่ที่มีคุณค่าสูง (Superior Exploration) และใช้แร่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง (Mineral for Advanced Product) ส่งเสริมการร่วมพัฒนาแหล่งแร่ระหว่างภาครัฐและเอกชน(Positive Partnership) และส่งเสริมอุตสาหกรรมแร่สีเขียวสะอาดตั้งแต่ต้นจนจบ (Green and Clean Mineral Industry: Before-During-After) สร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเหมืองแร่พัฒนาการผลิตและเพิ่มมูลค่าทรัพยากรแร่ (Value Added) รวมถึงการสร้างมูลค่าทรัพยากรแร่ (Value Creation) ในการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆควบคู่กับการสนับสนุนและจูงใจให้ใช้วัสดุทดแทนแร่และการใช้ประโยชน์โลหะหมุนเวียนให้มากที่สุด

ตามบทบาทหน้าที่ของกรมทรัพยากรธรณีต้องมุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรแร่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ แต่ในมุมมองของประชาชนในพื้นที่มีความกังวลต่อผลกระทบต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรมผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์จากการทำเหมืองมหาศาลโดยที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์เพียงน้อยนิด ซึ่งไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจึงมีคำถามต่อความเป็นธรรมที่พวกเขาต้องรับภาระผลกระทบแทบทั้งสิ้น เมื่อเปรียบเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับ
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) มีข้อเสนอในรายงานการศึกษาเรื่อง “แผนแม่บทการจัดการธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณี(กันยายน 2556) เสนอให้มีการจำแนกเขตแหล่งทรัพยากรแร่ (Mineral Resources Zone) และศึกษาคุณสมบัติของแร่ทั่วประเทศเพื่อวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเหมาะสมให้มีการศึกษามูลค่าทางเศรษฐกิจของแร่ที่คำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม การดำเนินมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยจัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรณี และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการติดตามตรวจสอบการจัดการการใช้ประโยชน์ในระดับพื้นที่ เช่น พื้นที่อนุรักษ์โดยศึกษาแนวทางและข้อพึงปฏิบัติในการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
จากข้อเสนอของทีดีอาร์ไอ แสดงให้เห็นว่า การทำเหมืองแร่ในวันนี้และในอนาคต นอกจากต้องคำนึงถึงมิติวิศวกรรมการทำเหมืองแร่และประโยชน์ที่ได้รับแล้ว ยังจำเป็นต้องคำนึงถึงการลดต้นทุนในการใช้เทคโนโลยีการทำเหมืองแร่ การพิจารณาต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ที่รัฐและผู้ประกอบต้องดำเนินการเพื่อให้การทำเหมืองแร่มีผลกระทบน้อยที่สุด ดังนั้นยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแร่จึงต้องครอบคลุมแนวคิดและแนวทางดังนี้
1) แนวทางการบริหารจัดการแร่ตามหลักธรรมาภิบาลและโปร่งใส ให้ประชาชนมีส่วนร่วมการบริหารจัดการ และกระจายการจัดสรรประโยชน์จากเหมืองแร่อย่างเป็นธรรม
2) แนวทางการใช้ประโยชน์จากแร่และการอนุรักษ์พื้นที่ศักยภาพแร่ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
3) แนวทางการสำรวจแร่ การทำเหมือง การติดตามตรวจสอบ การควบคุมและการฟื้นฟูเหมืองแต่ละประเภท
4) แนวทางการตรวจสอบผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา
คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายได้สนับสนุนเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง ในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... ตามแนวคิดและแนวทางดังกล่าว โดยออกแบบให้มีคณะกรรมการ 3 ระดับ ดังนี้

1) คณะกรรมการนโยบายแร่ มีรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานคณะกรรมการ ทำหน้าที่จัดทำและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากแร่
2) คณะกรรมการแร่ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ หลายสาขาที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่ออกหลักเกณฑ์ในการกำกับการอนุมัติอนุญาตต่างๆ รวมทั้งติดตามตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไขของใบอนุญาต โดยรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้อออกประทานบัตรการทำเหมืองประเภทที่มีเนื้อที่มากกว่า 100 ไร่ และการทำเหมืองใต้ดิน
3) คณะกรรมการแร่จังหวัด มีผู้ว่าราชการจัดหวัด เป็นประธาน และเป็นผู้ให้อนุญาตประทานบัตรประเภทเหมืองแร่ขนาดเล็ก ไม่เกิน 100 ไร่ นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการที่มาจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ทำเหมืองแร่ ทำหน้าที่จัดทำแผนบริหารจัดการแร่จังหวัด
หลักการของการสำรวจแร่ต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์พื้นที่ กล่าวคือ การได้อาชญาบัตรผูกขาด สำรวจแร่ หรืออาชญาบัตรพิเศษ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือผู้มีสิทธิครอบครองที่ดิน รวมทั้งห้ามมิให้ผู้ใดสำรวจแร่ในพื้นที่แหล่งต้นน้ำหรือป่าน้ำซับซึม เขตพื้นที่ป่าสงวน เขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตโบราณสถาน
การประกอบกิจการเหมืองแร่ ต้องมีการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานดังกล่าว มาตรการหนึ่งที่สำคัญคือการฟื้นฟูและการปิดเหมือง โดยแผนการฟื้นฟูเหมืองต้องประกอบด้วยการเปรียบเทียบข้อมูลฐานของปริมาณมลพิษทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการฟื้นฟูเหมือง การปิดเหมืองจะกระทำได้ต่อเมื่อมีการฟื้นฟูพื้นที่ มีการรื้อถอนหรือมีการประเมินผลการฟื้นฟูแล้วเท่านั้น
กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการประเมินผลกระทบ และกระบวนการอนุมัติ อนุญาตประทานบัตรทำเหมือง หรือการออกอาชญาบัตรสำรวจแร่ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไม่เกิดความขัดแย้งในพื้นที่เมื่อมีการทำเหมือง
การมีกองทุนศึกษา พัฒนา และฟื้นฟูพื้นที่ และช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง โดยรายได้ของกองทุนมาจาก 1.เงินส่วนแบ่งค่าภาคหลวงแร่ที่รัฐบาลได้รับ 2.ส่วนแบ่งผลประโยชน์พิเศษที่ผู้ถืออาชญาบัตรและผู้ถือประทานบัตรเสนอแก่รัฐ 3.ส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการออกอาชญาบัตร ประทานบัตร และการอนุญาต 4. ส่วนแบ่งค่าใช้เนื้อที่ในอาชญาบัตร และประทานบัตร 5.ส่วนแบ่งค่าขายของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดและค่าปรับตามที่กำหนดในกฎหมาย 6.ส่วนแบ่งเงินบำรุงพิเศษในอัตราส่วนที่รัฐมนตรีกำหนด เป็นต้น การมีกองทุนเป็นหลักประกันสำคัญที่ผู้ประกอบการเหมืองต้องรับผิดชอบ โดยไม่เป็นภาระแก่รัฐที่ต้องนำภาษีประชาชนมาใช้จ่าย
ทรัพยากรแร่เป็นทรัพยากรส่วนรวมที่มีมูลค่าซึ่งควรนำมาวางแผนการบริหารจัดการแร่ที่เป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการใช้ประโยชน์จากแร่อย่างสมดุลและยั่งยืน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับโซนพื้นที่ของประเภทเหมืองแต่ละประเภท จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการแร่อย่างโปร่งใสและมีหลักธรรมาภิบาล
--------------------
(หลากมิติเวทีทัศน์ : 'ทรัพยากรแร่' ทรัพยากรส่วนรวมของคนไทย : โดย...ศยามล ไกยูรวงศ์)