ไลฟ์สไตล์

ถ่ายทอดสอนภาษาจีนทางไกลไปยังร.ร.

ถ่ายทอดสอนภาษาจีนทางไกลไปยังร.ร.

17 มิ.ย. 2558

สพฐ.ดันศูนย์ภาษาจีน ร.ร.ไตรมิตรวิทยา เป็นต้นแบบและแม่ข่ายจัดการเรียนการสอนภาษาจีน เตรียมนำร่องถ่ายทอดสัญญาณสอนทางไกลจากจีนไปยัง ร.ร.มัธยมในเขตกรุงเทพฯ

              เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวระหว่างเปิดการประชุมการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนทางไกลในโรงเรียน โดยมีพระพรหมมังคลาจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวรวิหาร พร้อมด้วยครูและบุคลากรผู้สอนภาษาจีนเข้าร่วมกว่า 150 คน ว่า ภาษาจีน เป็นอีกภาษาที่มีความสำคัญและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นภาษาที่สำคัญรองลงมาจากภาษาอังกฤษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงผลักดันให้กิจกรรมการเรียนการสอนภาษาจีนขยายออกไปในวงกว้าง แต่ขณะนี้ก็ยังประสบปัญหาการขาดครูบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านภาษาจีน ซึ่งที่ผ่านมา สพฐ.ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากพระพรหมมังคลาจารย์ ในการสนับสนุนจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมจีน ที่โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย โดยศูนย์ดังกล่าวมีความทันสมัย นำเสนอและถอดแบบจากสำนักงานส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนนานาชาติ หรือ ฮั่นปั้น ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ที่ตนมั่นใจว่าศูนย์ของเรามีความโดดเด่นกว่านั่นคือ ความสามารถในการรับส่งและถ่ายทอดสัญญาณการจัดการเรียนการสอนทางไกลจากประเทศจีน ซึ่งโรงเรียนไตรมิตรฯ ถือเป็นโรงเรียนต้นแบบซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนที่สุด

              “สพฐ.ตั้งเป้าให้ศูนย์แห่งนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ เป็นศูนย์กลางและแม่ข่ายการจัดการเรียนรู้ภาษาจีน เบื้องต้นจะนำร่องการถ่ายทอดการเรียนการสอนภาษาจีนไปยังโรงเรียนมัธยมศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 และ เขต 2 กรุงเทพมหานคร จากนั้นจะขยายไปยังกลุ่มโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนประจำจังหวัด มาเป็นเครือข่ายและเมื่อเข้มแข็งก็จะขยายไปยังโรงเรียนทั่วประเทศทั้งในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ขณะเดียวกัน หวังให้ศูนย์ดังกล่าวเป็นตัวเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนให้เข้มแข็ง โดยเร็วๆนี้ ทางฮั่นปั้นจะเดินทางมายังประเทศไทย ซึ่ง สพฐ.จะเสนอกับทางฮั่นปั้นขอให้เปิดโอกาสให้ครูได้เดินทางไปดูงานการเรียนการสอนที่แท้จริง และขอการสนับสนุนครูจีนมาสอนในโรงเรียนของเราเพิ่มขึ้นด้วย”นายกมล กล่าว

 

“สุขุมพันธ์”เปิดหลักสูตรภาษาไทย-อังกฤษ ไทย-จีน
 
 
             เมื่อเวลา 10.00 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯก ทม. เป็นประธานมอบนโยบายด้ านการศึกษาผ่านรายการ ผู้ ว่าฯ กทม. ออนไลน์ ประจำปีการศึกษา 2558 เรื่องการยกระดับการ ศึกษา พัฒนาศักยภาพครู มุ่งสู่คุณธรรม 
 
             ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า นโยบายที่กทม.จัดการส่งเสริมด้านการศึกษา ทางกทม.สนับสนุน ให้มีห้องเรียนหลักสูตรสอง ภาษาที่ได้ มาตรฐานสากล ห้องเรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ขณะนี้มีจำนวน 41 แห่ง และห้องเรียนภาษาไทยภาษาจีน จำนวน 14 แห่ง นอกจากนี้จะมีการเปิดสอนอีกหลายภาษา อาทิเช่น ภาษาอาหรับ ภาษามลายู ภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งในอนาคตหวังว่าโรง เรียนสังกัดกทม.ทั้ง 438 แห่งจะสามารถเข้าสู่หลักสูตรห้องเรียนสองภาษาได้ เพื่อเป็นมาตรฐานการศึกษาร่วมกัน
 
             ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวต่อว่า กทม.จัดทำโรงเรียนร่วม กว่า 115 แห่ง เพื่อเป็นการให้โอกาสเด็กออทิสติคสามารถเรียน รู้ เข้าสู่สังคมได้ เช่นเด็กทั่วไป ส่วนในเรื่องของแทบเลตยังคงมีความต้องการที่จะให้กับนักเรียนทุกคน แต่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ จึงหวังว่าในอนาคตจะมีผู้ ค้าเข้ามาสนับสนุนเรื่องดังกล่าว ส่วนเรื่องคุณภาพครู การพัฒนาศักยภาพครู เป็นเรื่องที่ทา งกทม.ให้ความสำคัญ โดยมีการส่งเสริมสวัสดิการครู การสร้างสภาพแวดล้ อมให้อาชีพครูมีความหมายสามารถให้ความสุขกับ นักเรียน เปิดโอกาสในการพัฒนาครูเลื่อนวิทยฐานะ การลดภาระครูเพื่อให้มีเวลาให้กับนักเรียนมากขึ้น รวมทั้งสนับสนุนความ เป็นมืออาชีพครู ส่งครูไปอบรมที่ประเทศฟินแลนด์
 
             ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่เรื่องของคุณภาพผู้ เรียน ตามนโยบาย “อิ่มท้อง สมองดี มีวินัย ปลอดภัย โตไปไม่โกง” มี การจัดกิจกรรมสนับสนุนการจัดสรรงบประมาณเพิ่มค่าอาหารเช้ าให้กับนักเรียนในสังกัดกทม. เฉพาะโรงเรียนที่นัก เรียนตำ่กว่า200คน จาก 8 บาท เป็น 10 บาทต่อคนต่อวัน และเปิดพิพิธภัณฑ์สองแห่งคือที่จตุจักรและทุ่งครุ ด้านการส่งเสริมทาง วิชาการแล้ ว กทม.ยังส่งเสริมในเรื่องของดนตรีและกีฬา ส่วนเรื่องความปลอดภัย ทางกทม.มีการแจกหมวกกันน็อคให้กับผู้ ปกครองหรือนักเรียน เพื่อความปลอดภัยในขณะเดินทาง ที่สำคัญทางกทม.เปิดหลักสูตร โตไปไม่โกง ซึ่งเป็นเรื่องการปลูกฝัง วินัย โดยทางกทม.มีการจัดทำสื่อการเรียนรู้ อาทิเช่น เพลงโตไปไม่โกง การ์ตูน นิยาย เป็นต้น ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวต้องเข้าถึง นักเรียนทุกระดับชั้น