ไลฟ์สไตล์

ลิเก...ไม่มีวันตายอ่อนตัวได้ตามกระแส

ลิเก...ไม่มีวันตายอ่อนตัวได้ตามกระแส

22 ก.ค. 2558

ลิเก...ไม่มีวันตายอ่อนตัวได้ตามกระแส : สุพินดา ณ มหาไชยรายงาน

            ควันหลงจากงาน “มหกรรมลิเก เสน่ห์พื้นบ้านไทย" จัดโดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) นำคณะนักแสดงลิเกชื่อดังทั่วฟ้าเมืองไทยมามอบความบันเทิงให้แม่ยกพ่อยก นำโดยพระเอกลิเกชื่อดัง “กุ้ง” สุทธิราช วงศ์เทวัญ, ศรราม น้ำเพชร, ส สำราญศิลป์, แก้วทิพย์ แก้วสวรรค์ และอีกมากมาย มาเปิดการแสดงให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม ระหว่างวันที่ 26-28 มิถุนายน 2558 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

            ในงานยังมีการจัดเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “ศักดิ์ศรีลิเกไทย ความภูมิใจสู่สากล” พร้อมสาธิตนำโดยศิลปินแห่งชาติ อ.บุญเลิศ นาจพินิจ และผู้เชี่ยวชาญด้านการแสดงพื้นบ้าน ได้แก่่ ศ.กิตติคุณ ดร.สุรพล วิรุฬห์รักษ์ อ.ฉัตรา ทับทิมธรรมนาถ อ.เด่นชัย อเนกลาภ ประธานชมรมศิลปินพื้นบ้าน ดำเนินรายการโดย รศ.ดร.อนุกูล โรจนสุขสมบูรณ์ ซึ่งมีคณะนักเรียน นักศึกษาและประชาชน ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังการเสวนาอย่างอบอุ่น

            บุญเลิศ นาจพินิจ ศิลปินแห่งชาติ ครูลิเกชื่อดัง ศิษย์เอกของครูหอมหวล นาคศิริ หัวหน้าคณะลิเกที่มีชื่อเสียงโด่งดังในจังหวัดอ่างทอง บอกว่า ปัจจุบันความนิยมศิลปะการแสดงลิเกถดถอยลงไป เพราะมีการละเล่นการแสดงของต่างชาติเข้ามาแย่งความสนใจจากเยาวชนไป ต่างจากยุคก่อนที่เยาวชนจะนิยมดูลิเกกันมาก เพราะไม่มีอะไรจะดู แต่ปัจจุบันเยาวชนไปเอาแบบอย่างต่างชาติเข้ามา ทำให้ศิลปะไทย เช่น ลิเก ถอยความนิยมลงไป

            ครูบุญเลิศ เล่าต่อว่า ในยุครุ่งเรืองนั้น จังหวัดในภาคกลางโดยเฉพาะนครสวรรค์ พิจิตร พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี เคยมีลิเกเป็น 100 กว่าคณะ แต่ปัจจุบัน เหลือแค่ 40 กว่าคณะเท่านั้น คณะลิเกเริ่มไม่ค่อยมีที่แสดง ไม่มีเวทีจะแสดง ทำให้ห่างคนดู ส่งให้ความนิยมศิลปะการแสดงชิ้นนี้ลดลงอีก คณะลิเกจึงต้องช่วยเหลือตัวเองกันอย่างมาก ส่วนใหญ่ลิเกจะได้งานแสดงตามงานที่เจ้าภาพจ้างไป เช่น งานแก้บน งานวันเกิด ยังมีแสดงกันอยู่แต่ลดน้อยลง อย่างไรก็ตามที่มีงานน้อยก็เป็นบางคณะ บางคณะก็มีงานเต็มปี บางคณะก็มีงานในเดือนที่มีงานวัด

