จับตาธุรกิจเกษตร 'ไทย-รัสเซีย' | คมชัดลึก

 

                         ถ้าจำกันได้ เมื่อต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเชีย “ดมิทรี เมดเวเดฟ” ได้เดินทางเยือนมาประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 120 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศ ปี 2560 หรือในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี การเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสทองของประเทศไทยในการขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ตามที่ปลัดกระทรวงเกษตรฯ “ชวลิต ชูขจร” ให้ข้อมูล 

 

                         โดยเฉพาะข้าว เนื้อปลาสดแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ปลาหมึกสดแช่เย็นแช่แข็ง เนื้อปลาสดแช่เย็นแช่แข็ง ปลาแห้ง ผักสดแช่เย็นแช่แข็ง ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผักกระป๋องและแปรรูป เห็นได้จากมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดของไทยไปรัสเซียในช่วงปี 2554-2556 ที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 35,000 ล้านบาทต่อปี

 

                         จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุชัดสำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทยไปยังรัสเซียนั้น มีสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับที่ 32 ของไทย ในระหว่างปี 2555-2557 มีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรร้อยละ 0.53 ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลก โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา มีมูลค่า 8,156 ล้านบาท ทั้งนี้ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าสินค้าเกษตรกับรัสเซียมาโดยตลอด

 

                         ขณะเดียวกันการที่รัสเซียห้ามนำเข้าเนื้อวัว เนื้อหมู ปลา สัตว์ปีก นม ผลิตภัณฑ์จากนม ผัก และผลไม้ทั้งหมดจากสหรัฐ และอียู รวมถึงออสเตรเลีย แคนนาดา และนอร์เวย์ โดยมีผลทันทีเป็นระยะเวลา 1 ปีนั้น ถือเป็นโอกาสที่ไทยจะส่งออกสินค้าเกษตรไปยังรัสเซียเพิ่มมากขึ้น

 

                         ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังเคยวิเคราะห์ไว้ว่า การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำรัสเซียและไทย รวมถึงภาคเอกชนของทั้งสองประเทศอย่างเป็นรูปธรรมในครั้งนี้ จะเอื้อประโยชน์ต่อการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มีพัฒนาการมากขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยไปรัสเซีย นับว่ามีแนวโน้มสดใสกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งได้แรงสนับสนุน 2 ทาง จากความต้องการบริโภคของรัสเซียเพื่อชดเชยการนำเข้าสินค้าอาหารจากสหภาพยุโรป (อียู) ผลจากมาตรการคว่ำบาตรของรัสเซียต่ออียู และแรงหนุนจากภาครัฐบาลของทั้งสองประเทศที่จะมาเป็นเครื่องช่วยเสริมการส่งออกอย่างมั่นคงมากขึ้น 

 

                         ด้วยเหตุนี้ทางสมาคมนักวิจัยในอุปถัมภ์สภาวิจัยแห่งชาติ จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการธุรกิจภาคการเกษตร โดยนำสมาชิกสมาคม ผู้ประกอบการส่งออก นักวิชาการ และเกษตรกรที่สนใจศึกษาดูงานที่สหพันธรัฐรัสเซียในเดือนกันยายน 2558 นี้ สนใจสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่สมาคม โทร.0-2579-0787, 0-2942-7522 ในวันและเวลาราชการครับ

 

 

 

 

-----------------------

 

(เส้นทางอาชีพ : จับตาธุรกิจเกษตร 'ไทย-รัสเซีย' : โดย...สุรัตน์ อัตตะ [email protected])