ไลฟ์สไตล์

กินเจสร้างบุญเสริมสุขภาพ

กินเจสร้างบุญเสริมสุขภาพ

12 ต.ค. 2558

กินเจสร้างบุญเสริมสุขภาพ

              เทศกาลกินเจปีนี้ ตรงกับวันที่ 13-21 ตุลาคม 2558 หรือ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน บ้านไหนที่เคร่งครัดต่อการถือศีลกินเจ จะล้างภาชนะ ข้าวของเครื่องใช้ และล้างท้องกันล่วงหน้า 1 วัน หรือการกินอาหารเจล่วงหน้า 1 วัน เพื่อชะล้างเนื้อสัตว์ อาหารคาวต่างๆ ให้หมดไป เหมือนเป็นวันสุกดิบ เพื่อเตรียมร่างกายให้สะอาด พร้อมสำหรับการถือศีลกินเจ
 
              การกินเจนั้น ไม่ได้มีความหมายแค่ว่า ห้ามกินเนื้อสัตว์ แต่จะต้องสวดมนต์ รักษาศีลด้วย รวมทั้งต้องชำระร่างกายให้สะอาดบริสุทธิ์ นุ่งขาว ห่มขาวให้สุภาพเรียบร้อย สำรวมกิริยา วาจา ไม่พูดจาส่อเสียด หยาบโลน หรือกล่าวถ้อยคำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจแก่ผู้ใด และต้องทำจิตใจให้ปราศจากอาการอิจฉาริษยา ลด ละ เลิกอบายมุขต่างๆ ถึงจะเรียกได้เต็มปากว่า “ถือศีลกินเจ” สร้างบุญให้แก่ตัวเอง
 
              สมัยนี้แหล่งอาหารเจมีมากมาย ทั้งอาหารสดที่จะซื้อมาทำเอง ขนาดว่าเดินตามห้างสรรพสินค้าก็หาซื้อได้ หรือจะลงจากห้าง เข้าตลาดสด ย่านที่เป็นแหล่งขายอาหารเจขึ้นชื่อ ไม่พ้น “ย่านเยาวราช” ได้อาหารมาประกอบเมนูขึ้นโต๊ะกันแล้ว อาหารเจ เสริมสุขภาพ หลายคน สงสัยล่ะสิ!! อาหารเจส่วนใหญ่มีแป้งเป็นส่วนประกอบ เนื้อสัตว์เทียมทั้งหลายก็ทำจากแป้งเป็นหลัก อาหารทอดก็เยอะ มีทั้งเผือกทอด เต้าหู้ทอด ไชเท้าทอด แถมน้ำจิ้มก็ยังใส่น้ำตาล อาหารผัดก็มีมาก เช่น หมี่ผัด ก๋วยเตี๋ยวผัดก็มาก นึกสภาพออกเลยว่า ถ้าเรากินเจโดยไม่เลือกรับประทานอาหาร หรือรับประทานอาหารไม่ครบหมู่ มีหวังน้ำหนักพุ่งพรวด ไม่น้ำตาลขึ้นก็คอเลสเตอรอลขึ้นแน่
 
              อาหารจำพวกแป้งไม่ได้เลวร้าย เพราะเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง ช่วยการเผาผลาญ ถ้ารับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ จะให้ดีต้องเลือกรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ร่างกายเราก็จะยังแข็งแรง ขณะเดียวกันอาจจะรีดน้ำหนักส่วนเกินออกไปได้บ้าง ลองใช้จังหวะนี้ปรับเปลี่ยนอาหารรับประทานดู
 
              อาหารจำพวกแป้ง เปลี่ยนไปรับประทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว (ใครไม่ชอบรับประทานข้าวกล้องเพียวๆ ก็เริ่มจากผสมกับข้าวขาวตอนหุงก็ได้) ส่วนเนื้อสัตว์ก็ให้ใช้เห็ด ซึ่งมีสารพัดชนิด ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง รวมถึงที่แปรรูปเป็นโปรตีนเกษตร, ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง หากรับประทานควบคู่กับงาขาวหรืองาดำก็จะสามารถทดแทนเนื้อสัตว์ได้ถึง 100%
 
