ไลฟ์สไตล์

ภาวะกระดูกหัวสะโพกตาย

ภาวะกระดูกหัวสะโพกตาย

18 ส.ค. 2558

ดูแลสุขภาพ : ภาวะกระดูกหัวสะโพกตาย

 
                      ปัจจุบันนี้การแพทย์มีความก้าวหน้าไปมาก ทำให้ประชากรไทยมีอายุยืนเพิ่มขึ้น และเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพจึงพบได้มากขึ้น วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรคที่ทำให้เกิดข้อสะโพกเสื่อมซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้ และเป็นสาเหตุที่พบบ่อยในประเทศไทยกันครับ
 
                      ภาวะกระดูกหัวสะโพกตาย เป็นโรคหนึ่งที่พบบ่อยที่ทำให้เกิดภาวะข้อสะโพกเสื่อมในคนไทยช่วงอายุ 40-65 ปีโดยที่เซลล์กระดูกในหัวสะโพกมีการตายลง จากการขาดเลือดไปเลี้ยงที่เซลล์กระดูกส่งผลให้กระดูกที่ตายยุบตัวและเกิดข้อเสื่อมตามมา 
 
                      อาการสำคัญ ที่จะนำผู้ป่วยมาพบแพทย์ คือ ปวดขาหนีบ ปวดสะโพก หรือหน้าขา ที่ต้องระวังคือบางรายมีอาการปวดไปที่เข่า ทำให้ไปรักษาอาการปวดเข่าอยู่นาน จนหัวสะโพกยุบตัว ทำให้ขาสั้นลง หรือเดินกะเผลกได้ 
 
                      ใครบ้างที่เสี่ยงจะเป็นโรคนี้?
 
                      - ผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ
 
                      - ผู้ที่รับประทานยาที่มีสเตียรอยด์เป็นเวลานาน เช่น ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือผู้ที่ซื้อยารับประทานเอง แบบยาลูกกลอน ยาต้มที่อ้างสรรพคุณรักษาได้ทุกโรค
 
                      - มีประวัติได้รับอุบัติเหตุรุนแรงที่ข้อสะโพกมาก่อน เช่น ข้อสะโพกหลุด หรือ ข้อสะโพกหัก
 
                      - โรคอื่นๆ ที่สัมพันธ์กับการเกิดกระดูกหัวสะโพกตาย เช่น SLE, Caisson disease, Sickle cell anemia
 
 
                      การวินิจฉัย
 
                      การตรวจทางรังสี (X-RAY) ช่วยในการวินิจฉัยภาวะกระดูกหัวสะโพกตาย ในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงและอาการแสดงดังที่กล่าวมาข้างต้น
 
 
                      โดยมีระยะการดำเนินโรค แบ่งออกเป็น 4 ระยะ
 
                      - ระยะที่ไม่มีอาการ ไม่พบความผิดปกติจาก X-ray แต่สามารถตรวจพบได้ด้วยการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
 
                      - ระยะที่เริ่มมีการปวด เนื่องจากมีการตาย, หักของกระดูกด้านในหัวสะโพก
 
                      - ระยะหัวสะโพกยุบตัว ทำให้มีขาสั้นลง และการเคลื่อนไหวของข้อสะโพกลำบาก
 
                      - ระยะเบ้าสะโพกเสื่อม มักมีการปวดมากจนเดินกะเผลก
 
 
                      ภาวะกระดูกหัวสะโพกตาย สามารถพบว่าเป็นสองข้างได้ 20% ซึ่งในระยะแรก สะโพกข้างที่เป็นน้อยอาจจะยังไม่มีอาการ และไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยการตรวจทางรังสี จึงต้องอาศัยการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ซึ่งเห็นความผิดปกติได้ละเอียดกว่า ทำให้สามารถเริ่มการรักษาได้เร็ว เพื่อเก็บหัวสะโพกเดิมไว้ได้
 
 
                      การรักษา ขึ้นกับระยะของโรค
 
                      ระยะที่ 1-2 ระยะที่หัวสะโพกยังคงรูปร่างเดิมอยู่ สามารถรักษาโดยการผ่าตัดระบายความดันในหัวสะโพก (core decompression) เพื่อรักษาหัวสะโพกเดิมไว้ โดยในช่วงแรกหลังผ่าตัด จะต้องใช้ไม้ค้ำยันเพื่อไม่ลงน้ำหนักที่สะโพกข้างนั้น ให้สะโพกข้างนั้นได้มีการฟื้นฟูสภาพและลดโอกาสการยุบตัวของกระดูกหัวสะโพก 
 
                      ระยะที่ 3-4 เมื่อหัวสะโพกมีการยุบตัวหรือเสื่อมแล้ว การรักษาจะเป็นการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม (hip arthroplasty) เพื่อทดแทนหัวสะโพกเดิมที่ทำให้เกิดอาการปวด, สูญเสียการเคลื่อนไหวไปซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดที่ให้ผลการรักษาที่ดีมากในปัจจุบัน
 
 
                      โดยสรุปจะเห็นว่าโรคนี้เป็นแล้ว การรักษาหลักจะเป็นการผ่าตัด เนื่องจากการรักษาแบบไม่ผ่าตัด เช่น การไม่ลงน้ำหนักขาข้างที่เป็นโดยใช้ไม้ค้ำยัน, การรับประทานยาไม่สามารถหยุดการดำเนินโรคได้ ทำให้หัวสะโพกมีการยุบตัว และเกิดข้อสะโพกเสื่อมตามมา และยาบางตัวยังไม่มีข้อมูลวิจัยสนับสนุนการใช้มากพอ ทำให้แนวทางการรักษาในปัจจุบัน จึงแนะนำไปในทางการผ่าตัดรักษา ซึ่งขึ้นกับระยะของโรคขณะที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ ดังนั้นหากท่านมีอาการปวดบริเวณสะโพก หรือขาหนีบ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น จึงควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ เพื่อเก็บรักษาข้อสะโพกที่ดีไว้กับท่านต่อไป
 
 
 
นพ.พิธิณัฎฐ์ มังคลานนทชัย
 
ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ 
 
โรงพยาบาลธนบุรี2