'คุซโก' เมืองมรดกโลกแสนโรแมนซ์

 

                     เปรู ไม่ได้มีดีแค่ลิมา ซะด้วยสิ แต่นอกจากเมืองหลวงจะน่าเที่ยวแล้ว ยังมี เมืองคุซโก อีกเมืองหนึ่งของเปรูที่จัดเป็นฮอตสปอตในแถบอเมริกาใต้เลยก็ว่าได้

 

                     ไม่ใช่เพราะคุซโกเป็นเมืองต้นทางในการไปหาสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างมาชูปิกชู แต่เพราะคุซโกเองก็มีดีที่เป็นเมืองมรดกโลก ใครๆ เลยอยากเห็นเมืองนี้กันทั้งนั้น

 

 

 

 

                     สำหรับคนจะไปเที่ยวเมืองมรดกโลกอย่างคุซโก อันดับแรกบินไปตั้งหลักที่กรุงลิมาก่อน จากกรุงเทพฯ สะดวกสุดบินด้วยสายการบินเคแอลเอ็ม (www.klm.co.th) ใครจะแวะเที่ยวเมืองอัมสเตอร์ดัมก่อนก็ได้ เพราะเขาแวะเปลี่ยนเครื่องที่นั่น และมีเที่ยวบินๆ ตรงไปอัมสเตอร์ดัมทุกวัน หรือใครจะบินเข้าด้วยเคแอลเอ็มและบินออกด้วยสายการบินแอร์ฟรานซ์ (www.airfrance.co.th) ก็ได้อีกเหมือนกัน

 

                     จากลิมาไปคุซโกมีเที่ยวบินวันละหลายเที่ยวและหลายสายการบิน ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง ใครงบน้อยจะนั่งรถไปก็ได้

 

                     คุซโกเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม มีที่พักให้เลือกหลากหลายระดับ คลิกเข้าไปค้นหาในเว็บไซต์เอ็กซ์พีเดีย (www.expedia.co.th) ก่อนจะดีกว่า เขามีโรงแรมทั่วโลกให้เลือกกว่า 3 หมื่นเมืองทั่วโลก แถมเดี๋ยวนี้สะดวกสบายแค่โหลดแอพพลิเคชั่นของเอ็กซ์พีเดียไว้บนสมาร์ทโฟน อยู่ที่ไหนก็จองห้องพักได้

 

 

 

 

                     แต่ใครจะมาคุซโกแล้วอยากได้ประสบการณ์สุดหรู ฉันแนะนำให้พักที่โรงแรม Palacio del Inka (www.palaciodelinkahotel.com) โรงแรมสุดหรูที่เคยเป็นพระราชวังของชาวอินคามาก่อน นอกจากตกแต่งอย่างงดงามแล้วยังตั้งอยู่ในทำเลที่ดีใจกลางเมืองเก่า ไม่ไกลจากจัตุรัสประจำเมือง ใกล้แหล่งท่องเที่ยวทุกจุด และสะดวกในการหาร้านอาหารการกิน หรือวันไหนใครไม่อยากออกไปเดินเล่น แค่นั่งพักผ่อนสบายๆ ในโรงแรมก็เพลินแล้ว

 

                     ย้ำกันอีกซักทีสำหรับคนไทยจะมาเที่ยวเปรู มาได้สบายๆ ไม่ต้องขอวีซ่า แถมใครอยากได้ข้อมูลเที่ยวเปรู แวะไปขอที่สถานทูตเปรูประจำประเทศไทย (0-2260-6243) ได้เลย

 

 

 

 

                     แค่เดินผละจากชายคาโรงแรมสุดหรู โบสถ์ซานโต โดมิงโก ก็ยิ้มรับ เพราะอยู่ตรงข้ามกันเลย ที่นี่เป็นเทวสถานที่สำคัญประจำเมืองของชาวอินคา เรียกว่าเป็น Inca Sun Temple หรือ วิหารสุริยัน ชาวอินคาเรียกขานกันว่าโคริกันฉะ (Coricancha) แต่ก่อนเป็นวิหารสุริยันของชาวอินคา แต่ช่วงศตวรรษที่ 16-17 สเปนสั่งให้ยกเครื่องเปลี่ยนเป็นสร้างโบสถ์ และสร้างวิหารของศาสนาคริสต์ขึ้นมาแทนที่เป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่วิหารสุริยัน ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นโบสถ์คาทอลิกในช่วงศตวรรษที่ 17

 

                     ถึงจะกลายเป็นโบสถ์ไปแล้ว แต่โครงสร้างภายในแสดงให้เห็นถึงวิทยาการอันก้าวหน้าของชาวอินคาในการก่อสร้างเทวสถานแห่งนี้ ที่จริง โคริกันฉะเป็นภาษาเกชัว (Quechua) ภาษาพื้นเมืองของชาวอินคา แปลว่า ปกคลุมไว้ด้วยทองคำ ได้ความว่าเดิมทีวิหารแห่งนี้ถูกโบกไว้ด้วยทองคำ แต่ถูกสเปนซิวทองไปซะเกลี้ยงหมดแล้ว