              ส่วนผักให้เน้นรับประทานผักใบมากกว่าผักหัว ควบคู่กับการรับประทานผลไม้สด น้ำผลไม้ก็ควรคั้นสด มาถึงกรรมวิธีการปรุง ควรเลี่ยงการทอดหรือเมนูที่ใช้น้ำมันเยอะๆ เปลี่ยนมาเป็นต้ม นึ่ง ตุ๋น จะดีกว่า
 
              งา เป็นพืชที่ให้คุณค่าทางอาหารสูง และมีโปรตีนมากถึง 20% ให้กรดอะมิโนตัวสำคัญที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ชื่อ เมทไธโอนีน ขณะที่กรดอะมิโนตัวอื่นมีในถั่ว ฉะนั้น ถ้ากินถั่วพร้อมกับงาก็จะได้โปรตีนครบถ้วน นอกจากนี้ งา ยังมีแร่ธาตุมากราว 4.1-6.5% ที่สำคัญคือ ธาตุเหล็ก ไอโอดีน สังกะสี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงเลือด, บำรุงผิวหนัง กระดูกและฟัน ทำให้ไม่เป็นตะคริวง่าย โดยเฉพาะแคลเซียมในงามีมากกว่าพืชผักทั่วไป 40 เท่า รวมทั้งป้องกันโรคคอพอก ธาตุสังกะสี บำรุงผิวหนัง แคลเซียม และฟอสฟอรัส บำรุงกระดูกและฟัน และทำให้ไม่เป็นตะคริวง่าย นอกจากนี้งายังมีวิตะมินอีมาก จนเรียกกันว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยให้ร่างกายสดชื่น แก่ช้า
 
              ผู้ถือศีลกินเจ ที่เป็น คอกาแฟ ก็ยังดื่มได้ตามปกติ แต่ต้องเลือกเพียงบางเมนู ที่ไม่ใส่นม หรือครีม เช่น เอสเปรสโซ่ อเมริกาโน่ร้อนหรือเย็น หรือเพื่อความสบายใจก็ชงเอง แค่กาแฟดำใส่เฉพาะน้ำตาล ดีกว่า หรือดื่มชา ก็ควรเป็นน้ำชาที่ไม่ใส่ครีมเทียม หรือ นม
 
              นมถั่วเหลือง (Soy Milk) ควรเลือกที่มีเครื่องหมาย “เจ” เพราะนมถั่วเหลืองสูตรปกติทั่วไปจะมีส่วนผสมของนมผงขาดมันเนยรวมอยู่ด้วย
 
              เดี๋ยวนี้ พอถึงช่วงเทศกาลกินเจ จะเห็นร้านอาหาร แผงลอย ติดธงเจกันเป็นแถบ บางร้านเราอาจจะแน่ใจได้ แต่ไม่ใช่ทุกร้าน เพราะข้อห้ามของอาหารเจ ก็พวกเนื้อสัตว์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ทุกชนิด ซึ่งจะเคร่งครัดกว่าการรับประทานมังสวิรัติเสียอีก ยิ่งถ้าถือศีลกินเจอย่างเคร่งครัด จะไม่รับประทานอาหารจากร้านที่ขายอาหาร “ชอ” (อาหารทั่วไปมีเนื้อสัตว์) ร่วมกับอาหาร “เจ” ด้วยเด็ดขาด
 
ข้อห้ามและข้อปฏิบัติในการกินเจ
 
              1.งดเว้นเนื้อสัตว์ หรือทำอันตรายต่อสัตว์
 
              2.งด นม เนย หรือน้ำมันที่มาจากสัตว์
 
              3.งดอาหารรสจัด หมายถึง อาหารรสเผ็ดมาก เค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมาก
 
              4.งดผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด คือ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ รวมทั้งเครื่องเทศที่มีกลิ่นฉุน
 
              5.ห้ามดื่มสุรา ยาสูบ และของมึนเมา ทุกชนิด
 
              6.ห้ามมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงงานถือศีล กินผัก
 
              7.รักษาศีล 5
 
              8.รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ให้คงที่ พูดจาไพเราะ
 
              9.ทำบุญ ทำทาน บางคนที่เคร่งอาจนุ่งขาว ห่มขาว
 
              10.สำหรับคนที่เคร่งมากๆ จะไม่ใช้จานชามปะปนกัน (ต่อ) หน้าพิเศษ - กินเจ // 12 ตุลาคม 2558
 
