
'แป๊ะเจี๊ยะ'เหลื่อมล้ำ!เชื่อมีข้อดี-เสีย
18 ก.ย. 2558
'ดาว์พงษ์' ชี้ 'แป๊ะเจี๊ยะ' เหลื่อมล้ำทางการศึกษา ปัดตอบดีหรือไม่ดี แนะศึกษาข้อดี-ข้อเสีย แย้มอาจเปิดรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ยันเดินหน้าลดเวลาเรียน
18 ก.ย. 58 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า สมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ ได้เข้ามาพบตนเพื่อขอเสนอเรื่องการแก้ไขปัญหาการศึกษาชาติ โดยเฉพาะประเด็นที่เด็กมีภาระการเรียนและเน้นการจัดการเรียนการสอนท่องจำมากเกินไป และปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งทั้งสองเรื่องก็เป็นปัญหาที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำลังแก้ไข โดยได้ประกาศนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ให้แก่เด็กอยู่แล้ว เพราะต้องการให้เด็กมีเวลาที่จะเรียนรู้ค้นคว้าความรู้ คิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในภาคเรียนที่ 2/2558 นี้ทันที ส่วนเรื่องการปรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 นั้น เรื่องนี้ต้องใช้เวลา และคงไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จได้ภายในวันเดียว และจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วนมาช่วยระดมความคิดเห็น
"ผมมองว่า การปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจะต้องให้เกิดความทันสมัยสอดคล้องกับทิศทางของการพัฒนาประเทศด้วย ซึ่งเวลานี้ผมให้ความสำคัญกับการเดินหน้านโยบายลดเวลาเรียนก่อน ซึ่งหากนโยบายนี้ประสบความสำเร็จ ก็อาจไม่มีความจำเป็นจะต้องปรับหลักสูตรก็ได้"
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาระบบเด็กฝากหรือการเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะในโรงเรียนนั้น คงไม่สามารถบอกได้ว่าการเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะมันดีหรือไม่ดี แต่เข้าใจว่าการเรียกรับเงินดังกล่าวมันคือการสร้างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ดังนั้น ต้องมาดูปัญหาในเรื่องนี้กันว่าเกิดจากตรงไหน เพราะฉะนั้น ควรมีการศึกษาข้อดีข้อเสียในเรื่องนี้ เพราะการเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะเป็นการเรียกรับเงินจากหลากหลายช่องทาง เช่น การเรียกเก็บเงินค่าบำรุงการศึกษา เป็นต้น โดยอาจจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนว่ามีด้านดีด้านเสียจากจุดไหน และนำเอาปัญหาต่างๆ เหล่านั้นมาพิจารณาให้เกิดความชัดเจน