
ขีดเส้นใต้เอาไว้..ใจดีและเก่งกบทรงสิทธิ์
08 พ.ย. 2558
อมหมึกเคี้ยวกระดาษ : ขีดเส้นใต้เอาไว้..ใจดีและเก่ง กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี : โดย...ปลวกหวาน
งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 20 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บอกลาไปแล้ว แต่ความประทับใจยังคงตกตะกอนอยู่...
แพรวสำนักพิมพ์ จัดงานเปิดตัวหนังสือ “ขีดเส้นใต้เอาไว้ว่าไม่ไร้ปาฏิหาริย์” ที่เปิดเผยเรื่องราวของ "กบ" ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี ผู้ชายที่เปรียบเสมือนพี่ของวงการบันเทิง โดยมี “จอย” รินลณี ศรีเพ็ญ รับหน้าที่พิธีกรในงาน
เกือบ 30 ปี ผู้ชายที่มีภาพลักษณ์อบอุ่นเป็นกันเอง แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังก่อนจะก้าวมายืนอยู่ในจุดนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง หลากปรากฏการณ์ในชีวิตที่มีทั้งฟ้าลิขิตและขีดเอง ล้วนน่าสนใจไม่น้อย
“ไม่น่าเชื่อว่าวันหนึ่งจะได้เป็นคนเขียนหนังสือกับเขาเหมือนกัน ทั้งที่ผ่านงานมากมายในวงการ รู้ตัวเลยว่า ขอเว้นไว้สักอย่างเถอะ ไม่ถนัดงานเขียนจริงๆ แต่พอได้ลองเขียน...เอ่อ คือผมขอเป็นมือใหม่หัดเขียน มือใหม่คนนี้ไม่ขอเป็นนักเขียนอาชีพแน่นอน มันยากอย่างบอกไม่ถูก มันมึนๆ อยู่ในหัว มันเหมือนปล่อยผ่านปากกาออกมาไม่เป็น ยังไงไม่รู้ บางทีหัวแล่นอยากเขียน แต่คิดคำไม่ออก นั่นแหละครับ"
กบ เล่าความรู้สึกเมื่อต้องลงมือเขียนเรื่องราวของตัวเองจริงๆ แม้จะยากเย็น แต่เมื่อมีเป้าหมายชัดเจน ถึงเหมือนมีสิ่งกระตุ้นให้ได้ลงมือทำในสิ่งที่ไม่เคยทำจนสำเร็จ
"สำหรับหนังสือเล่มนี้ ผมมองในมุมของการทำงานเพื่อการกุศลจริงๆ ครับ เพราะรายได้ค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมดผมมอบให้แก่มูลนิธิเด็ก (Foundation for Children) เพื่อนำไปใช้ในโครงการรถเข็นนิทานครับ รับปากแล้วก็ต้องตั้งใจ ใช้เวลาเป็นเดือนแบบคนไม่มีประสบการณ์ ใส่ข้อมูลตามความจริงล้วนๆ งานนี้อาจจะเหมือนง่ายสำหรับการเขียน เพราะไม่มีอะไรปิดบัง ชีวิตผม ตัวตนผม ประสบการณ์ผม กบ ทรงสิทธิ์ ที่ใครๆ รู้จัก คือใคร มาจากไหนก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าจะมีสาระดีๆ ให้แก่ผู้อ่านมากน้อยแค่ไหน" นักร้อง-นักแสดงออกตัวอย่างถ่อมตน
“ชีวิตผมไม่ได้มีอะไรให้คนติดตามมากนัก ส่วนตัวผมก็คนธรรมดา ไปไหนมาไหนตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ จนถึงตอนนี้เหมือนเดิมหมด ไม่ใช่ซุปตาร์ งานในวงการ ดารา นักร้อง พิธีกร ของผมเข้ามาแบบปาฏิหาริย์ตลอด"
กบขยายความต่อว่า ปาฏิหาริย์ครั้งแรกของเขา กับสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน นั่นคือ การได้พบกับหม่อมน้อย และ “แต๋ม” ชรัส
“ถ้าผมไม่ได้เจอท่านทั้งสอง ก็ไม่รู้ว่าชีวิตของผมจะเป็นยังไง ปาฏิหาริย์ครั้งที่สองก็คงเป็นการที่ผมได้มาอยู่ค่ายแกรมมี่ ถ้า ครีเอเทีย อาร์ทิสต์ ไม่ปิดตัวลง เพลง ‘ปาฏิหาริย์’ ก็คงไม่เกิดขึ้น และที่ค่ายแกรมมี่นี่เองทำให้ผมได้พบกับคุณบอย ถกลเกียรติ ทำให้ผมได้เล่น ‘3 หนุ่ม 3 มุม’ ปาฏิหาริย์ครั้งที่สามของผม คือการเป็นพิธีกรเดอะวอยซ์ ไทยแลนด์ นั่นเอง”
กบเล่าถึงรายการประกวดร้องเพลง ที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่ๆ รู้จักเขาเยอะขึ้นมาก และแน่นอน ปรากฏการณ์ ‘ขีดเส้นใต้’ ก็เกิดขึ้นที่นี่อีกครั้ง
“ชีวิตของผมบางครั้งเหมือนมีคนมาขีดไว้เหมือนกันนะ แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า มันอยู่ที่เราเหมือนกัน”
สำหรับงานนักแสดง กบก็บอกว่า เป็นอาชีพที่มั่นคงมาก ถ้าตั้งใจกับงานที่ทำจริงๆ รักษาความเป็นมืออาชีพ รักษามาตรฐาน ตรงเวลา และเรียนรู้เพิ่มเติม ซึ่งเขาจะพูดกับตัวเองอยู่เสมอๆ ว่า โอกาสไม่ได้มาหาเราบ่อย ถ้าได้โอกาสแล้ว กอดมันไว้แน่นๆ อย่างทะนุถนอม
“ไม่รู้ทำไมเหมือนกันนะ กับคำว่าปาฏิหาริย์ มันเกิดขึ้นกับผมเรื่อยเลย คำนี้หมายถึงเกิดอะไรที่ดีๆ ทั้งนั้นแหละครับ ผมเล่าเอาไว้ให้ฟังหลายเหตุการณ์เลยในหนังสือเล่มนี้ ตอนนี้ก็หวังว่าเมื่อไหร่จะมีปาฏิหาริย์อีกเนอะ แต่สำหรับผมเอง แค่คนอ่านงานเขียนของผม ก็คงจะเป็นปาฏิหาริย์แล้วละครับ” นักร้องเจ้าของไฝเสน่ห์ กล่าวปิดท้าย
หลังจาก องอาจ จิระอร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานหนังสือเล่ม บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) แสดงความยินดีกับเจ้าของหนังสือบนเวทีแล้ว กบก็ได้มอบเงินรายได้ในส่วนของลิขสิทธิ์นักเขียนให้แก่มูลนิธิเด็ก (Foundation for Children) เพื่อนำไปใช้ในโครงการรถเข็นนิทานเป็นเงิน 132,525 บาท โดยมี ทศสิริ พูลนวล กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการมูลนิธิเด็ก (ผู้อำนวยการโครงการรถเข็นนิทาน) เป็นตัวแทนรับมอบ
หล่อและใจบุญอย่างนี้ คงไม่ต้องรอปาฏิหาริย์อะไรแล้วล่ะ ต้องขีดเส้นใต้ตัวหนาๆ ไว้เลยว่า...ทุกคนเลิฟกบจ้า อ๊บๆ