ไลฟ์สไตล์

กลุ่มหัตถกรรม 'คุ้มสุขโข' ต้นแบบเอสเอ็มอีเข้มแข็ง

กลุ่มหัตถกรรม 'คุ้มสุขโข' ต้นแบบเอสเอ็มอีเข้มแข็ง

04 พ.ย. 2558

ทำมาหากิน : กลุ่มหัตถกรรม 'คุ้มสุขโข' ต้นแบบเอสเอ็มอีเข้มแข็ง : โดย...ธานี กุลแพทย์

 
                      สสว.ต่อยอดธุรกิจเครือข่ายเอสเอ็มอีเข้มแข็ง เดินสายจัดงานสัมมนาสนับสนุนเครือข่าย 18 กลุ่มจังหวัด มุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการ นำร่องร่วมพัฒนาเครือข่ายวิสาหกิจผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยครบวงจรกลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโข แห่งเมืองขอนแก่น ที่มุ่งสร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่ชุมชน สร้างแบรนด์ผ้าไหมมัดหมี่ MAKA OKME จนเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ
 
                      นางสาลินี วังตาล ผอ.สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สสว.จัดสัมมนา “เครือข่าย...เอสเอ็มอี เติบโตได้อย่างยั่งยืน” อันเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการสนับสนุนเครือข่ายเอสเอ็มอี 18 กลุ่มจังหวัด ณ โรงแรมเจริญธานี จ.ขอนแก่น เพื่อยกระดับความสามารถด้านการผลิต นวัตกรรม การเชื่อมโยงและพัฒนา การบูรณาการความร่วมมือผู้เกี่ยวข้อง แลกเปลี่ยนมุมมองความคิด แนวทางการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
 
                      โดยโครงการดังกล่าวมีหน่วยงานร่วมดำเนินการ ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมการเกษตร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ กรมการข้าว กรมประมง กรมปศุสัตว์ และกรมหม่อนไหม ทำหน้าที่พี่เลี้ยงสนับสนุนเครือข่ายสู่การพัฒนาเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย หนึ่งนั้นคือเครือข่ายผู้ประกอบการกลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโข บ้านดอนข่า ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ต้นแบบเครือข่ายที่ผู้ร่วมสัมมนาได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานของกลุ่ม
 
 
กลุ่มหัตถกรรม \'คุ้มสุขโข\' ต้นแบบเอสเอ็มอีเข้มแข็ง
 
 
                      ด้านนายทวี สุขโข ประธานเครือข่ายผู้ประกอบการกลุ่มหัตถกรรมคุ้มสุขโข กล่าวว่า กลุ่มผลิตผ้าไหมมัดหมี่สีธรรมชาติที่มีลายนพเก้าเฉลิมพระเกียรติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งผลิตภัณฑ์ผ้าไหมแบรนด์ “มาคา” (MAKA BRAND) มีขบวนการฟอกย้อมได้มาตรฐาน Organic สากล ได้รับการรับรองมาตรฐาน Green Production, Global Organic Textile Standard ซึ่งเป็นผ้าไหมแบรนด์เดียวที่ย้อมสีธรรมชาติด้วยน้ำหมักแบบย้อมเย็น และเลือกใช้วัสดุให้สีจากในท้องถิ่น เช่น ต้นราชพฤกษ์ มะเกลือ ปุ๋ยคอก รวมถึงผลิตชาใบหม่อน เบเกอรี่ลูกหม่อน น้ำชีวภาพหม่อน/ใบหม่อน ผลิตภัณฑ์มูลหม่อนเพื่อย้อมสีไหม ฯลฯ
 
                      ทั้งนี้ นายทวี เสริมว่า กลุ่มได้รับการสนับสนุนจาก สสว. ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติขอนแก่น และกรมหม่อนไหม ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โดยเฉพาะทำให้ผู้ประกอบการมองทุกประเด็นปัญหาแบบ 360 องศา มีแนวทางแก้ไขที่ชัดเจน มองปัญหาจากอดีต ความจริงในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต เพื่อหาแนวทางสร้างความมั่นคง ยั่งยืน รวมถึงมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญทำให้คนในชุมชนได้รับโอกาสสร้างงาน สร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว
 
                      “กลายเป็นวิถีใหม่ของคนในชุมชน ตอบโจทย์รายได้ที่มั่นคงเพิ่มขึ้น ทำให้ชุมชนบ้านดอนข่ากลายเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม หมู่บ้านสิ่งทอนาโน หมู่บ้านโอท็อปเพื่อการท่องเที่ยวและหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบในปัจจุบัน”
 
                      อย่างไรก็ตาม การจัดสัมมนาในหัวข้อดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ครั้งต่อไปจัดที่ภาคภาคเหนือและภาคกลาง (กรุงเทพมหานคร) ผู้ประกอบการที่สนใจร่วมงาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.08-3823-9116
 
 
 
 
--------------------
 
(ทำมาหากิน : กลุ่มหัตถกรรม 'คุ้มสุขโข' ต้นแบบเอสเอ็มอีเข้มแข็ง : โดย...ธานี กุลแพทย์)