ไลฟ์สไตล์

ชวนเที่ยว : ล่องเล เข้าถ้ำ 'ขนอม'

ชวนเที่ยว : ล่องเล เข้าถ้ำ 'ขนอม'

02 ส.ค. 2558

ชวนเที่ยว : ล่องเล เข้าถ้ำ 'ขนอม' : เรื่อง / ภาพ ... นพพร วิจิตร์วงษ์

 
                      นครศรีธรรมราช หัวเมืองใหญ่ในภาคใต้ ที่กรมท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจัดให้เป็นเมืองน่าเที่ยว "สามธรรม" จากความที่เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมที่ดีงาม ศิลปะวัฒนธรรมงดงาม และธรรมชาติสวยงาม  
 
                      ไม่เพียงแต่ป่าเขาน้ำตก นครศรีธรรมราชยังมีดีที่ท้องทะเล นอกจากอุดมด้วยสินทรัพย์ในทะเลแล้ว ยังเป็นแห่งที่มี "โลมาสีชมพู" อยู่ที่อำเภอขนอม ซึ่งเป็นหนึ่งตัวชี้วัดถึงความอุดมของแหล่งอาหาร
 
                      ชวนเที่ยวสัปดาห์นี้ ขอตามกรมท่องเที่ยวไปพักผ่อนแบบสบายๆ กันที่อำเภอขนอมนี่แหละ เมืองที่ได้ชื่อว่า “เมืองถ้ำสวย รวยชายหาด”
 
 
ชวนเที่ยว : ล่องเล เข้าถ้ำ 'ขนอม'
 
 
                      อ.ขนอม จะอยู่ตอนบนของจังหวัด และติดกับ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอำเภอที่ได้ชื่อว่ามีหาดทรายสวยงามและยาวที่สุดของเมืองนคร ชายหาดที่มีชื่อเสียงคือหาดในเพลา เป็นหาดทรายโค้งยาว มาเที่ยวที่นี่ก็ต้องไม่พลาดหาที่นั่งเล่น นอนเล่นกันแถวชายหาดจะได้ซึบซับบรรยากาศเต็มที่หน่อย 
 
                      แต่ก่อนถึงชายหาดแวะเที่ยวถ้ำที่มีชื่อเสียงของที่นี่กันเสียก่อน ถ้ำเขาวังทอง อยู่ในเขตตำบลควนทอง ถนนสายหน้าควน-ต้นเหรียง ถ้ำนี้เป็นถ้ำหินปูนผสมแร่เหล็ก บริเวณปากถ้ำเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตำบลควนทอง ลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้าง ผนังและเพดานถ้ำ มีหินงอก หินย้อย ตามแต่จะจินตนาการกัน ทั้งรูปมือ เจดีย์ ไข่ดาวก็ยังมี (ฮา) บางถ้ำต้องออกแรงปีนกันหน่อย หรือไม่ก็ต้องก้มต่ำมากๆ ถ้ำนี้เขามีเวลาเปิดปิดต้องติดต่อขอกุญแจประตูถ้ำจากบ้านหลังสุดท้ายก่อนถึงถ้ำ
 
                      เที่ยวถ้ำกันพอเหนื่อย พอสนุก แต่สิ่งหนึ่งที่พึงระวังนอกเหนือจากการแต่งกายรัดกุมแล้ว คือต้องไม่ไปสัมผัสหินงอกหรือหินย้อย โดยเฉพาะ "หินเป็น" ซึ่งก็คือหินที่มีน้ำหยดอยู่ เพราะสิ่งสกปรกทั้งตัวเราจากเหงื่อเราไปสัมผัส อาจเป็นผลให้หินนั้นหยุดการเติบโตไปเลย บางทีผลึกแคลไซด์ที่เกิดถึงกลับเปลี่ยนสีเป็นหมองไปเลยก็มี กรณีนี้เหมือนกันทุกถ้ำ
 
                      ออกจากถ้ำก็ตรงดิ่งไปที่พัก หาดหน้าด่าน ค่ำคืนนี้ปาร์ตี้กันริมชายหาด สนุกสนาน และแน่นอน ....ไม่ใช่ปาร์ตี้แบบฟูลมูนอันลือชื่อ 
 
                      วันรุ่งขึ้นออกล่องทะเล ชมความงามของท้องทะเลขนอมที่เขาบอกว่ายังสวยงามและไร้มลพิษ เพราะยังมีโลมา โดยเฉพาะโลมาสีชมพู เข้ามาหากินถึงใกล้ฝั่ง ปกติแล้ว จะขึ้นเรือไปชมโลมาสีชมพู ก็มักจะไปขึ้นเรือหางยาวที่แหลมประทับ แค่แล่นเรือห่างฝั่งออกมาหน่อยก็อาจจะได้เห็นโลมากันแล้ว ในละแวกไม่ไกลจากเกาะนุ้ย ซึ่งเป็นเกาะในตำนานหลวงปู่ทวดเยียบน้ำทะเลจืด 
 
