
'พลังรัก'ของบ้านเอื้อพรที่ชุมพร
10 ต.ค. 2558
พลังรักของบ้านเอื้อพรที่ชุมพร : คอลัมน์ คลินิคคนรักบ้าน โดย... ดร.ภัทรพล
ย้อนเวลากลับไปในปี พ.ศ.2526 คุณ “นารดา แก้วนาพันธ์” ซึ่งในช่วงนั้นทำงานอาสาสมัครของโครงการ “มูลนิธิพระกรุณาธิคุณ” และทำงานกับเด็กที่โครงการบ้าน “หมอเพียร” (ดร.เพียร เวชบล) ได้พบเห็นความทุกข์ยากเด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาสรวมไปถึงบรรดาเด็กถูกทอดทิ้ง ปัญหาเหล่านี้จะเห็นได้ในทุกพื้นที่แทบทุกจังหวัดครับ จึงมีความปรารถนาที่จะช่วยเหลือเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ “ชุมพร” ซึ่งเป็นถิ่นเกิด โดยก่อตั้งสถานรับเลี้ยงดูแลเด็ก เริ่มดำเนินการในปี พ.ศ.2540 อุปการะเด็กกำพร้าเด็กด้อยโอกาส เด็กที่ถูกทอดทิ้งในเขตอำเภอ “ละแม” ต่อมาได้ขยายมาเป็นบ้าน “เอื้อพร” (องค์กรเพื่อสาธารณประโยชน์โดยไม่หวังผลกำไร) ในปี พ.ศ.2553 มุ่งเน้นการช่วยเหลือเด็กในด้านปัจจัย 4 พร้อมทั้งการศึกษา
บ้าน “เอื้อพร” แห่งนี้จึงมีภารกิจหลักในการเปิดรับดูแลเด็กด้อยโอกาส เด็กพิเศษในเขต ชุมพร, ระนอง และบางส่วนใน สุราษฎร์ธานี ซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี บ้านพักแห่งนี้ได้กำหนดภารกิจ ค่านิยม และวัตถุประสงค์ไว้อย่างชัดเจนจนกระทั่งในปัจจุบันบ้าน “เอื้อพร” มีเป้าหมายดำเนินงานเพื่อช่วยเด็กพิการ เด็กที่อยู่ในสภาพยากลำบาก เด็กที่ผู้ปกครองไม่สามารถอุปการะเลี้ยงดูได้ด้วยเหตุใดๆ เด็กกำพร้ายากจน เด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ และคุณแม่วัยใส ซึ่งการดำเนินงานสามารถจำแนกได้ 2 กลุ่มดังนี้ครับ
แผนให้การช่วยเหลือคุณแม่วัยใสที่ถูกปฏิเสธจากครอบครัว เน้นการช่วยเหลือที่พักอาศัย อาหารที่พอเพียง การเยียวยา การฟื้นฟูทางจิตใจ ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นซึ่งตั้งท้องไม่พึงประสงค์ ผู้หญิงเหล่านี้จะพักอาศัยในบ้าน “เอื้อพร” จนกระทั่งคลอด
แผนช่วยเหลือเด็กและดูแลเด็กที่มาจากคุณแม่ซึ่งพักอาศัยอยู่ร่วมทั้งเด็กที่ถูกล่วงละเมิด เด็กถูกทอดทิ้ง โดยในบ้านมีครูและพี่เลี้ยงอาสาสมัครคอยให้การดูแลพัฒนาทั้ง 4 ด้าน ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา มีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมสร้างความเชื่อมั่นในตนเองได้ครับ
ในปัจจุบันมีเด็กกว่า 30 ชีวิต ที่ต้องการความช่วยเหลืออาศัยใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน “เอื้อพร” และที่น่าสะเทือนใจคือ บ้านแห่งนี้ที่ได้ถูกนำไปจดจำนอง เพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ กำลังจะถูกธนาคารยึดครับ จากเหตุการณ์ที่คับขันจึงเกิดการรวมตัวกันในการสร้างพลังแห่งรัก + พลังแห่งศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของคนตัวเล็กๆ เพื่อบ้าน “เอื้อพร” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผมได้เข้าไปมีส่วนร่วมในบรรยากาศคอนเสิร์ตการกุศล “พลังแห่งรัก” เพื่อบ้าน “เอื้อพร” ที่จัดขึ้นที่ “ศาลาเฉลิมกรุง” ซึ่งในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย มีการประมูลเสื้อพร้อมลายเซ็นศิลปิน อาทิ พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ฯลฯ เพื่อหารายได้สมทบทุนให้