อิ่มบุญ อิ่มใจ ที่โรงเจ
 
              เทศกาลกินเจปีนี้ คึกคักกว่าปีไหนๆ เพราะคนส่วนใหญ่หันมาสนใจถือศีลกินเจกันมากขึ้น โรงเจแต่ละแห่งเตรียมงานบุญกันคึกคัก เพื่อรองรับผู้ที่จะมาถือศีล โรงเจหลายแห่งตั้งงบเพื่อกิจกรรมครั้งนี้กันแห่งละไม่ใช่น้อย อาหารส่วนหนึ่งก็มาจากผู้ใจบุญร่วมกันบริจาค ส่วนใครจะไปถือศีลกินเจที่โรงเจแห่งไหน ลองมาดูกันว่า สถานที่จัดงานกินเจกันยิ่งใหญ่ปีนี้ มีที่ไหนบ้าง
 
เยาวราช จัดงานเจใหญ่สุดในกรุงเทพฯ
 
              ย่านเยาวราช หรือ ไชน่าทาวน์ เป็นย่านที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่มาก งานประเพณีสำคัญๆ ที่สืบทอดกันมา ไม่มีขาดตกบกพร่อง ปี 2558 นี้ เยาวราชประกาศจัดงาน 9 วัน 9 คืน ให้เป็นงานกินเจยิ่งใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ โดยสถานที่จัดงานเริ่มตั้งแต่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา และถนนเยาวราชไปจนถึงแยกเฉลิมบุรี เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีถือศีลกินเจ
 
              งานนี้บอกได้เลยว่าเพลิดเพลินไปกับอาหารเจรสเลิศ จากร้านอาหารเต็มถนนเยาวราชตลอดทั้ง 9 วัน 9 คืนแน่ๆ แล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น “ผัดหมี่ทองคำ แปดเซียน วิหารเทพ” เป็นเมนูมงคลกระทะใหญ่, การสาธิตการทำอาหารประจำชาติของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ทั้ง 10 ประเทศ ในรูปแบบของอาหารเจ, ร่วมชมขบวนแห่รถบุปผชาติทองคำ เจ้าแม่กวนอิม ประดับไฟอันสวยงาม, ร่วมลุ้นรับของรางวัลมากมาย
 
              นอกจากนี้ ใครจะไหว้พระรอบถนนเยาวราชก็มีรถรางยูโอบี บริการทัวร์ไหว้พระฟรี, มีการเชิญผงธูปจาก 22 ศาลเจ้าในเยาวราช ซึ่งถือเป็นพลังแห่งพรอันประเสริฐ นำมารวมกันไว้ที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา และร่วมการสวดมนต์ถวายกิวอ๋อง ฮุกโจ้ว เพื่อขอพรจากพระเจ้าทั้ง 9 องค์
 
กินเจ ณ เอเชียทีค
 
              แหล่งตลาดกลางคืน ไนท์มาร์เก็ต แหล่งรวมร้านอาหาร ร้านกิน-ดื่ม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กินเจปี 2558 นี้ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ ขอเชิญชวนทุกท่านมาอิ่มบุญ อิ่มใจ ในเทศกาลกินเจ ตลอด 9 วันด้วยเช่นกัน ซึ่งภายในงาน มีการออกร้านอาหารเจ กว่า 50 ร้าน ให้ผู้ร่วมงานได้อิ่มอร่อย รับโชคลาภกับหมี่มงคลกระทะยักษ์ เสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต มีการจัดบรรยายธรรมะ และร่วมเสวนาเรื่องเทศกาลเจ ตลอดจนสักการะเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ 9 ดาว บริเวณเทียนฐาน พร้อมรับของที่ระลึกได้ทุกวัน
 
โรงเจเช็งฮกตั๊ว ศรีราชา โรงเจแห่งแรกของเมืองไทย
 
              โรงเจเช็งฮกตั๊ว หรือ โรงเจศรีราชา ถือกำเนิดขึ้นมาจากการที่มีพิธีขุดศพไม่มีญาติ (ล้างป่าช้า) เพื่อจัดประกอบพิธีฌาปนกิจ และบำเพ็ญกุศลให้ถูกต้องต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เสียชีวิตจากไข้ป่า (มาลาเรีย) ตั้งแต่สมัยที่จอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสงชูโต) แม่ทัพท่านหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้จัดตั้งบริษัททำไม้ขึ้นที่ อ.ศรีราชา เมื่อ พ.ศ.2443 ซึ่งสมัยนั้นพื้นที่ศรีราชายังเป็นป่าหนาทึบ มีไข้ป่าชุกชุม
 