            เพราะฉะนั้น การแสดงลิเกจึงต้องมีการปรับตัว ครูบุญเลิศ บอกว่า จริงๆ แล้ว ลิเกมีอยู่แค่ 2 ประเภท คือ ลิเกทรงเครื่องและลิเกลูกบทซึ่งมีลิเกทรงเครื่องเป็นแม่แบบ แต่ปัจจุบัน คณะลิเกส่วนใหญ่ก็ผสมผสานการแสดงลิเกเข้ากับการแสดงอื่นๆ เช่น การร้องเพลงลูกทุ่ง กลายเป็นลิเกคอนเสิร์ต เป็นการประยุกต์การแสดงให้เข้ากับกระแสความนิยม เพื่อให้คนยังดูศิลปะการแสดงพื้นบ้านนี้อยู่ ด้าน ศ.กิตติคุณ ดร.สุรพล วิรุฬห์รักษ์ ราชบัณฑิตสาขานาฏศิลป์ บอกว่า ลิเกจะสามารถอยู่รอดในสังคมไทย แม้ว่าศิลปะการแสดงเก่าๆ จะได้ตายจากไป สาบสูญไปเยอะ แต่ลิเกจะยังอยู่ เพราะเป็นของทันสมัย ทำให้คนดูประทับใจได้โดยวิธีหามุมร่วมสมัยมาประกอบการแสดง เช่น นำการเต้นรำ เพลงลูกทุ่งมาใส่การแสดง ความสดใหม่เช่นนี้ สามารถดึงความสนใจคนดูได้ ช่วยให้การแสดงพื้นบ้านชนิดนี้ไม่เสื่อมความนิยม

            นอกจากนั้น ลิเกยังมีลักษณะเป็นธุรกิจการแสดง เป็นการแสดงที่ต้องมีการบริหารจัดการ เพราะลิเกเป็นธุรกิจใหญ่ บางคณะนายโรงเลี้ยงลูกน้องถึง 40-50 คน ยังมีค่ารถ ค่าฉาก ค่าเครื่องแต่งกายอีก โดยเฉพาะค่าแต่งกายนั้น ถ้ารวมค่าแต่งกายของทุกคณะลิเกแล้วตกหลายร้อยล้านทั่วประเทศ เครื่องแต่งกายลิเก 1 ชุดใช้เพชรประดับ 2-4 พันเม็ด เบ็ดเสร็จแล้วตกราคาชุดละ 2 แสนบาท ดารานำจะมีชุดประมาณ 10 ชุด เพราะต้องเปลี่ยนตลอด ไม่ให้ช้ำ เพราะฉะนั้น สำหรับคณะลิเกใหญ่ๆ แล้ว จ้างแสดงเต็มคณะใช้เงินประมาณ 4-5 แสนบาท ยังเอาไม่อยู่

            ทุกวันนี้ แต่ละคืนมีลิเกเล่นประมาณ 10 คณะ สนนราคาตกประมาณคณะละ 2 แสนบาทต่อคืน เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องกังวลว่า ลิเกจะสาบสูญ

            “ลิเกในฐานะการแสดงพื้นฐาน ศิลปวัฒนธรรม ยังมีความเป็นธุรกิจการแสดงด้วย ทำให้ลิเกมีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับกระแสความนิยมของคนดูในปัจจุบัน ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม รู้ว่าควรเอาอะไรไว้บ้าง หรือเอาอะไรใหม่มาใส่บ้าง เป็นวัฒนธรรมแบบอ่อนตัว รู้หนักรู้เบา อย่างไรก็ตาม ลิเกเป็นการแสดงที่แสดงให้เห็นอัตลักษณ์ความเป็นไทย ทั้ง ภาษาไทย รำไทย จารีตประเพณี วัฒนธรรม กิริยามารยาทอย่างไทยๆ สถิตอยู่ในลิเกในภาพรวม" ด้านพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับจังหวัดอ่างทองและเครือข่ายทางวัฒนธรรม จัดงานมหกรรมลิเกจังหวัดอ่างทอง ประจำปี 2558 ระหว่างวันที่ 25-27 มิถุนายน เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู เผยแพร่และสร้างรายได้ให้แก่ศิลปินพื้นบ้านลิเก

            “อ่างทองโดดเด่นเรื่องศิลปะการแสดงลิเก ซึ่งนับว่าเป็นคลังวัฒนธรรมพื้นฐาน ทั้งด้านการแสดง การเล่นดนตรีไทย การทำเครื่องดนตรี เช่น กลองตะโพน ระนาด การละเล่นเพลงพื้นบ้าน โดยเฉพาะลิเกที่ถูกถ่ายทอดมากว่าทศวรรษ เสน่ห์ของลิเกอ่างทองอยู่ที่การร้อง การรำ เสียงดนตรี และเครื่องแต่งกายที่ระยิบระยับสวยงาม ที่สำคัญจะสร้างเสริมอาชีพและรายได้ให้แก่ศิลปินลิเก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมจะดำเนินการจัดทำทำเนียบคณะลิเกทั่วประเทศเพื่อเป็นช่องทางในการสร้างรายได้แก่ศิลปินลิเกและรองรับตลาดการท่องเที่ยวได้ในอนาคตอีกด้วย"