
จาก 'ภูเรือ' ไปดูผีตามคน 'ด่านซ้าย'
05 ก.ค. 2558
ชวนเที่ยว : จาก 'ภูเรือ' ไปดูผีตามคน 'ด่านซ้าย' : เรื่อง / ภาพ ... นพพร วิจิตร์วงษ์
เสียง กุ๊งกิ๊ง ก๊องแก๊ง ของหมากกะแหล่ง ดังขึ้นรอบตัว...นี่ฉันหลงมาอยู่กลางดง "ผีตาโขน" เข้าแล้ว
ระยะทางเดินจากแยกบ้านเดิ่น เข้ามาตามถนนแก้วอาสา ผ่านหน้าวัดโพนชัย ปากซอยที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย สถานีตำรวจ ไปถึงหน้าเทศบาล เต็มไปด้วยผู้คน มีทั้งนักท่องเที่ยว ชาวบ้านที่มาร่วมประเพณีงานบุญหลวง และบรรดาผีตาโขนตัวเล็กตัวน้อย ไปจนถึงผีตาโขนใหญ่ ความคึกคักรายล้อมเข้ามารอบตัว จนอดนึกถึงภาพของเมืองเมื่อวันวานที่ยังเงียบสงบอยู่กับธรรมชาติไม่ได้
ช่วงงานผีตาโขน ที่พักใน อ.ด่านซ้าย เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ทะลักออกไปถึงภูเรือ หรือเชียงคาน ที่กลายเป็นจุดหมายแรกของหลายๆ คนก่อนเดินทางมาร่วมงานผีตาโขน ฉันเองเลือกภูเรือ หลังจากห่างหายแถบนี้ไปหลายปี จะได้ขึ้นไปเดินเล่นกินลมชมธรรมชาติบนยอดภูเรือ
ก่อนไปภูเรือ แวะไหว้ พระธาตุศรีสองรัก พยานรักของสองกษัตริย์ระหว่าง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอุธยา และพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต หรือนครเวียงจันทน์ ของลาว ซึ่งทั้งสองกษัตริย์ทรงร่วมกันต่อสู้กับพม่า และทำสัตยาธิษฐานไม่ล่วงล้ำดินแดนกันและกัน โดยสร้างพระธาตุศรีสองรักขึ้นมาเป็นพยาน บริเวณจุดบรรจบแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง รอยต่อของสองประเทศ ยังมีจารึกตั้งไว้ให้ได้เห็น
เวลาไปไหว้พระที่นี่ มีป้ายแนะนำให้เดินวนซ้ายรอบองค์พระธาตุ เพื่อเอาหัวใจเข้าใกล้พระธาตุ ถือเป็นธรรมเนียมสืบต่อกันมาหลายร้อยปี และทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ชาวอำเภอด่านซ้ายจะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุ โดยจะนำต้นผึ้งมาถวาย พระภิกษุที่จำวัดอยู่บอกว่า การนำต้นผึ้งมาถวายก็ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้มีชีวิตเป็นอยู่สุขสบาย หรืออุทิศให้แก่ผู้ล่วงลับ หรือสัมภเวสี ให้ได้ไปอยู่สุขสบายนั่นเอง
องค์พระธาตุศรีสองรักนี้ ยังมีองค์จำลองอยู่ที่วัดโพนชัย ศูนย์กลางของการทำพิธีบุญหลวง และการละเล่นแห่ผีตาโขน หรือผีตามคนด้วย
เมฆครึ้มๆ ลอยต่ำระหว่างเดินทางไปภูเรือ จนหวั่นใจจะได้ขึ้นไปสูดอากาศหรือวิ่งหนีฝนบนยอดภูเรือ จนเมื่อรถผ่านด่านเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ ขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงจุดจอดรถด้านบน ฟ้าก็เริ่มเปิด แสงแดดอุ่นๆ ยามเย็นทอลงมา ไม่น่าเชื่อว่าเปิดประตูรถลงไป อากาศเย็นก็กรูมาทักทาย ก็ภูเรือน่ะ เป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อน ได้ชื่อว่าเป็นจุดที่อากาศหนาวเย็นตลอดปี ช่วงฤดูหนาวที่นี่ก็หนาวที่สุด ผู้คนมักจะแห่ไปดูแม่คะนิ้ง แต่ช่วงฝนๆ แบบนี้ อากาศตอนบ่ายแก่ๆ อยู่ที่ 26 องศา แอร์ธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์
จากที่จอดรถ เดินไปไม่กี่ร้อยเมตรก็ถือจุดชมวิว ผาโหล่นน้อย จุดชมวิวที่มองไปเห็นทุ่งนาของชาวบ้านพื้นราบกว้างไกล บางแปลงลงกล้าแล้ว บางแปลงยังเป็นดินแดงๆ อยู่ รอฝนลงไม่นาน ผืนดินแถบนี้คงเขียวขจี ชมวิวกินลมกันพอประมาณ ค่อยเดินเท้าต่อไปยังจุดชมวิวยอดภูเรือ ที่มองเห็นอยู่ไม่ไกลนัก ถ้าไปทางลัดจะห่างจากผาโหล่นน้อยราวๆ 700 เมตร แต่ถ้าไปทางถนนรถก็ราวๆ 1 กม.