 
ชวนเที่ยว : ล่องเล เข้าถ้ำ 'ขนอม'
 
 
                       หรือถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นทั้งโลมาสีชมพูและโลมาสีเทา ออกมาจับปลากินกัน เพราะตรงนี้อยู่ใกล้ทะเลดอนสัก ซึ่งยังมีโลมาโชว์ตัวให้เห้นแถวท่าเทียบเรือดอกสักอยู่บ่อยครั้ง แต่....ฉันขอนั่งเรือเอ้อระเหยไกลๆ จากแถวท่าเทียบเรือประมงปากอ่าวขนอมไปเลย เป็นเรือใหญ่ 2 ชั้น ใช้เวลาเดินทางราวๆ 1 ชั่วโมงไปถึงถิ่นโลมาสีชมพู (ยกเว้นจังหวะน้ำดีมันว่ายเข้ามาหากินใกล้ปากอ่าว) 
 
                      ขึ้นเรือกันใกล้กับท่าเทียบเรือประมงขนอม ไกด์ของเรา "ลุงแดง" หรือ อ.ปกาสิต ไพจิตรสัตยา จากขนอมฟิชชิ่ง ไม่ธรรมดา เป็นอาจารย์พิเศษสอนที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตละแม ชุมพร และยังเป็นอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เวลาพาเที่ยวเราเลยได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นหลายๆ ด้าน เพราะลุงแดงสอนเรื่องการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ 
 
                      เรือพาเราล่องออกจากทะเลผ่านโรงไฟฟ้าขนอม ผ่านเกาะแก่ง สวนทางเรือประมงพื้นบ้านที่กำลังกลับเข้าฝั่ง  ผ่านสะพานท่าเทียบเรือบ้านแขวงเภา เมื่อก่อนชื่ออ่าวท้องตะเภา เรืออวนรุนกำลังนำผลผลิตจากท้องทะเลมาเทียบท่าพอดี ลุงแดงบอกว่าที่นี่พยายามต่อสู้เพื่อไม่ให้มีเรืออวนรุนทำผิดกฎหมาย จะทำประมงได้ต้องอยู่ห่างชายฝั่งไม่ต่ำกว่า 3 กม. เพราะเวลาที่คราดเหล็กไปกับท้องทะเลทำให้เกิดความเสียหายทั้งปะการัง พืชใต้น้ำ หญ้าทะเล เสียหายหมด 
 
                      อีกอย่างที่เป็นห่วงคือ ความสกปรกบริเวณท่าเทียบเรือขนอม ที่ลูกเรือกวาดสิ่งสกปรกทิ้งลงน้ำจนน้ำเน่าเหม็น ซึ่งจะมีผลกระทบถึงแพลงตอน ปลาที่มากินแพลงตอน ก็จะได้รับผลกระทบเป็นทอดๆ ไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้าไปดูแล
 
 
ชวนเที่ยว : ล่องเล เข้าถ้ำ 'ขนอม'
 
 
                      ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง เรือพาล่องผ่านเกาะแล้วเกาะเล่า มองเห็นชายหาดเป็นแนวยาว ปลาเล็กๆ กระโดดหนีตอนที่เรือแล่นผ่าน บ่งบอกว่าทะเลยังสมบูรณ์ 
 
                      เกาะใหญ่โผล่ขึ้นตรงหน้าไม่ไกลจากแหลมประทับ  และเกาะนุ้ย ลักษณะหินผาที่เห็นเป็นชั้นๆ ชัดเจน จนได้ชื่อว่า เขาหินพับผ้า หรือแพนเค้กร็อก ซึ่งฉันอยากจะเรียกว่าเครปเค้กซะจริงๆ เพราะบางช่วงดูคล้ายกับเครปเค้กมากๆ ลักษณะของผาหินแบ่งชั้นเห็นชัดเจน เกิดจากกระบวนการหินตะกอน ซึ่งมีความแข็งความอ่อนต่างกัน เมื่อเกิดการกัดกร่อน ด้วยกระแสลม ชั้นหินที่อ่อนถูกกัดกร่อนไป จนเหลือชั้นที่แข็ง ดูแล้วเป็นชั้นๆ เหมือนผ้าพับซ้อนไว้ และคล้ายกับแพนเค้กร็อกของนิวซีแลนด์อีกด้วย
 
                       แถวบริเวณนี้แหละที่เรามีโอกาสได้เห็นโลมาสีชมพู แต่ด้วยความที่เรามาเรือใหญ่เลยต้องจอดเรือห่างออกไปไกล ช่วงที่เรือหยุดนิ่งนี่เอง ไม่นานนักเจ้าโลมาก็โผล่ท้องน้ำขึ้นมาให้เห็น ว่ายเล่นเข้ามาใกล้เรือเรื่อยๆ ถึงมันจะไม่กระโดดโชว์ตัวเหมือนในสวนน้ำที่มีการแสดง แต่แค่นี้ก็ตื่นเต้นดีใจกันแล้ว 
 