ผมได้เห็นผู้คนมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ทะลุเป้า สู่ฝันที่เป็นจริง ผมเห็นความทุ่มเทของคนที่เป็นผู้จัดมาลงแรง ลงความคิด ลงเวลา ลงเงิน ลงมือทำอะไรต่อมิอะไร ทุกคนทำอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ ไม่มีเหตุผล เดินตรงไปสู่เป้าหมาย สร้างความสัมพันธ์ที่ดี สื่อสารกันด้วยภาษาดีๆ ทุกวันจบด้วยความสัมพันธ์ที่ดีๆ ต่อกัน สร้างโครงสร้าง แบ่งงาน ติดตามงานทุกวัน มีอาวุธแค่การโน้มน้าว ไม่ใช้การบีบบังคับ ไม่มีเงินฟาด มีแต่ร้องขอ เผชิญต่อการตอบรับและปฏิเสธมากมาย ไม่มีอะไรเสียหน้า แค่กลับไปที่พันธสัญญา ความตั้งใจเสมอ ไม่ให้ความหมายใดๆ ตกค้างคาใจ
โครงสร้างการทำงานแบบง่ายๆ นี้ ก็พาคณะทำงานคอนเสิร์ต (ที่ในชีวิตจริงไม่เคยทำคอนเสิร์ตแบบนี้มาก่อน) กว่า 30 คน ใช้เวลาเตรียมงานเพียง 30 วันประสบความสำเร็จอย่างสูงชนิดที่ต้องติดตราตรึงใจไปอีกนาน นับตั้งแต่วันที่เริ่มประกาศว่าจะหารายได้ให้ได้ 3 ล้านบาท++ แก่บ้าน “เอื้อพร” อันเป็นสถานสงเคราะห์สตรีและเด็กที่ถูกกระทำ จากการที่ที่ดินที่ตั้งบ้าน “เอื้อพร” กำลังจะถูกธนาคารยึด จึงมีจิตอาสาอยากช่วย โดยเริ่มจากการที่ไม่มีอะไรเลย ตั้งใจทำภายใต้ความทุ่มเท ร่วมแรงร่วมใจ มีความมุ่งมั่นที่จะหารายได้ 3 ล้านบาท++ครับ โน้มน้าวศิลปิน ใจดี ได้เกือบ 20 คน หาสปอนเซอร์ใจบุญได้ 28 ราย มีคนร่วมทำงาน ประสานกันเกือบร้อยชีวิต
มีผู้คนร่วมบริจาคทุนทรัพย์เป็นร้อยราย มีคนซื้อบัตรทุกราคาเต็มทุกที่นั่ง มีหลายคนเปิดคอร์สพิเศษ เพื่อหารายได้มาสมทบ (รวมทั้งผมที่กำลังจะเปิดคอร์สพิเศษเพื่อหารายได้มาช่วย) มีบริษัทบริจาคสินค้ามาร่วม มีการขายเสื้อ มีการประมูลเสื้อ ขายกุหลาบ, มาลัย ฯลฯ สร้างงานคอนเสิร์ตเพื่อบ้าน “เอื้อพร” ที่เต็มไปด้วยสีสัน ผู้ชมรวมทั้งผม ส่งเสียง เชียร์ ร้อง เล่น เต้น ตบมือ ไม่หยุด ตั้งแต่ศิลปินคนแรกจนคนสุดท้าย ทุกคนกลับบ้านด้วยความประทับใจ หลายๆคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยเห็นคอนเสิร์ตการกุศลที่ไหนที่เรียบง่าย, งามง่าย ที่สนุกและเติมเต็มได้เท่านี้มาก่อน
ผมได้อยู่ในบรรยากาศนั้นจนจบคอนเสิร์ตและผมก็ตื้นตันครับ ในสิ่งที่พวกเขาเป็น สะเทือนในสิ่งที่พวกเขาได้ทำ ผมจดจำในผลงานที่พวกเขาได้สร้าง ต้องขอชื่นชมด้วยใจจริงๆ ครับ ผมเห็นบรรยากาศแห่งการเอื้อเฟื้อ บรรยากาศแห่งเมตตา เป็นตัวแทนสังคม ที่แสดงความห่วงใยต่อเด็กและสตรีผู้ถูกกระทำ อย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ ผมขอจารึก สดุดีแด่คนที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปัน เพื่อบ้าน “เอื้อพร” ทุกคนและก่อนเดินทางกลับบ้าน ผมได้มีโอกาสจับมือกับคุณ “นารดา แก้วนาพันธ์” แสดงความยินดี, ให้กำลังใจ และกระซิบเบาๆ ว่าหากมีโอกาสผมจะกลับมาช่วยเด็กๆ ในบ้าน “เอื้อพร” ที่ “ชุมพร” อีกอย่างแน่นอนครับ
........................................
(หมายเหตุ “พลังรัก”ของบ้านเอื้อพรที่ชุมพร : คอลัมน์ คลินิคคนรักบ้าน โดย... ดร.ภัทรพล)