
แม่บ้าน'มศว'ชื่นชมโครงการทูบีนัมเบอร์วันลดเหลื่อมล้ำ
แม่บ้าน'มศว'ชื่นชมโครงการทูบีนัมเบอร์วันลดความเหลื่อมล้ำ พาลูกสาววัย 9 ขวบไปเรียนที่ซีคอนฯ ห่อข้าวไปเป็นอาหารกลางวันหวังให้ลูกเกิดการเรียนรู้ และพัฒนาตัวเอง
22ก.ย.2558 นางบังอร ผาคำศรี อายุ 51 ปี แม่บ้านศูนย์สารสนเทศและการประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า โครงการทูบีนัมเบอร์วัน ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เป็นโครงการที่สามารถลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้เป็นอย่างดี เพราะลำพังตัวเองมีอาชีพเป็นแม่บ้าน คงไม่มีเงินที่จะให้ลูกได้เรียนภาษาที่สองหรือภาษาที่สาม หรือเรียนวิชาอื่นๆ ที่ทำให้เด็กๆ เกิดความสุขหรือความสนุกในชีวิต อย่างร้องเพลง หรือการเต้น การรำ แต่โครงการทูบีนัมเบอร์วัน ให้โอกาสเด็กๆอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กๆที่มีฐานะขัดสนหรือยากจนได้มีโอกาสสร้างความฝันของตัวเอง ตนพาลูกไปเรียนทุกวันอาทิตย์ที่ ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ เขตประเวศ และตนก็เห็นเด็กๆที่มีความหลากหลายทางฐานะไปเรียนรู้ที่นั่นอย่างสนุกสนานและมีความสุข
“การพาลูกออกจากบ้านเพื่อไปเรียนวิชาที่เด็กๆ อยากจะเรียนที่ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ในวันหยุดอย่างวันอาทิตย์ ซึ่งต้องออกจากบ้าน เสียงเงินเพิ่ม แต่ก็มีความสุขเพราะลูกสาววัย 9 ขวบมีพัฒนาการทางความมั่นใจมากขึ้น จากเดิมที่เรียนในโรงเรียนไม่ค่อยกล้าเขียนเพราะกลัวเขียนผิด แต่เมื่อมาเรียนในโครงการทูบีนัมเบอร์วัน ลูกสาวเกิดความสนุกและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ร่าเริง แจ่มใส และมีความพร้อมที่จะไปเรียนในระบบโรงเรียนจันทร์-ศุกร์มากขึ้น ตนจะห่อข้าวเหนียวและทำกับข้าวเตรียมให้ลูกเพื่อไปเรียนที่ซีคอนสแควร์ นอกจากนี้ก็เตรียมน้ำใส่ขวดมาดื่มด้วย เพราะอาหารในห้างสรรพสินค้าราคาแพง และหากลูกอยากจะกินอะไรก็ไม่ซื้อในห้าง ตนจะเดินมาซื้อที่ริมทางและต้องเดิมข้ามสะพานเพื่อมาซื้ออาหารริมทาง ที่มีราคาถูกกว่าในห้างให้ลูก เราต้องบอกกับลูกว่า ฐานะทางบ้านเราเป็นอย่างไรและเราต้องประหยัด ซึ่งลูกสาวก็เข้าใจ และคิดว่าจะพาลูกมาเรียนเพื่อสร้างสร้างทักษะชีวิตให้ลูกต่อไปแม้จะลำบากก็ต้องอดทน เวลามารอลูกตนก็จะเตรียมงานอุปกรณ์ฝีมืออย่างการต่อผ้าด้วยมือเพื่อต่อเป็นผ้าคลุมเตียง เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อีกทางหนึ่ง และเป็นงานที่สร้างรายได้เพิ่มให้ตนและครอบครัวได้ด้วย”