              การขุดหาศพระยะแรก ประสบกับปัญหาต่างๆ นานา คณะกรรมการจึงได้ไปเชิญนายโค้วอัวซิม และนายโค้วเซ่งจง ชาวจีนที่อพยพ ขายของหาบเร่อยู่ตลาดศรีราชา-ตลาดหนองมน จ.ชลบุรี เนื่องจากทั้งคู่มีประสบการณ์ในการล้างป่าช้าในเมืองจีนมาก่อน และได้อัญเชิญเฮียห้วย (เถ้าธูป) จากศาลเจ้าโป๊ยเซียนโจวซือ ที่เมืองจีน ติดตัวมาเมืองไทยด้วย จึงได้เริ่มการขุดศพไม่มีญาติอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2468 และพิธีล้างป่าช้าก็ได้สืบทอดต่อมา รวมถึงประเพณีกินเจ ด้วยศรัทธาเชื่อถือในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขององค์เทพต่างๆ ที่ชาวจีนให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใส ซึ่งสมัยก่อนต้องเดินทางไปร่วมพิธีที่โรงเจเป้าฮกตั๊ว ในตัวเมืองชลบุรี ด้วยความยากลำบากเรื่องการเดินทาง ชาวจีนศรีราชาจึงได้ร่วมใจกันสร้างโรงเจเช็งฮกตั๊วขึ้นในตลาดศรีราชา เมื่อ พ.ศ.2503 ก่อนจดทะเบียนเป็นสมาคมพุทธมามกสว่างประทีปธรรมสถาน ชื่อภาษาจีนว่า เม่งเต็งเซี่ยงตั้ว ในปี 2512 สำหรับเทศกาลกินเจปีนี้ ทางโรงเจติดป้ายประกาศเชิญชวนผู้คนร่วมกันถือศีลกินเจทั่วเมือง ซึ่งทางโรงเจได้ตระเตรียมสถานที่ไว้พร้อมรับรอง รวมถึงการประกอบอาหารแจกจ่ายเหมือนทุกปี ตั้งแต่ 13-21 ตุลาคม 2558
 
              2 โรงเจ เมืองจันท์ จัดกินเจคึกคัก โรงเจ 2 แห่ง ใน จ.จันทบุรี คือ โรงเจบ้วนเฮงเจตั๊ว วัดเขตร์นาบุญญาราม และ โรงเจเม่งหงีเจตั๊ว สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี จัดเตรียมสถานที่ขึ้นป้ายเทศกาลถือศีลกินเจติดโดยรอบตัวเมืองจันทบุรี และพิธีอัญเชิญตะเกียงเทพยดา ฟ้า ดิน ขึ้นสู่เสามังกร ประกาศวันถือศีลกินเจอย่างเป็นทางการเริ่มตั้งแต่วันนี้ (12 ตุลาคม 2558) มีการการอัญเชิญองค์องค์กิ๋วอ๊วง ฮุกโจ๊ว ไปยังศาลเจ้าแม่กวนอิม และทำพิธีแห่ไปรอบตัวเมืองจันทบุรี เพื่อประกาศการเข้าสู่เทศกาลถือศีลกินเจของ จ.จันทบุรี
 
              ขนาดว่าเริ่มก่อนใคร แต่พ่อค้าแม่ค้าก็ไวกว่า ไปตั้งโต๊ะ ตั้งเต็นท์บริเวณหน้าโรงเจทั้ง 2 แห่ง เปิดขายอาหารเจตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว และขอเชิญชวนมาร่วมกันถือศีลกินเจ จนถึงวันที่ 21 ตุลาคมนี้
 