 

 

 

 

                     แถวหน้าโบสถ์มีนางแบบชาวอินคาเพียบ พวกเธอจะใส่ชุดพื้นเมืองมาโพสท่าคอย ลองได้หลวมตัวลั่นชัตเตอร์ไปแล้ว อย่าหวังว่าจะเดินออกมาอย่างลอยนวล เพราะพวกเธอจะไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือมาง่ายๆ อิสรภาพต้องแลกมาด้วยเงินซักโซลสองโซล ถึงจะเดินตีจากมาได้

 

                     ฉันเพลิดเพลินเจริญใจอยู่แถวรอบๆ โบสถ์ครู่ใหญ่ ก่อนจะเดินไปหา ถนน  El Sol ที่พาดผ่านใจกลางเมือง ถ้ามีชื่อไทยถนนนี้คงจะชื่อว่าถนนพระอาทิตย์ เพราะ Sol แปลว่าพระอาทิตย์ เป็นถนนสายคึกคักที่สุดของคุซโกก็ว่าได้ จะมองหาอะไรล่ะมีหมด ทั้งแบงก์ ตู้เอทีเอ็ม บริษัททัวร์ ร้านถ่ายรูป ร้านขายของที่ระลึก และจะมีสาวอินคามายืนขายของที่ระลึกด้วยระบบ “ขายตรง”

 

                     เดินอ้อมจากถนนสายนี้ไปนิดเดียว ฉันก็พาตัวเองมาโผล่ที่จัตุรัสอาร์มาส ซึ่งเป็นจัตุรัสประจำเมือง มหาวิหารประจำเมืองอันงดงามยังคงปักหลักอยู่ที่เดิม โบสถ์ลา คอมปาญยา ที่ประตูด้านหน้าแสนสวยก็ยังคงถูกแดดอาบไล้ ลานกว้างกลางจัตุรัสยังคงถูกประดับประดาไว้ด้วยผู้คน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวพากันมานั่งเล่นเย็นใจกันแถวนี้

 

 

 

 

                     ฉันอยู่แถวนี้ได้ประเดี๋ยวเดียว ก็เดินดิ่งไปสำรวจ จัตุรัสซาน ฟรานซิสโก มุมที่ยังคงมีชาวเมืองมานั่งเล่นกันเต็มจัตุรัส บางคนเดินเข้าโบสถ์ซานฟรานซิสโกและพิพิธภัณฑ์ในชายคาเดียวกับโบสถ์ แต่ฉันมีจุดหมายอยู่ที่ตลาดประจำเมือง จึงเดินมุ่งหน้าไปทางโบสถ์ซานตาคลารา สุดทางที่โบสถ์ซานเปโดร มีตลาดประจำเมืองเชิดหน้ารอรับทุกคนอยู่

 

                     ไม่ได้มีแค่ชาวเมืองหรอกที่มาจับจ่ายผักผลไม้และของใช้ประจำวันของพวกเขา แม้แต่นักท่องเที่ยวก็มาเดินกันให้ว่อนตลาดไปหมด เพราะตลาดนี้ข้าวของพื้นเมือง และของที่ระลึกให้เลือกช็อปเต็มไปหมด ทั้งหมวก เสื้อผ้า ผ้าพันคอ กระเป๋า ไปยันพวกเครื่องประดับ ที่ราคาสบายกระเป๋า ทำไปทำมาฉันว่าซื้อที่นี่ราคาถูกกว่าซื้อตามตลาดนัดหัตถกรรมพื้นเมืองที่อยู่กระจายอยู่ทั่วเมือง

 

 

 

 

                     ในตลาดยังมีโซนที่ขายอาหาร มุมนี้ก็มีนักท่องเที่ยวมานั่งชิมอาหารของชาวอินคากันแน่นตลาด

 

                     ฉันขลุกอยู่ในตลาดอยู่นานสองนาน โผล่มาอีกที ก็เย็นย่ำเสียแล้ว และเป็นธรรมดาของคุซโกที่พอแดดหมดปุ๊บ ความหนาวจะคืบคลานเข้ามาทักทายทันที

 

 

 

 

                     และเมื่อแสงนีออนห่มเมืองมรดกโลก คุซโกก็สลัดคราบเมืองคลาสสิกกลายเป็นเมืองโรแมนติกไปทันที

 

                    ไม่เสียแรงเหาะเหินเดินอากาศมาไกล คุซโกรับขวัญอาคันตุกะจากขวานทองด้วยไมตรีและความโรแมนซ์ ไม่ส่งโรคเมาอากาศมาจู่โจมเหมือนเที่ยวก่อน แล้วคุซโกก็หลุดอยู่ในลิสต์เมืองโปรดของฉันจนได้

 

 

 

 

----------------------