ไลฟ์สไตล์

ตั้งกล้องวงจรปิดจับจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า

ตั้งกล้องวงจรปิดจับจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า

19 ต.ค. 2558

ตั้งกล้องวงจรปิดจับจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า : คอลัมน์ เปิดซองส่องไทย

 
 
          ผมอยู่แถวรามคำแหง ช่วงซอย 12 ถึง ซอย 22 ขณะนี้มีปัญหาเรื่องรถจักรยานยนต์ได้ขึ้นไปวิ่งบนฟุตบาท ซึ่งเป็นอันตรายจากการเฉี่ยวชนกับประชาชนผู้ที่เดินสัญจรไป-มาเป็นอย่างมาก  ผมเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก เพราะคนทำผิดมีอยู่ทั่วทุกแห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเจียดเวลามาคอยดักจับได้ตลอดเวลา
 
          ผมมีข้อเสนอแนะอยากให้ทาง สน. ทุก สน. ใน กทม. ดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดในจุดที่ที่มีรถจักรยานยนต์ได้ขึ้นมาวิ่งบนฟุตบาทเพื่อย้อนศร ให้กล้องบันทึกทะเบียนรถที่ทำผิด แล้วส่งใบสั่งเสียค่าปรับไปถึงบ้านผู้ทำกระทำความผิด ผมเชื่อว่าทางการจะได้รับค่าปรับเยอะแน่นอน โดยที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองแรงงานของเจ้าหน้าที่ และจะมีผู้กระทำผิดลดน้อยลงไปอย่างมาก
 
          และช่วงซอยนี้จะมีชาวบ้านใช้ทางฟุตบาทเป็นจำนวนมาก ถ้ารถจักรยานยนต์วิ่งย้อนศรอยู่เป็นประจำอย่างนี้ จะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่ใช้เส้นทางเดิน จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการแก้ไขจับกุมอย่างเร่งด่วน เพื่อคืนทางเท้าให้แก่ประชาชน
สุรศักดิ์
 
 
ตอบ
          พ.ต.อ.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร ชี้แจงว่า  กรณีผู้ขับขี่รถจักยานยนต์ขับขี่บนทางเท้าเป็นหนึ่งในความผิดตามกฎหมายจราจร   ที่มีผู้กระทำความผิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งความผิดที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีสภาพการจราจรหนาแน่น ผู้ที่กระทำผิดกฎหมายจราจรมิได้มีเพียงแค่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้าเท่านั้น แต่มีอีกหลายความผิดที่ผู้ขับขี่ขาดวินัยจราจรและขาดจิตสำนึกกระทำผิดในหลายข้อหา โดยเฉพาะการจอดรถแช่ป้าย จอดรถริมทางเท้าในพื้นที่ห้ามจอด เช่น ปาด เบียด แทรกบริเวณคอสะพาน และการฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร
 
          ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เมื่อพบผู้กระทำความผิด จะทำการออกใบสั่งเพื่อให้ไปเสียค่าปรับ และเป็นการป้องปรามมิให้มีการกระทำความผิดซ้ำอีก แต่จำนวนผู้ขับขี่ที่มีการกระทำความผิดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จากการที่ผู้ขับขี่ได้รับใบสั่งแล้วไม่เกรงกลัวกลับกฎหมายนั้น และยังเพิกเฉยต่อการเสียค่าปรับ เพราะส่วนใหญ่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนำส่งข้อมูลให้กรมการขนส่งทางบก แต่กรมการขนส่งทางบกไม่ดำเนินการอายัดการต่อทะเบียนประจำปี 
 
          กรณีผู้ขับขี่ถูกจับปรับโดยมีการยึดใบขับขี่ และไม่มาชำระค่าปรับ แต่ไปแจ้งขอทำใบอนุญาตขับขี่ใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมข้อมูลใบขับขี่ที่ยึดได้ส่งให้กรมการขนส่งทางบกเพื่ออายัดใบขับขี่ หากผู้ขับขี่แจ้งขอทำใบขับขี่ใหม่ ในส่วนของขั้นตอนการขอทำใบอนุญาตขับขี่นั้น เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกจะต้องมีการลงบันทึกเหตุผลในการขอทำใบอนุญาตขับขี่ใหม่ ถ้าแจ้งว่าทำใหม่ เพราะใบอนุญาตขับขี่หาย เมื่อมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าเป็นความเท็จ ผู้ขับขี่จะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึี่งมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 ดังนั้น แนะนำผู้ขับขี่ที่กระทำความผิด ขอให้ติดต่อชำระค่าปรับให้ถูกต้อง มิเช่นนั้นอาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
 
          อีกประเด็นหนึ่ง คือ ผู้ขับขี่ที่ทำผิดและถูกตรวจจับโดยกล้อง จะได้รับหมายเรียกให้ไปเสียค่าปรับ แต่ไม่ยอมที่จะไปเสียค่าปรับ ถึงแม้ว่าจะชำระภาษีหรือต่อทะเบียนรถได้ แต่ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 กำหนดว่าหากไม่ชำระค่าปรับตามกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกให้มาชำระ 2 ครั้ง หากเพิกเฉยไม่ชำระค่าปรับ เจ้าหน้าที่จะออกหมายจับเพื่อให้มาชำระค่าปรับให้ถูกต้อง ซึ่งกฎหมายจราจรมีอายุความ 1 ปี ดังนั้น เจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการได้ตลอดอายุความ นอกจากนี้การชำระค่าปรับช้าก็มีความผิดเช่นกัน คือ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีแผนในการกำหนดอายุความเพิ่มขึ้นเป็น 3 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและเสนอต่อสำนักงานกฎหมายและคดี สตช. เพื่อพิจารณา ก่อนส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกา
 
          สำหรับข้อเสนอแนะที่ประชาชนแนะนำเรื่องการติดตั้งกล้องจับความผิดรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้านั้น นโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.ู) และเป็นมาตรการที่ สตช. จะนำมาใช้ในต้นปีหน้านั้น ซึ่ง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช. แถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ต้นปีหน้า สตช. จะอนุมัติงบประมาณในการติดตั้งกล้องจับความผิดเพื่อตรวจจับผู้ขับขี่ที่ทำผิดกฎหมายจราจร ไม่ใช่แค่ขับขี่บนทางเท้าเท่านั้น แต่จะนำมาใช้ตรวจจับความผิดในจุดที่พบผู้กระทำความผิดบ่อยครั้ง เช่น ทางแยกสัญญาณไฟจราจร ป้ายรถประจำทาง และคอสะพาน ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรโดยรวมทั้งสิ้น นอกจากกล้องที่ติดอยู่กับที่แล้ว ผบ.ตร. มีนโยบายให้ สตช. ติดกล้องที่รถตำรวจจราจร เพื่อบันทึกภาพเส้นทางต่างๆ เป็นการกวดขันวินัยจราจรอีกช่องทางหนึ่ง หากดำเนินการตามมาตรการที่กล่าวมาได้ คาดว่าผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดกฎจราจรจะลดลงมากอย่างแน่นอน

......................................
(หมายเหตุ ตั้งกล้องวงจรปิดจับจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า : คอลัมน์ เปิดซองส่องไทย)