              ไหว้เจ้า 9 ศาล สมุทรสาคร การถือศีลกินเจ ถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีนที่สมุทรสาครด้วย ที่นี่สมัยก่อนเป็นเมืองท่ามีชาวจีนอพยพมาตั้งรกราก ทำมาหากินจำนวนมาก รวมทั้งมีการสร้างศาลเจ้าเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจจำนวนมาก พอถึงช่วงเทศกาลกินเจ ตามศาลเจ้าต่างๆ จึงคึกคักไปด้วยผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้ขอพร และถือศีลกินเจกัน จ.สมุทรสาคร ยังจัดกิจกรรมพิเศษ ทำเป็น Passport ไหว้เจ้า 9 ศาล โดยเมื่อประทับตราศาลเจ้าครบทั้ง 9 ศาลแล้ว สามารถนำไปขอรับเหรียญ “เจ้าแม่จุ๋ยบ๋วยเนี้ย” ได้ฟรี ที่ศาลเจ้าแม่จุ๋ยบ๋วยเนี้ย (ศาลเจ้าแม่ทับทิม) ต.ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร สำหรับ Passport ขอรับได้ที่ศาลเจ้าทั้ง 9 แห่ง แบ่งเป็นศาลเจ้าฝั่งมหาชัย 4 แห่ง คือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร, ศาลเจ้าโรงเจมูลนิธิการกุศลสมุทราสาคร, ศาลเจ้าแม่กวนอิมพันมือคลองจาก, ศาลเจ้าปุนเถ้ากงมหาชัย, และศาลเจ้าฝั่งท่าฉลอม 5 แห่ง คือ ศาลเจ้าโรงเจเช็งเฮียงตั้ว, ศาลเจ้าพ่อกวนอู, ศาลเจ้าแม่จุ๊ยบ๋วยเนี้ย, ศาลเจ้าปุนเถ้ากงท่าฉลอม และอุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิมท่าฉลอม
 
              นอกจากนี้ บริเวณข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ยังมีการจำหน่ายอาหารเจกว่า 100 เมนู จากร้านค้ากว่า 50 ร้านที่มีการควบคุมคุณภาพ ความสะอาดปลอดภัย จากสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร จึงขอเชิญชาวไทยเชื้อสายจีนหรือผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานดังกล่าว เพื่อสืบสานประเพณีถือศีลกินเจอันดีงามให้คงอยู่สืบไป
 
              กินเจอาเซียน ที่หาดใหญ่ หาดใหญ่ จัดงานเทศกาลกินเจยิ่งใหญ่ มาทุกปี ถือเป็นงานประจำปีของ อ.หาดใหญ่ และ จ.สงขลา เลยทีเดียว โดยงานปีนี้ จัดที่บริเวณสวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ ตรงข้าม ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 13-21 ตุลาคม 2558 ภายในงานมีทั้งกิจกรรมน่าสนใจมากมาย อาทิ ขบวนแห่ม้าทรงเปิดงาน, ขบวนแห่เทศกาลกินเจจากศาลเจ้าต่างๆ ใน อ.หาดใหญ่, การแสดงมังกรทอง-สิงโตจาก จ.นครสวรรค์, การแสดงบนเวที, การแข่งขันกินอาหารเจ, การสาธิตปรุงอาหารสูตรพิเศษ “เมนู 9 มงคล” จากเหล่าคนดัง
 
              นอกจากนี้ ยังมีการประกวดหนูน้อยสมบูรณ์และการประกวดธิดาเจ รวมไปถึงการออกร้านจำหน่ายอาหารเจนานาชนิดกว่า 108 ร้าน ที่อร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัย และที่พิเศษกว่าปีก่อนๆ คือ มีการออกร้านจำหน่ายอาหารเจจาก 10 ประเทศในอาเซียน ให้แก่ผู้ที่เข้ามาเที่ยวงานได้ชิมกันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
 
แห่พระ ลุยไฟ ประเพณีถือศีลกินผักที่ภูเก็ต
 
              งานเทศกาลกินเจที่ภูเก็ต จะเรียกว่า “เทศกาลถือศีลกินผัก” ซึ่งมาจากคำภาษาจีนที่ว่า “เจี๊ยะฉ่าย” หมายถึง การกินอาหารผัก อาหารที่มาจากพืชผักธรรมชาติ ไม่มีเนื้อสัตว์ปะปน และไม่ปรุงด้วยผักฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ เป็นลัทธิเต๋าซึ่งนับถือบูชาเซียนเทวดา เทพเจ้า วีรบุรุษ เป็นประเพณีที่คนจีนนับถือมาช้านาน โดยเฉพาะคนจีนฮกเกี้ยน
 