ขาขึ้นไปทางลัดก็แล้วกัน ตลอดทางผ่านดงไม้ร่มครึ้ม ลมเย็นๆ พัดมาแผ่วเบารับกับแดดอุ่นๆ ที่ตามส่งถึงยอด ด้านบนมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ ยอดภูเรือ เป็นยอดสูงสุดในแถบนี้ มีความสูง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง รองลงไปคือ ยอดเขาภูสันสูง 1,035 เมตร และยอดภูกุสูง 1,000 เมตร เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย บนยอดภูยังเห็นหินก้อนใหญ่ รูปร่างต่างกันไป ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของลมและฝน
บนยอดภูเรือเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีหน้าผาที่ชะโงกยื่นออกไปลักษณะคล้ายกับหัวเรือสำเภาขนาดใหญ่ เลยได้ชื่อว่าภูเรือ จากหน้าผามองเห็นขุนเขาน้อยใหญ่ในมุมกว้าง ต้นไม้ร่มครึ้ม จังหวะนี้ยังไม่ใช่ช่วงของกล้วยไม้ แต่ดอกไม้ดินมีให้เห็นอยู่บ้าง โดยเฉพาะเปราะภูสีชมพู
นั่งเอ้อระเหยรอดูอาทิตย์ตกเหนือยอดภู ที่ไหนได้ เมฆคล้อยต่ำลงมามาก แต่แม้ไม่เห็นตะวันลับฟ้า แค่มานั่งกินลม ชมวิวสงบๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด แค่นี้ก็ชื่นใจ
จากภูเรือไปด่านซ้ายใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง ก็มาตกอยู่ในวงล้อมของผีตาโขนซะแล้ว
ประเพณีการแห่ผีตาโขน เป็นประเพณีเก่าแก่ที่อยู่คู่กับคนด่านซ้าย จ.เลย มานาน ใกล้เคียงกับประเพณีการบูชาบรรพบุรุษของอาณาจักรล้านช้าง "หลวงพระบาง" ซึ่งในอดีตแนวเขตแดนด่านซ้าย เชียงคานและหล่มเก่าเป็นส่วนหนึ่งในการปกครองของอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง
การละเล่นผีตาโขน มีขึ้นในงานบุญหลวง หรืองานทำบุญเทศน์มหาชาติ ซึ่งเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่น โดยรวมเอางานบุญผะเหวด (บุญพระเวส หรือฮีตเดือนสี่) กับงานบุญบั้งไฟ (ฮีตเดือนหก) เข้าไว้ด้วยกัน ในงานบุญหลวงนี่เอง กองทัพผีตาโขนจะออกเต้นอาละวาดทั่วเมืองด่านซ้าย ร่วมสร้างความสนุกสนาน คำว่า ผีตาโขน จากคำบอกเล่าของเจ้าพ่อกวนที่เข้าทรงว่า "ผีตามคน" และก็เพี้ยนมาเป็น ผีตาโขน

ที่มาที่ไปของผีตามคน หรือผีตาโขน เล่ากันว่า เกิดขึ้่นเมื่อครั้งพระเวสสันดรและพระนางมัทรีจะเดินทางออกจากป่าสู่เมือง บรรดาผีป่าทั้งหลายพากันแห่แหน แฝงตัวแฝงตนมากับชาวบ้าน เพื่อมาส่งเสด็จทั้งสองพระองค์กลับเมือง เรียกว่า "ผีตามคน" กระทั่งเพี้ยนมาเป็น "ผีตาโขน" ในปัจจุบัน ดังนั้นในขบวนแห่พระเวสเข้าเมืองก็จะได้เห็นผีตาโขนแทรกไปกับขบวน รวมถึง ผีป่าตัวดำ ก็ตั้งขบวนมาด้วย
