ไลฟ์สไตล์

'เทพศิรินทร์'สืบสานประเพณีพิธีถวายราชสักการะร.8

'เทพศิรินทร์'สืบสานประเพณีพิธีถวายราชสักการะร.8

16 มิ.ย. 2558

'เทพศิรินทร์'สืบสานประเพณีพิธีถวายราชสักการะร.8 : ฐิติพล ขำประถมเรื่อง ร.ร.เทพศิรินทร์ภาพ

               เมื่อเอ่ยชื่อโรงเรียนในดวงใจของพ่อแม่ผู้ปกครอง หนึ่งในจำนวนนั้นต้องมีโรงเรียนชายล้วน อย่าง "เทพศิรินทร์" อยู่ในอันดับแถวหน้าของเมืองไทย ด้วยเกียรติประวัติเลื่องชื่อ ปั้นคนคุณภาพออกรับใช้สังคมไทยมาร่วม 130 ปี เหนืออื่นใดสถานศึกษาแห่งนี้หล่อหลอมลูกหลานไทยผ่านประเพณีที่งดงามยิ่ง...

               ยามเช้าที่ โรงเรียนเทพศิรินทร์ ถนนกรุงเกษม กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา คึกคักเป็นพิเศษ รอบรั้วสนามโรงเรียนเต็มไปด้วยพวงมาลาประดับ ทอดยาวไปจนสุดแนวรั้วสนาม เนื่องด้วยเป็นวันที่เหล่า "ลูกแม่รำเพย" ทั้งศิษย์เก่าและปัจจุบัน รวมถึงคณะอาจารย์ทั้งเก่าและใหม่ จะมารวมตัวคืนสู่ถิ่นฐานสถานศึกษาอันเป็นที่รัก เพื่อสืบสานหนึ่งในขนบธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อเนื่องกันมายาวนาน จากรุ่นสู่รุ่น นั่นคือ "พิธีถวายราชสักการะ" เนื่องในรัฐพิธีวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ 8) เพื่อให้ราชสกุล ราชนิกุล คณะครูและผู้บริหารโรงเรียนเทพศิรินทร์ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ได้ร่วมวางพวงมาลาถวายสักการะต่อพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8

               อนันต์ ทรัพย์วารี ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์ เล่าว่า พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ซึ่งพระองค์ท่านทรงเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ ดังนั้นเมื่อถึงวันคล้ายวันสวรรคต ทุกวันที่ 9 มิถุนายนของทุกปี คณะครูและนักเรียนทั้งอดีตและปัจจุบันจะมารวมตัวกันเพื่อวางพวงมาลาถวายราชสักการะแด่พระองค์ท่าน และยังมีการทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์, พิธีมอบเกียรติบัตรแด่ข้าราชการครูที่ได้รับการเชิดชูเกียรติ และนักเรียนที่มีผลการเรียนดีเด่น พิธีทั้งหมดได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคณะครู, นักเรียน, ศิษย์เก่า, บุคลากรของโรงเรียนทุกคน และวัดเทพศิรินทร์ด้วย

               "นอกจากงานพิธีที่โรงเรียนจัดขึ้นแล้ว สมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังได้ร่วมกันจัดกิจกรรม "พี่เลี้ยงน้อง" ซึ่งร้านอาหารทุกร้านในโรงอาหารของโรงเรียนจะเปิดให้รับประทานฟรีทั้งหมด ทางสมาคมเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย รวมถึงงานออกร้านอาหารให้ได้อิ่มอร่อยกันในช่วงหลังพิธีอีกด้วย"

               ผอ.ร.ร.เทพศิรินทร์ เล่าอีกว่า สิ่งที่ศิษย์เก่าจะได้จากการร่วมพิธีคือ นักเรียนที่จบไปแล้วจากที่นี่จะได้กลับมาแสดงความกตัญญูกตเวทิตา เมื่อกลับมาก็ไม่ได้มาเพียงเพื่อเยี่ยมโรงเรียนอย่างเดียว แต่กลับมาเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนด้วย ทั้งในเรื่องทุนการศึกษาของน้องๆ และพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทั้งวัสดุอุปกรณ์การเรียนและอีกหลายสิ่งหลายอย่าง

               "สำหรับศิษย์ปัจจุบันถือว่าเป็นวันสำคัญของตัวนักเรียนเอง ที่จะได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งพิธีถวายพวงมาลา ได้ยกย่องเชิดชูเกียรติ และน้อมรำลึกถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะโรงเรียนของเราก็ก่อตั้งโดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 5) ร่วมไปถึงการสืบสานวัฒนธรรมประเพณี และรำลึกคุณพระมหากษัตริย์ที่พระราชทานแก่เรา"

               พิธีถวายราชสักการะในปีนี้จบลงอย่างเรียบร้อย พร้อมด้วยบทร้องอโหกุมาร บทร้องประจำโรงเรียนที่ดังกึกก้องไปทั่ว บทเพลงที่เหล่า "ลูกแม่รำเพย" ต่างเปล่งเสียงร้องด้วยความภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสืบสานขนบธรรมเนียมอันดี ให้อยู่คู่สถาบันที่ผูกพันพวกเขาให้เป็นหนึ่งเดียวในนาม "เทพศิรินทร์"



ราชสกุลจักรพันธุ์ และราชสกุลภาณุพันธุ์กับโรงเรียนเทพศิรินทร์


               ม.ร.ว.เบญจาภา (จักรพันธุ์) ไกรฤกษ์ เล่าถึงความผูกพันระหว่าง "ราชสกุลจักรพันธุ์ และราชสกุลภาณุพันธุ์" กับโรงเรียนเทพศิรินทร์ว่า ลูกศิษย์ของเทพศิรินทร์ ในนาม "ลูกแม่รำเพย" ซึ่งก็คือ สมเด็จพระเทพศิรินทร์ ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) โดยพระราชโอรสของท่าน นอกจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียน ก็ยังมี เจ้าฟ้าชายจาตุรนต์รัศมี (กรมพระจักรพรรดิพงศ์) ผู้ซึ่งเป็นต้นราชสกุลจักรพันธุ์ และเจ้าฟ้าชายภาณุรังษีสว่างวงศ์ (กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช) ผู้ซึ่งเป็นต้นราชสกุลภาณุพันธุ์ ดังนั้นโรงเรียนจึงเชิญ 2 ราชสกุลมาร่วมงานเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นงานใดก็ตาม

               "ดิฉันในฐานะลูกหลานของท่านพ่อที่เป็นศิษย์เก่า และญาติของสมเด็จพระเทพศิรินทร์ จึงได้รับเชิญให้มาร่วมพิธีสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลในครั้งนี้ ดิฉันมีความภูมิใจ ปลื้มใจ และศรัทธา ในการดูแลนักเรียนและการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของโรงเรียนเทพศิรินทร์เป็นอย่างมาก อีกทั้งงานนี้ยังทำให้เหล่าศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ แลกไลน์และเฟซบุ๊กกันด้วย"