              เทศกาลนี้ถือเป็นงานยิ่งใหญ่ที่ชาวภูเก็ตสืบทอดกันมานานนับร้อยๆ ปี ด้วยความที่เป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ มีศาลเจ้าดังๆ มากมาย ประกอบกับพิธีกรรมบูชาเทพเจ้า และการแห่ของศาลเจ้าต่างๆ ทั่วจังหวัด จนกลายเป็นจุดขายนักท่องเที่ยว
 
              ในช่วงเทศกาลถือศีลกินผัก มีการจัดงานศาลเจ้าต่างๆ ทั่วทั้งเกาะภูเก็ต ทั้งการจัดพิธีกรรมแห่พระ ลุยไฟ ไต่บันไดมีด และพิธีสะเดาะห์เคราะห์ ที่จากทุกศาลเจ้าในแต่ละวัน สำหรับปี 2558 นี้ นับจากวันล้างท้องและเริ่มเข้าสู่เทศกาลกินเจ จะเริ่มมีการแห่พระรอบเมือง ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2558 วันละ 1-2 ศาลเจ้า ส่วนพิธีลุยไฟ จัด 3 วัน คือ วันที่ 18 ตุลาคม 2558 เริ่มตั้งแต่ 20.00 น. ซึ่งจะมีอ๊ามเข้าร่วมพิธีลุยไฟมากถึง 6 แห่ง จากนั้นจะมีอีกครั้งในวันที่ 20 ตุลาคม เวลา 20.00 น. และปิดท้ายด้วยการลุยไฟ ของอ๊ามหล่ายถู่ต่าวโบ้เก๊ง (กะทู้) ในวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 15.00 น.
 
              (การเข้าร่วมพิธีลุยไฟ จะมีข้อห้ามคนเกิดปีชง หญิงที่ตั้งครรภ์ และหญิงที่มีรอบเดือน เข้าดูหรือร่วมในพิธี)
 
              ไปถึงภูเก็ต ควรเดินทางไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่งเพื่อความเป็นสิริมงคล-วัดพระทอง นมัสการพระผุด จะได้มีเงินมีทอง-อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี ท้าวศรีสุนทร เพื่อระลึกถึงสองวีรสตรีศรีถลาง ผู้กล้าของแผ่นดิน-ศาลเจ้ากะทู้ ไหว้องค์เล่าเอี้ย เพื่อขอพรให้เป็นผู้มีเสน่ห์ เป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย-ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย ไหว้รวมองค์เทพ เพื่ออธิษฐานให้สุขภาพแข็งแรง-ศาลเจ้าแสงธรรม ไหว้องค์สุ่นต่ายไส่ เพื่อให้เป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด-ศาลเจ้าปุดจ้อ นมัสการเจ้าแม่กวนอิม ไทโส่ยเอี๋ย (เทพดาวนพเคราะห์) และจ่ายสินเอี๋ย (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) เพื่อสะเดาะห์เคราะห์และขอพรรับโชค-ศาลเจ้าบางเหนียว ไหว้สามต่องอ๋อง เพื่อให้เจริญก้าวหน้าทางอาชีพและการงาน-ศาลเจ้ากิ้วเที้ยนเก้ง (ปลายสะพานหิน) ที่ไม่ได้รับความเสียหายราวปฏิหาริย์จากธรณีพิบัติภัย คลื่นยักษ์สึนามิ ไหว้องค์กิ้วเที้ยนเฮียนลื้อ และองค์ซำโป้ฮุก เพื่อให้เกิดสขทางบารมี
 
              กินเจ จะอยู่บ้านหรือไปศาลเจ้า เข้าโรงเจ ก็ตามสะดวก แค่ไม่ลืมว่า การกินเจจะได้บุญ หลักใหญ่ไม่ใช่อยู่ที่อาหารซึ่งละเว้นเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่ต้องถือศีล ภาวนา ไปด้วย เพียง 9 วัน ก็อิ่มบุญ อิ่มสุข ทั้งกายและใจแน่ๆ