ไลฟ์สไตล์

ตื่นลูกไฟพุ่งจากฟ้า

ตื่นลูกไฟพุ่งจากฟ้า

03 พ.ย. 2558

แตกตื่นลูกไฟปริศนาแสงสีเขียวพุ่งตกจากฟ้า มองเห็นได้ในเมืองกรุง-ต่างจังหวัด แห่โพสต์ลงโซเชียลตรึม สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติชี้เป็นดาวตก

 
                      2 พ.ย. 58  เมื่อเวลา 20.46 น.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดลูกไฟแปลกประหลาดตกลงมาจากฟากฟ้า สามารถมองเห็นแสงไฟเหนือท้องฟ้าได้ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง อาทิ ชลบุรี ระยอง โดยมีประชาชนแจ้งการพบเห็นว่า มีลักษณะแสงสีฟ้า บ้างก็เห็นเป็นแสงสีเขียว ภายหลังมีการแจ้งเบาะแสการพบเห็นในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพลูกไฟบนท้องฟ้ากันอย่างแพร่หลาย และผู้โพสต์จากหลายพื้นที่บันทึกภาพไว้ได้
 
                      เบื้องต้นยังไม่มีรายงานที่แน่ชัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม เพจเฟซบุ๊กของสมาคมดาราศาสตร์ไทย ระบุว่า ลูกไฟที่พบเห็นนั้น คาดว่าจะเป็นดาวตกในช่วงเวลา 20.35 น.
 
                      ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า ลูกไฟที่เห็นไม่ใช่ขยะอวกาศหรือดาวเทียมแน่นอน แต่เป็นอุกกาบาตที่คนไทยเรียกว่าดาวตก คาดว่ามีขนาดประมาณครึ่งตัน ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าที่เห็นเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา แต่ที่ดูเหมือนเป็นลูกใหญ่ เพราะเกิดขึ้นในเวลากลางคืน จึงเห็นแสงสว่างชัดเจน
 
                      ดร.ศรัณย์ กล่าวด้วยว่า อุกกาบาตลูกนี้มีความแตกต่างจากอุกกาบาตที่ตกเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา โดยเป็นแสงสีเขียวแกมฟ้า ซึ่งแสงที่แตกต่างนั้น หากมีการวิเคราะห์ด้านพลังงานจะสามารถบอกได้ว่าเป็นอุกกาบาตประเภทไหน และมีส่วนประกอบของธาตุอะไรบ้าง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ เพราะปรากฏการณ์เพิ่งเกิดและยังไม่พบชิ้นส่วน
 
                      ด้านความตื่นตัวในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เว็บไซต์พันทิปดอทคอมมีการสอบถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ลูกไฟประหลาดบนท้องฟ้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีผู้เข้ามาให้ข้อมูลและแสดงความเห็นต่างๆ นานา แต่สาระสำคัญส่วนใหญ่ให้ข้อมูลว่า แสงไฟที่เห็นน่าจะเป็นอุกกาบาตเหมือนที่เคยตกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ขณะที่สมาชิกเว็บไซต์หลายคนก็แจ้งว่า พบเห็นแสงไฟนี้ที่จังหวัดต่างๆ อาทิ สระบุรี นครราชสีมา บึงกาฬ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขณะที่มีรายงานอ้างแหล่งที่มาจากเว็บไซต์หลายแห่งระบุว่า ปรากฏการณ์ครั้งนี้สามารถมองเห็นได้ในหลายประเทศ แต่ยังไม่มีการยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์หรือนักดาราศาสตร์ว่า แสงที่เห็นนี้อยู่ในระดับความสูงจากพื้นโลกระยะทางเท่าไร