ปี 2558 งานบุญหลวงที่ อ.ด่านซ้าย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26-28 มิถุนายน เริ่มตั้งแต่ตี 3 ของวันที่ 26 ด้วยพิธีเบิกพระอุปคุต ซึ่งเป็นเทพแห่งน้ำ ให้มาคอยปราบมารที่มาผจญในงานบุญใหญ่ โดยระหว่างงานจะตั้งหอพระอุคุตไว้ที่วัดโพนชัย หลังจากนั้นจึงเป็นขบวนแห่ไปยังบ้านเจ้าพ่อกวนและเจ้าแม่นางเทียม ในงานแห่นี่เองที่จะมีคณะแสน นางแต่ง ผีตาโขน รวมขบวนเซิ้งกันไป พอวันรุ่งขึ้นจะแห่ผีตาโขนกันตั้งแต่เช้า จนถึงบ่ายจะตั้งขบวนอัญเชิญพระเวสสันดรและพระนางมัทรีเข้าเมือง ก็คือที่วัดโพนชัย
ผีตาโขนเล็กที่มาร่วมขบวน ใครจะแต่งก็ได้ แต่ผีตาโขนตัวใหญ่ในแต่ละขบวนจะมี 2 ตัว เป็นเพศหญิงและชาย ก่อนใส่ต้องมีพิธีบวงสรวง พอเล่นเสร็จนำไปโยนทิ้งแม่น้ำหมัน เหมือนทิ้งเคราะห์ สิ่งชั่วร้ายไม่ดีไป ส่วนวันที่ 3 จะเป็นงานเทศน์มหาชาติ

ที่เล่ามานี้ ว่ากันตามประเพณีเก่าแก่ที่ยึดถือ แม้ปีนี้ยังทำกันอยู่แต่หลายอย่างเปลี่ยนไปจนคนในพื้นที่รู้สึกและตั้งคำถาม สะท้อนผ่านสื่อท้องถิ่น "ด่านซ้าย แม็กกาซีน" ว่า ประเพณีผีตาโขนในทุกวันนี้ คือ "เปลือก หรือ แก่น ...? ผีตาโขนบุญประเพณีที่ขายได้"
หลายความคิดเห็นมองไปว่า ประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสการท่องเที่ยว บ้างก็มองว่า การประกวดขบวนแห่ ประกวดหน้ากากผีตาโขน ทำให้ความเชื่อ ข้อห้าม ข้อปฏิบัติในการเล่นผีตาโขนเปลี่ยนแปลงไป บางความเห็นมองว่า การให้ความสำคัญกับผีตาโขนเล็กเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวส่งผลให้มีการประดิษฐ์หน้ากากผีตาโขนที่เปลี่ยนไป
ท่ามกลางหลายคำถามที่ผุดขึ้นมา ขบวนแห่ผีตาโขนปีนี้ก็ยังคงมีเอกลักษณ์เฉพาะ หากมองให้ลึกซึ้งก็ยังเป็นประเพณีท้องถิ่นที่คนด่านซ้ายบอกว่า ยังไงก็ยิ่งใหญ่กว่างานบุญไหนๆ
"ผมทำงานอยู่ที่พัทยา ช่วงปีใหม่ไม่ได้กลับบ้านก็เฉยๆ นะ แต่งานแห่ผีตาโขนนี่ ยังไงก็พลาดไม่ได้ ต้องกลับมาบ้าน มาร่วมงาน นี่ก็เตรียมงานกัน อดหลับอดนอนมา 2 วันแล้ว" เสียงของหนุ่มน้อยที่มาสอนนักท่องเที่ยวลงสีหน้ากากผีตาโขน ที่พิพิธภัณฑ์วัดโพนชัย เอ่ยให้ฟัง
สิ่งที่เกิดขึ้น มันเหมือนจิตวิญญาณ ส่วนจะลึกซึ้งถึงรากเหง้าเหมือนเมื่อครั้งบรรพกาลหรือไม่ คงต้องดูกันต่อไป
-----------------------
(ชวนเที่ยว : จาก 'ภูเรือ' ไปดูผีตามคน 'ด่านซ้าย' : เรื่อง / ภาพ ... นพพร วิจิตร์วงษ์)