                      ก่อนที่เรือเล็กพุ่งตรงมารับเราเพื่อไปขึ้นเกาะนุ้ย เจ้าโลมาเลยพากันหายไป ลุงแดงบอกว่า ทะเลแถวนี้เป็นเขตอนุรักษ์โลมาสีชมพู ซึ่งมีอยู่ราวๆ 50 ตัว แต่ที่เราเห็นวันนี้มากัน 3 ตัวได้ มีเจ้าตัวเล็กสีเทาๆ เกาะแม่มาด้วย 1 ตัว แทบจะไม่โผล่ให้เห็น 
 
 
ชวนเที่ยว : ล่องเล เข้าถ้ำ 'ขนอม'
 
 
                      โลมาสีชมพู ตอนเล็กๆ ก็สีเทาๆ เหมือนโลมาทั่วไป แต่พอยิ่งโตขึ้นสีจะออกชมพู เกิดจากหลอดเลือดที่ช่วยไม่ให้อุณหภูมิร่างกายสูงจนเกินไป กลายเป็นลักษณะเด่นของพวกมันไปเลย
 
                      เรือหางยาวพานักท่องเที่ยวมาจากแหลมประทับ 3-4 ลำ มาดูโลมา ไหว้หลวงปู่ทวด (สูตรสำเร็จแพ็กเกจทัวร์เรือ) แต่เห็นการขับเรือไล่ล่าดูโลมาไม่หยุด ขนาดว่ามันเข้ามาใกล้แล้วก็ยังไม่หยุด เห็นแล้วน่าเป็นห่วงจริง ถ้าการดูโลมาจะกว่าเป็นการรบกวนโลมาซะละมากกว่า 
 
                      ลุงมลคนขับเรือเล็กมาจากหาดนางกำ ฝั่งดอนสักของสุราษฎร์ธานี รับเราจากเรือใหญ่พาไปขึ้นเกาะนุ้ย ที่เห็นทิวธงสีเหลืองปักเป็นทิวแถว เกาะเล็กๆ ที่ยามน้ำลง สามารถเดินลุยเล่นได้ แถวนี้เห็นแหล่งอนุรักษ์หญ้าทะเลเพื่อเป็นอาหารและแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำด้วย โดยเฉพาะแถวหน้าเกาะท่าไร่ไม่ไกลจากเกาะนุ้ย 
 
                      ที่ เกาะนุ้ย แห่งนี้น่าสนใจ เพราะมีเรื่องราวเกี่ยวพันกับปรากฏการณ์ “บ่อน้ำจืดกลางทะเล” เป็นแอ่งเล็กๆ รูปร่างคล้ายรอยเท้า มีน้ำไหลรินตลอดเวลา สอดคล้องกับความเชื่อเรื่องหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งมีเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาว่าเมื่อครั้งหลวงปู่ทวดเดินทางจากสงขลาไปยังกรุงศรีอยุธยาด้วยเรือสำเภา ระหว่างทางเกิดคลื่นลมแรงเรือไปต่อไม่ได้ ต้องลอยลำอยู่กลางทะเลจนน้ำจืดหมด หลวงปู่ทวดได้แสดงอภินิหารเอาเท้าเหยียบน้ำทะเลกลายเป็นน้ำจืดดื่มกินได้ ให้ลูกเรือขนน้ำไปใช้ในระหว่างการเดินทาง ด้วยความเชื่อและความศรัทธา ชาวบ้านจึงได้สร้างรูปบูชาหลวงปู่ทวดด้วยหินแกรนิต แกะสลักขนาดหน้าตัก 36 นิ้ว อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่นี่ กลายเป็นเกาะหลวงปู่ทวดกลางทะเลขนอม
 
 
ชวนเที่ยว : ล่องเล เข้าถ้ำ 'ขนอม'
 
 
 
                      อ.ขนอม ที่ชื่อชั้นอาจดูไม่หวือหวาแต่เต็มไปด้วยเรื่องราว ความหลากหลายของธรรมชาติ และยังมีเรื่องราวของวิถีชีวิตประมงพื้นบ้านจนไม่อาจข้ามผ่านไปได้ซะแล้ว
 
 
 
 
------------------------
 
- ถ้ำวังทอง เปิดทำการทุกวัน : 08.30-17.00 น. โทร.0-4305-1215
 
- ติดต่อล่องเรือชมโลมาสีชมพู (ลุงแดง-ขนอมฟิชชิ่ง) 08-9297-5135
 
- เรือหางยาว หาดนางกำ อ.ดอนสัก (ลุงมล) 08-1538-1048
 
 
------------------------
 
(ชวนเที่ยว : ล่องเล เข้าถ้ำ 'ขนอม' : เรื่อง / ภาพ ... นพพร วิจิตร์วงษ์)