
แนวโน้มป่วยโรคทางเดินอาหารจากวิถีชีวิตสังคมเมือง
30 ก.ย. 2558
ไลฟ์สไตล์ : แนวโน้มป่วยโรคทางเดินอาหารจากวิถีชีวิตสังคมเมือง
เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญและเป็นศูนย์กลางรักษาโรคซับซ้อนและเฉพาะทาง ด้านโรคทางเดิน อาหารและตับ ที่ครบวงจร และในโอกาสครบ 1 ปี โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SiPH) จึงจัดงาน “ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ” ด้วยแพทย์สหสาขาที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาระดับแนวหน้า ของเมืองไทย โดยมีแขกผู้มีเกียรติ และ ผู้สนใจเรื่องการดูแลสุขภาพร่วมงาน ณ บริเวณโถงบริการ ผู้ป่วยนอกชั้น 2 โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
รศ.นพ.สมชาย ลีลากุศลวงศ์ ประธานศูนย์ทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานว่า ศูนย์ทางเดินอาหารและตับของโรงพยาบาล เปิด ดำเนินการตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ในปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก รวม 29,872 คน มีอัตราการเติบโตมากกว่า ร้อยละ 61 มีผู้เข้ารับการส่องกล้องทางเดินอาหารรวมทั้งหมด 2,905 ราย สำหรับ 5 โรค ที่พบมากในผู้ป่วยที่เข้ามารักษากับศูนย์ฯ ได้แก่ โรคกระเพาะอาหาร และกรด ไหลย้อน โรคไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคมะเร็งลำไส้และทวารหนัก และโรคมะเร็งตับ โดย โดยพบว่ากว่าร้อยละ 34 ของผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการ จะมาด้วยอาการอาการปวดท้อง ไม่สบายท้อง หรืออาหารไม่ย่อย ซึ่งทางโรงพยาบาลจะให้บริการตรวจ ให้คำปรึกษาแบบผู้ป่วยนอก ให้บริการส่องกล้อง และตัดชิ้นเนื้อ ระบบทางเดินอาหารและตับ และให้บริการผ่าตัดและรักษาโรคระบบทางเดินอาหารและตับตามอาการของโรค
“โรคระบบทางเดินอาหารและโรคตับบางส่วนมีสาเหตุเกิดจาก การใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล ทั้งเรื่องการ รับประทานอาหารมากไป น้อยไป อาหารรสจัดเกินไป ภาวะความเครียดจากการทำงาน หรือภาระต่างๆ ในครอบครัว รวมไปถึงขาดการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ทำให้ร่างกายเกิดภาวะเครียดสะสม และเจ็บป่วยง่าย ฉะนั้นการป้องกันโรคร้ายที่ดีที่สุด คือรู้ให้ทันโรคและปรับการดำเนินชีวิตให้สมดุล ทั้งร่างกาย และ จิตใจ” ประธานศูนย์สรุป
ด้าน รศ.นพ.ทวีศักดิ์ แทนวันดี อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางระบบทางเดินอาหาร และตับ กล่าวว่า ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เร่งรีบ ทำให้ต้องเผชิญกับภาวะความเครียด การรับประทานอาหาร ที่ไม่ตรงเวลาและอาหารที่ไม่มีคุณภาพ ทั้งอาจด้วยกรรมวิธีการปรุง หรือวัตถุดิบที่นำมาปรุง ร่วมกับอาจมีสาเหตุอื่นทำให้เป็นโรคร้าย
“โรคท็อปฮิตในปัจจุบันที่มักพบบ่อยในกลุ่มคนเมือง คือ โรคกรดไหลย้อน ในประเทศไทยพบว่า ผู้มีอาการปวดท้องตอนบนจะเป็นโรคกระเพาะอาหาร โรคกรดไหลย้อน ซึ่งกรดไหลย้อนจะพบทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย จริงๆ โรคนี้สามารถรักษาได้ แต่หากปล่อยไว้เรื้อรังจะมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และมีส่วนน้อยมากที่อาจพัฒนากลายเป็นมะเร็งหลอดอาหาร สำหรับสาเหตุของกรดไหลย้อน เกิดจาก ความผิดปกติของหูรูดหลอดอาหาร การบีบตัวของหลอดอาหารผิดปกติ และ ภาวะอ้วนหรือน้ำหนักตัวมากส่งผลให้แรงดันในช่องท้องสูง รวมถึงพฤติกรรมต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่ การกินอาหารบางชนิด เช่น อาหารมัน การกินและนอนทันทีในบางราย” คุณหมออธิบายปิดท้าย