
ลุคใหม่สกสค.ในมือ'บิ๊กหนุ่ย'องค์กรใสสะอาด-ดูแลชีวิตครู?
ลุคใหม่สกสค.ในมือ'บิ๊กหนุ่ย'องค์กรใสสะอาด-ดูแลชีวิตครู? : ทีมข่าวการศึกษารายงาน
วงการครูถูกจับจ้องอีกคราวเมื่อ “บิ๊กหนุ่ย” พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เข้ามารับหน้าที่ดูแลการศึกษาในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยมารับไม้ต่อจาก “บิ๊กเข้” พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.ศึกษาธิการ พร้อมการบ้านเดินหน้าขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาตามโจทย์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการไว้ว่าต้องให้เห็นผลชัดเจนภายในเดือนกันยายน 2559
อีกงานใหญ่ที่นายกรัฐมนตรีสั่งเฉียบขาดคือ การสะสางปัญหาทุจริตในวงการแม่พิมพ์ โดยเฉพาะใน “สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา” (สกสค.) ซึ่งที่ผ่านมาถูกซุกไว้ “ใต้พรม” จนได้รับการขนานนามว่า...แดนสนธยา...
ดังนั้น เมื่อ พล.อ.ดาว์พงษ์ เข้ามากุมบังเหียนต่อจาก “บิ๊กเข้” เรื่องนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งงานยากที่จะพิสูจน์ฝีมือ “บิ๊กหนุ่ย” ว่าจะเข้าปัดกวาดขยะและไล่เหลือบไรที่หลบซ่อนอยู่ในวงการศึกษาได้หรือไม่ ยังต้องจับตาดู !!
อย่างไรก็ตาม “บิ๊กหนุ่ย” ย้ำชัดแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล ต้องไม่ให้คนที่เอาเงินไปและทำให้เราเสียหายอยู่อย่างสุขสบาย เขาต้องรับผิดชอบ พร้อมประกาศอีกว่า จะทำให้ สกสค.เป็นองค์กรที่ใสสะอาด เพื่อดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างแท้จริง
ล่าสุด นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ เลขาธิการ สกสค. นำทีมผู้บริหาร สกสค. ตบเท้าพบ พล.อ.ดาว์พงษ์ รายงานสถานการณ์การตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นใน สกสค. ทั้งการติดตามทวงคืนเงิน 2,100 ล้านบาท จากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) การตรวจสอบกรณี สกสค.นำเงินไปซื้อหุ้นกับบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด 800 ล้านบาท การรับฝากขายหนังสือกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งยังมีปัญหา ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพราะเป็นหนังสือที่ซื้อมาจากองค์การค้าของสกสค.เอง ทุกเรื่องเหล่านี้สังคมยังรอคำตอบ
ว่ากันว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ ได้ขอให้สำนักงาน สกสค.ไปช่วยคิดหาแนวทางที่จะส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมกับการแก้ปัญหาทุจริต เพื่อให้ สกสค.เป็นองค์กรพัฒนาคุณภาพชีวิตครูที่สมบูรณ์ โดยการรีแบรนดิ้งองค์กร ปรับการบริหาร จากเดิมที่เน้นปล่อยกู้ในหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการสวัสดิการเงินกู้...ที่เลื่องชื่อที่สุดคือ “โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา" (ช.พ.ค.) วงเงินกู้เริ่มที่หลักแสนบาทและขยายเนื่องหลายรุ่นจนถึงปัจจุบันเป็นโครงการ ช.พ.ค. 7 ที่ให้ยอดวงเงินกู้พุ่งสูงสุดถึง 3 ล้านบาท และมีเสียงร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากล !
ผลที่เกิดขึ้นกลายเป็นว่า สกสค. คือส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินครู เพิ่มภาระ จนปัจจุบันครูมียอดหนี้ทั้งในและนอกระบบรวมถึง 1 ล้านล้านบาท เฉพาะในระบบยอดหนึ้สูงถึง 5 แสนล้านบาท เท่ากับว่าสวัสดิการที่สกสค.จัดไว้ยังไม่ถูกที่ถูกทาง หรือเรียกว่า เกาไม่ถูกที่คัน... สาเหตุที่ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นหนี้มหาศาล เพราะมีช่องทางกู้ได้ง่าย ขาดวินัยทางการเงิน และใช้จ่ายเกินตัว บางรายหนี้พอกจนเงินเดือนที่ได้ก็ไม่พอจ่ายหนี้ ขาดเงินหมุนเวียนที่จะต้องใช้เพื่อการดำรงชีวิตของตนเองและครอบครัว เมื่อหมดหนทางก็หันไปกู้ยืมเงินนอกระบบ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในการแก้ไขปัญหาหนี้ครู..เวลานี้สกสค.ได้นำเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการ ช.พ.ค.ไปจ่ายหนี้แทนครูที่ค้างชำระหนี้ติดกัน 3 งวดแล้วประมาณ 5,000 ล้านบาท และได้หยุดชำระหนี้แทนไว้แล้ว เพราะเดิมแต่ละเดือนสกสค.ต้องจ่ายแทนเฉลี่ย 100 ล้านบาท ซึ่งเงินที่จ่ายหนี้แทนนี้ไม่ได้ให้ฟรีๆ แต่ช่วยต่อลมหายใจแก่ครูที่เป็นหนี้ เพราะสุดท้ายสกสค.ก็จะเรียกเงินคืนจากลูกหนี้ทั้งหมดเพื่อให้กองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ยังเดินหน้าต่อไปได้
ขณะที่ ข้อมูลจากการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาของ ศธ. และธนาคารออมสิน ที่แบ่งลูกหนี้เป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกหนี้วิกฤติรุนแรง, กลุ่มลูกหนี้ใกล้วิกฤติ คือลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระเกินกว่า 12 งวดติดต่อกัน นับถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2558, กลุ่มลูกหนี้ที่ค้างชำระไม่เกิน 12 งวดติดต่อกันนับถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2558 และกลุ่มลูกหนี้ปกติพบว่ามีผู้ลงทะเบียน 21,680 ราย มูลค่าหนี้ประมาณ 34,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี คำสั่งและนโยบายจากข้างบนที่ให้ไปคิดโครงการสวัสดิการที่น่าดึงดูดใจ ทำให้ พินิจศักดิ์ เร่งไปสำรวจความต้องการสวัสดิการของครูและสรุปเรียบร้อย เท่าที่เลียบเคียงมาหลักๆ จะเป็นการดำเนินการในเรื่อง ค่ารักษาพยาบาล เงินตอบแทนพิเศษ ที่อยู่อาศัย การศึกษา ค่าเทอมบุตร การดูแลชีวิตครูหลังเกษียณอายุราชการ เป็นต้น รอเพียงชงให้ “บิ๊กหนุ่ย” เซย์เยสก็พร้อมเดินหน้าทันที
ลุคใหม่ของสกสค.ยุคบิ๊กหนุ่ย จะใสสะอาด ไร้เหลือบไรเกาะกิน และเป็นองค์กรที่เป็นที่พึ่งของครู ดั่งคำขวัญที่ว่า “ชีวิตครูเราดูแล” หรือไม่ ???