'มศว'ชวนลดความเครียดด้วยศิลปะบำบัด | คมชัดลึก

             13ส.ค.2558 รศ.ดร.สาธิต ทิมวัมนบรรเทิง ประธานมูลนิธิอารี สุทธิพันธุ์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่ามนุษย์ทุกวันนี้มีความเครียด ความกังวลใจ ความกลัดกลุ้มใจ ท้ายที่สุดก็คือความทุกข์ใจและหาทางออกให้ชีวิตไม่ได้ ความรู้ทางด้านจิตใจหรือจิตวิญญาณที่พูดถึงศิลปะ ความงามในแขนงต่างๆ จะเข้ามาช่วยบำบัดได้ งานศิลปะทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง งานนาฏศิลป์ การเต้น หรือการเขียนรูป ระบายสี จะสามารถกล่อมเกลาให้คนๆ นั้นมีความสุข และละเมียดละไมขึ้นในชีวิตได้

             เราพบว่าผู้คนบางคนก่อนที่จะลงมือทำงานศิลปะ หรือใช้งานศิลปะมาบำบัดตัวเองนั้น เขาอาจจะมีจิตใจแข็งกระด้าง ก้าวร้าว หงุดหงิด ไม่มีความสุข ขี้บ่น จู้จี้ มองสิ่งแวดล้อมแบบติดลบ และก็ทุกข์ใจ นี่คือสภาวะของคนในยุคปัจจุบันนี้ โดยจะพบมากกับคนในเมืองที่มีแต่ความเร่งรีบ แข่งขันกันตลอดเวลา แต่เมื่อคนๆ นั้นได้มาทำงานศิลปะ จะทำให้ลดความแข็งกร้าว ความทุกข์ใจลงได้ เพราะช่วงที่เริ่มทำงานศิลปะในแต่ละขั้นตอนนั้น มันเริ่มจากขั้นตอนแรก จนถึงขั้นตอนสุดท้าย เขาได้ซึมซับสุนทรียะ ความงามในกระบวนการนั้นๆ ไม่ว่าจะเลือกกิจกรรมใด ตั้งแต่การร้องเพลง ร่ายรำ เต้น การปั้น การระบายสี การเขียนภาพ การวาดเส้น การถ่ายภาพ กิจกรรมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดสมาธิ และมองเห็นธรรมะนั่นคือความนิ่งและความสงบ และทำให้เขาอ่อนโยนขึ้น นี่คือการรักษาจิตใจ อารมณ์ของตัวเอง

             “คนทุกคนต่างเข้าถึงงานศิลปะได้ เพราะผู้คนส่วนใหญ่ต่างรักความสวยงามแทบทั้งสิ้น และไม่ได้ยากอะไรเลยในการเข้าถึงงานศิลปะเพื่อให้ชีวิตมีความสุขขึ้น อาจจะเริ่มจากการไปดูลิเก ดูศิลปะเยาวชน ฟังเพลง ดูหนัง หรืออาจจะทำงานศิลปะด้วยตัวเอง แต่เราต้องก้าวข้ามคำว่า ทำไม่ได้ หรือกลัวทำไม่สำเร็จที่สำคัญต้องมีทัศนคติที่ดีที่จะลงมือทำงานศิลปะก่อนเป็นอันดับแรก ศิลปะไม่มีอะไรผิดและอะไรถูก การทำงานศิลปะไม่ว่าจะแขนงใดความสำคัญขึ้นอยู่ที่การได้พัฒนาอารมณ์ในขณะนั้น และหากมีเพื่อนหรือผู้รู้ คอยแนะนำและให้กำลังใจ จะทำให้คนที่ต้องการใช้ศิลปะเพื่อบำบัดความเครียด ความกังวล หรือความทุกข์ เกิดกำลังใจและผ่อนคลายได้ไม่ยาก”

             รศ.ดร. สาธิต กล่าวอีกว่า จากสภาพสังคมที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ต่างกระตุ้นให้ผู้คนไร้ความสุข มีความเครียด ความกังวลเพิ่มสูงขึ้น เราต้องหาพื้นที่ให้ตัวเองเพื่อใช้บำบัดกายใจให้มีความสุขและผ่อนคลาย ต้องรู้จักที่จะหยุด หรือถอยออกจากความทุกข์ จากการงานบ้าง และหันมาให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างจิตใจด้วยการเสพงานศิลปะให้มากขึ้น มิฉะนั้นเราจะป่วยด้วยโรคทางกายและโรคทางจิต โรคทางใจ หากไม่รู้จักหาพื้นที่ให้ตัวเอง