
ตั้งศูนย์เทพรัตน์การุญรองรับผู้สูงอายุในอนาคต
ตั้งศูนย์เทพรัตน์การุญรองรับผู้สูงอายุในอนาคต
ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดในอาเซียนและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดการณ์ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะประกอบกิจวัตรประวันด้วยตนเองได้ เช่น กินอาหาร อาบน้ำแต่งตัว ขับถ่ายหรือการเคลื่อนไหวไปมาภายในบ้าน โดยในโรงพยาบาลจะมีปัญหาในการดูแลผู้สูงอายุคือไม่สามารถที่จะจำหน่ายผู้สูงอายุออกจากโรงพยาบาลได้ เพราะโดยส่วนใหญ่ผู้สูงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสรีรวิทยาที่มาจากความชรา มีโรคแทรกซ้อนหรือแนวโน้มการเจ็บป่วยที่ยากจะรักษาให้หายขาดได้
เพื่อการตอบสนองความต้องการในการดูแลผู้สูงอายุ สภากาชาดและโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา มีนโยบายในการพัฒนาต้นแบบการให้บริการด้านผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยจัดตั้ง “โครงการศูนย์ส่งเสริมฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ สภากาชาดไทย” และได้ขอพระราชทานนามอาคารว่า “เทพรัตน์การุญ” โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพระราชพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2554
ปัจจุบันโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย เป็นโรงพยาบาลขนาด 500 เตียง เปิดให้บริการทางการแพทย์ที่ครบวงจร และได้นำระบบบริหารงานคุณภาพมาใช้พัฒนางานเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มารับบริการที่มีจำนวนมากขึ้นในทุกวัน สภาพโรงพยาบาลที่แออัด โดยรับภาระให้บริการผู้ป่วยมากกว่าหนึ่งล้านคนต่อปี และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโรงพยาบาลก็ตั้งอยู่ท่ามกลางนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่า 5,000 โรงงาน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภาคตะวันออก
“นพ.นิพนธ์ อุปมานรเศรษฐ์” ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้สูงอายุมากที่สุด ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่ป่วยจะเป็นโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดัน เป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของคน โดยมีคนป่วยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีอาการป่วยแล้ว แต่รอเวลาที่โรคกำเริบ โรงพยาบาลมีแนวทางในการจัดตั้งศูนย์เทพรัตน์การุญ ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุขึ้น ขึ้นที่ ต.บางพระ จ.ชลบุรี โดยคาดว่าสามารถเปิดให้บริการได้คือปลายปี 2559 โดยกลุ่มหลักที่จะรับมาดูแลคือกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป อีกกลุ่มคือกลุ่มอายุที่ก่อนจะเป็นผู้สูงอายุคือช่วง 50-60 ปี
แนวทางของศูนย์อีกเรื่องคือให้ความรู้ผู้ดูแลผู้ป่วยก่อนนำคนไข้กลับบ้าน หรือให้ความรู้การป้องกันก่อนถึงวัยผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ติดสังคม ยังแข็งแรงเดินทางเองได้ ติดบ้านไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ ติดเตียง โดยกลุ่มที่มีปัญหาจะเป็นกลุ่มติดเตียง ในเครือญาติอย่างน้อยต้องมีหนึ่งคน ที่ต้องมีความรู้ในการดูแล ซึ่งการมาเรียนรู้ถือเป็นเรื่องที่ดี โดยหลังจากนั้นก็นำกลับไปเผยแพร่ความรู้ให้แก่คนในครอบครัวได้
นอกจากนี้ โรงพยาบาลมีโครงการก่อสร้าง “ศูนย์รักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระพันวัสสา 150 ปี” โดยพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทยเพื่อต้องการปรับปรุงโรงพยาบาลแห่งนี้ให้มีมาตรฐานมากขึ้น เป็นศูนย์กลางการให้บริการทางการแพทย์ในภูมิภาคตะวันออก ที่เอื้อต่อการให้บริการผู้ป่วย และประชาชนให้เกิดความคล่องตัวในการรับบริการ เพิ่มศักยภาพ ประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้เจ็บป่วย โดยเฉพาะผู้ประสบอุบัติเหตุจากการทำงาน และโรงงานอุตสาหกรรม อุบัติเหตุจากการจราจร ผู้ประสบอุบัติภัย ผู้ป่วยโรคฉุกเฉินเฉียบพลัน ทั้งในสถานการณ์ปกติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน และเพื่อให้เป็นศูนย์รักษาพยาบาลรวม ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ฉุกเฉินและเวชศาสตร์อุตสาหกรรมภาคตะวันออก ที่ให้การดูแลด้านสุขภาพที่ครบวงจร ทั้งการรักษา ป้องกัน ส่งเสริมสุขภาพ และการฟื้นฟูสภาพ อีกทั้งเพื่อรองรับการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง
ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนก่อสร้างได้ที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0-3832-0200 / www.somdej.or.th