มฟล.วิจัยสารสกัด‘มหากาฬ-มะขามป้อม’ | คมชัดลึก

 

        นับเป็นอีกก้าวของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงในการค้นคว้าวิจัยพืชสมุนไพรเพื่อนำมารักษาโรคต่างๆ ในผู้ป่วย หลังประสบความสำเร็จในการนำ “ว่านมหากาฬ” มาสกัดเป็นครีมทาเพื่อรักษาโรค “สะเก็ดเงิน” แทนการใช้ยาผสมสเตียรอยด์ เมื่อ 2 ปีก่อนโดย นพ.จรัสศักดิ์  เรืองพีระกุล อาจารย์ประจำภาควิชาโรคผิวหนัง สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและคณะ ล่าสุดการค้นคว้าวิจัยก็ก้าวหน้ามาอีกขั้นหลังหลังนำสมุนไพรไทยอย่าง "มะขามป้อมและโทงเทง" มาวิจัยและสกัดตัวยาผสมครีมทาเพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงิน หลังทดลองในคลินิกได้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ

 

        “ปกติการรักษาผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินจะใช้ครีมทาที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ และผมก็ตั้งใจจะไม่ใช้สารสเตียรอยด์กับผู้ป่วยอยู่แล้ว เพราะจะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยในระยะยาว ตอนแรกก็ใช้น้ำมันออยธรรมดา ทำไปทำมาก็มีผู้ป่วยมาบอกว่่าใช้แล้วดี เราก็ไปศึกษาพบว่าว่านมหากาฬนี่มันมีฤทธิ์ลดอักเสบ คนโบราณเวลาผึ้ง ต่อ แตน ต่อย มีอาการบวมอักเสบ ก็ใช้ว่านมหากาฬตำให้ละเอียดพอกลดอักเสบ บวมยุบดีมาก ก็เลยสกัดสารจากว่านตัวนี้มาใส่ไว้ในครีมทาเพื่อรักษาสะเก็ดเงิน”

 

        นพ.จรัสศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังชี้ให้เห็นจุดเด่นของว่านมหากาฬในการนำสารกัดมาเป็นตัวยาส่วนผสมของครีมทาเพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงิน ว่าก่อนนำมาทดลองใช้กับผู้ป่วยในคลินิกจนเห็นผลเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าระยะเวลาการรักษาจะยาวนานกว่าการใช้สารที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ แต่ข้อดีไม่มีผลข้างเคียงกับผู้ป่วยในระยะยาว หลังประสบความสำเร็จในการสกัดสารจากว่านมหากาฬ จากนั้นเขาและทีมวิจัยพยายามค้นคว้าตัวยาจากสมุนไพรตัวอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็พบว่าสารสกัดจากมะขามป้อมและโทงเทง มีตัวยาที่มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับว่านมหากาฬ เพียงแต่มีฤทธิ์น้อยกว่าจึงนำมาเป็นส่วนผสมของครีมทาหน้าเพื่อรักษาสิว ฝ้า จุดด่างดำบนใบหน้าแทน โดยเน้นสารต้านอนุมูลอิสระ จากผลการวิจัยพบว่าสารจากมะขามป้อมตัวนี้มีผลใกล้เคียงกับตัวยาหลักในต่างประเทศ

 

        “จุดเด่นของว่านมหากาฬลดอาการบวมได้ดี แต่มะขามป้อมยุบได้น้อยกว่าแต่ถ้าเกิดว่ามีพวกรอยดำ สีคล้ำๆ ยาตัวนี้จะมีสารต้านเม็ดสีทำให้ขาวไวกว่า ซึ่งว่านมหากาฬจะใช้ใบซึ่งจะมีเมือก เราจะใช้ส่วนนั้นเอามาสกัดเป็นตัวยาเป็นส่วนผสมในครีมทาประมาณ 1-2% ของปริมาณครีมขนาด 100 กรัม ส่วนมะขามป้อมก็มีปริมาณที่ใกล้เคียงกันและขณะนี้กำลังศึกษาวิจัยสารสกัดจากโทงเทง วัชพืชที่พบเห็นได้ทั่วไปในทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งก็พบว่ามีสารที่มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับว่านมหากาฬและมะขามป้อมน่าจะนำมาเป็นส่วนผสมครีมทารักษาโรคเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน”

 

        ส่วนผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้น นพ.จรัสศักดิ์ ยอมรับว่า มีสำหรับคนที่ติดสเตียรอยด์มากๆ ใช้ยากดภูมิมานาน ถ้าหากหยุดการใช้สเตียรอยด์ในทันทีจะมีผลต่อการใช้ในระยะแรกจะมีการปะทุขึ้นมา เนื่องจากสเตียรอยด์และยากดภูมิตัวเดิมจะกดอาการไว้ หลังหยุดใช้ก็จะมีผื่นขึ้นมาแล้วจะเจอตัวยาจากว่านมหากาฬก็จะไปต่อสู้กัน จากนั้นก็จะค่อยทุเลาลงและหายไปในที่สุด

 

        “การใช้ยาทาเป็นการรักษาที่ปลายเหตุเท่านั้น ต้นเหตุจริงๆ เท่าที่ผมดูมามันเป็นน้ำหลืองเสีย น้ำเหลืองภายในมันพุ ผู้ป่วยจะต้องออกกำลังกาย ดื่มน้ำเยอะๆ ไม่กินของแสลง แต่ตามตำราฝรั่งบอกว่ามีสาเหตุจากพันธุกรรม แต่ผมไม่อยากไปกล่าวโทษบรรพบุรุษ อย่างผู้ป่วยบางเคสบรรพบุรุษไม่มีใครเป็นโรคนี้มาก่อนก็มี จึงอยู่ที่ตัวเรามากว่า อยู่ที่การกิน การอยู่ การนอนมันทำให้เป็น”

 

        ว่านมหากาฬ มะขามป้อมและโทงเทง นับเป็นอีกกลุ่มพืชสมุนไพรที่ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ค้นคว้าวิจัยจนประสบผลสำเร็จในการนำสารสกัดมาผสมกับครีมทาเพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงินและริ้วรอยด่างดำบนใบหน้า สนใจผลิตภัณฑ์หรือวิธีรักษาโรคสะเก็ดเงิน โทร.08-9783-9197 คุณหมอจรัสศักดิ์ ยินดีให้คำแนะนำวิธีรักษาอย่างละเอียด