'ชวี่ เฉวียน ฟูดส์' แปรรูปขิงสดส่งออกยุโรป-แอฟริกา | คมชัดลึก

 

                      ชวี่ เฉวียน ฟูดส์ ผู้ผลิตขิงดอง ขิงแปรรูป และมะเขือม่วงดองส่งออกรายใหญ่ของไทยเข้าร่วมกิจกรรมซีเอฟ เดินหน้ายกระดับโรงงานให้ได้มาตรฐานของสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งราชอาณาจักร (บีอาร์ซี) หลังวางเป้าเปิดตลาดใหม่กลุ่มประเทศยุโรปและแอฟริกาเหนือเพิ่ม

 

                      อภิพันธ์ ภู่ภักดี รองผู้จัดการบริษัท ชวี่ เฉวียน ฟูดส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ชวี่ เฉวียน ฟูดส์ จำกัด เป็นการร่วมลงทุนระหว่างไทยและไต้หวัน ตั้งโรงงานในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2536 ดำเนินการผลิตขิงดอง ขิงแปรรูป และมะเขือม่วงดอง เพื่อการส่งออก 100% ลูกค้าหลักจะเป็นลูกค้าในตลาดระดับบนของประเทศต่างๆ ในอาเซียน เช่น เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และจีน

 

 

 

 

                      “ตอนนี้เรามีโครงการที่จะขยายตลาดการส่งออกผลิตภัณฑ์ของบริษัทออกไปยังประเทศในยุโรป กลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวีย รวมถึงประเทศแถบอเมริกาเหนือ แต่การส่งออกไปกลุ่มประเทศดังกล่าวบริษัทต้องได้รับมาตรฐาน BRC (The British Retail Consortium) หรือสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร อันเป็นมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร (ฟู้ดเซฟตี้) ที่เกิดจากการรวมกลุ่มขององค์กรค้าปลีกขนาดใหญ่ของสหราชอาณาจักร”

 

                      จากสาเหตุดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการเข้าร่วมกิจกรรมการบริการเงินสมทบจ้างที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงการผลิต การจัดการ การตลาดและการบริการ (Consultancy Fund:CF) หรือกิจกรรมซีเอฟ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยบริษัทต้องการได้ที่ปรึกษาเพื่อเข้ามาช่วยให้คำปรึกษาแนะนำการพัฒนาระบบต่างๆ ให้สามารถขอรับมาตรฐานบีอาร์ซี ซึ่งกิจกรรมซีเอฟ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของบริษัทได้เป็นอย่างดี

 

                      “ที่ปรึกษากิจกรรมซีเอฟ เข้ามาช่วยเหลือในการให้คำแนะนำการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิต ซึ่งจะครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การตรวจสอบกระบวนการผลิต ตลอดจนการดำเนินการเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้อย่างปลอดภัย สอดคล้องและเป็นไปตามคุณภาพที่กำหนดไว้ตามมาตรฐานบีอาร์ซี”

 

 

 

 

                      อภิพันธ์ เน้นย้ำว่า การจัดทำระบบมาตรฐานบีอาร์ซีนั้น ต้องควบคุมผลิตภัณฑ์ กระบวนการ ตลอดจนบุคลากรทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐานทางเทคนิคของบีอาร์ซีนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนด โดยให้ประโยชน์เพื่อการแข่งขันด้านคุณภาพ การจัดส่งสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศ และที่สำคัญที่สุดก็เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคโดยตรง จากความเข้มงวดดังกล่าวจึงทำให้บริษัทมีโอกาสปรับปรุงทั้งงานเอกสาร กระบวนการงานออกแบบซึ่งเน้นคุณภาพสินค้ามากขึ้น ต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้ผลออกมาดีที่สุด นอกจากนี้ในอนาคตหากมีระบบมาตรฐานดังกล่าว บริษัทจะสามารถเพิ่มยอดขายจากการสั่งซื้อของประเทศกลุ่มเป้าหมายได้

 

                      “ซีเอฟเป็นกิจกรรมที่ดี เหมาะสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่กำลังประสบปัญหาหรือมีเรื่องยุ่งยากในการประกอบธุรกิจ เปรียบเสมือนที่ปรึกษาที่มีอาจารย์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่กำหนดเข้ามาตอบโจทย์เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างแท้จริง และที่สำคัญคือจะเข้ามาช่วยผลักดันให้เอสเอ็มอี เกิดการพัฒนาต่อยอดให้กิจการอีกด้วย" อภิพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

                      นับเป็นอีกก้าวของชวี่ เฉวียน ฟูดส์ ในการยกระดับการผลิตขิงแปรรูปให้ใด้มาตรฐานของสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งราชอาณาจักร (บีอาร์ซี) เพื่อรองรับตลาดยุโรปและแอฟริกาเหนือในอนาคตอันใกล้

 

 

 

 

--------------------