เยือนถิ่นเมารีที่ 'โรโตรัว' | คมชัดลึก

 

                    ว่ากันว่า ถ้าอยากสัมผัสชีวิตชาวเมารีแบบใกล้ชิด  ต้องบุกไปให้ถึง เมืองโรโตรัว (Rotorua) ประเทศนิวซีแลนด์ ที่นี่แหละเป็นถิ่นของชาวเมารีนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  

 

                    ปัจจุบันชาวเมารีกระจายอยู่ทั่วประเทศนิวซีแลนด์กว่า 6 แสนคนก็จริง แต่ที่มากที่สุดเป็นที่โรโตรัว ฉันจึงเหาะเหินเดินอากาศไปหาโรโตรัวอย่างไม่รีรอ

 

                    เที่ยวนี้เป็นการเดินทางที่การท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ (www.newzealand.com) จัดหาข้อมูลการเดินทางและวางแผนการเดินทางให้ฉันอย่างครบครัน โดยให้เป็นนิวซีแลนด์แบบเซลฟ์ไดรฟ์ เมื่อถึงสนามบินโรโตรัว สิ่งที่ทำเป็นอันดับแรกเลย จึงต้องไปรับพาหนะคู่ใจก่อน จะให้สะดวกมีจีพีเอสติดรถไว้ก็จะทำให้การเดินทางง่ายดายขึ้น

 

                    บอกไว้ตรงนี้เลยสำหรับคนไทยที่จะไปเที่ยวที่นิวซีแลนด์ ว่าขับรถเที่ยวด้วยตัวเองเป็นเรื่องสะดวกและง่ายดายมาก เพราะขับรถด้านเดียวกับบ้านเรา และกฎกติกาการจราจรไม่ซับซ้อน แถมดีตรงที่ไม่มีรถติดให้หงุดหงิดใจ ใครที่มีใบอนุญาตขับขี่สากล สามารถใช้ได้เลย 

 

                    จากสนามบินโรโตรัวเข้าเมืองใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็พาตัวเองมาถึงถิ่นเมารี โรโตรัวต้อนรับฉันด้วยอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน และกลิ่นกำมะถันอ่อนๆ 

 

                    เมื่อรถเริ่มเข้าเขตโรโตรัว กลิ่นกำมะถันมักจะโชยลิ่วมาปะทะโพรงจมูก ชิงทักทายแขกเหรื่อก่อนชาวเมืองบ่อโคลนซะอีก ตัวเมืองโรโตรัวจัดว่าสงบงาม ด้วยองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบผืนกว้าง บ้านช่องห้องหับหลากสี ขนาดของเมืองที่ไม่ใหญ่โตจนเกินงาม ร้านกาแฟตามหัวมุมถนน ความน่ารักและเป็นกันเองของผู้คน   

 

                    แต่ที่ช่วยเสริมเสน่ห์ให้โรโตรัวอีกแรงคงจะเป็น  สปาโคลนและบ่อน้ำร้อนที่มีอยู่เกลื่อนเมือง ด้วยเป็นเมืองที่มีความร้อนใต้ผืนดินอยู่มาก โรโตรัวจึงเป็นเมืองสปาที่สาวๆ มักจะแวะมาอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน พอกโคลนบำรุงผิว ฉันเองก็แวะไปแช่บ่อน้ำร้อนที่ Polynesian Spa ที่อยู่ริมทะเลสาบ แช่ไปชมวิวไป หายหนาวเป็นปลิดทิ้ง

 

                    อาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนเสร็จ ลองเดินเร่เข้าไปใน i-Site  บนถนน Fenton อันเป็นถนนสายหลักประจำเมือง ก็ออกมาพร้อมกับข้อมูลที่ครบครัน แถมได้ข่าวว่า เดี๋ยวนี้โรโตรัวมีย่านอาหารการกินที่มีอาหารหลากสัญชาติรวมกันอยู่ที่ Food Street ใครคิดถึงอาหารไทยมีร้าน Wild Rice Thai Cuisine ที่เข้าไปแล้วไม่ผิดหวังในรสชาติเลยแม้แต่จานเดียว 

 

                    วันรุ่งขึ้น ฉันมุ่งหน้าไปที่ เท ปูยา (Te Puia) ที่ขับรถจากย่านใจกลางเมืองมาแค่ราว 10 นาทีเท่านั้น ว่ากันว่า ถ้าอยากสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ชาวเมารีแบบ เรียล เมารี ต้องมา ที่นี่จะได้เห็นสัญลักษณ์ของบ้านเรือน วัฒนธรรมและวิถีความเป็นอยู่ของชาวเมารี ไม่ว่าจะเป็นการทอผ้า การทำเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากใบไม้ การแกะสลักไม้เพื่อเป็นเครื่องประดับและอาวุธต่างๆ รวมไปถึงเรื่องอาหารการกิน ที่ชาวเมารียังใช้ขั้นตอนการปรุงอาหารแบบดั้งเดิมโดยเรียกการทำอาหารแบบนี้ว่า Hangi คือ การใช้ความร้อนและไอน้ำในการปรุงอาหาร เรียกว่าใช้ความร้อนจากใต้พิภพให้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

 

                    วิถีชีวิตของพวกเขาผูกพันกับความร้อนใต้พิภพโดยแท้ เมื่อมาถึงที่นี่ก็จะพบกับบ่อโคลนเดือดและน้ำพุร้อน ที่มีชื่อว่า Te Whakare warewa Thermal Valley น้ำพุร้อนนี้เป็นน้ำพุร้อนที่สูงที่สุดในนิวซีแลนด์ มีความสูงประ มาณ 16-30 เมตร ซึ่งแต่ละวันจะพุ่งขึ้นประมาณ 20 รอบ และยังมีบ่อโคลนเดือนมีความร้อนประมาณ 90-95 องศาเซลเซียส 

 

                    และเมื่อมาที่นี่ช่วงเช้าจะมีโชว์ที่บอกเล่าวิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของชาวเมารี ว่ากันตั้งแต่พิธีการต้อนรับ ไปจนถึงระบำที่หนุ่มสาวชาวเมารี แต่งเนื้อแต่งตัวในแบบพื้นเมืองออกมาวาดลวดลายการเต้นระบำ และการทักทายในแบบของเมารี พร้อมกับร้องเพลงประสานเสียงอย่างไพเราะ

 

                    นอกจากคำว่า "เคีย โอร่า" ที่แปลว่าสวัสดีแล้ว ภาษาเมารีคำอื่นฉันแทบหูไม่กระดิก แต่การสื่อสารของชาวเมารีบนเวที ที่ตั้งใจจะบอกถึงวิถีชีวิตในแบบพวกเขา การแลบลิ้นปลิ้นตา รวมทั้งการละเล่นและวัฒนธรรมต่างๆ กลับแทบไม่ต้องเข้าใจถึงภาษา หากแต่การแสดงออกด้วยหน้าตา ท่าทาง และเสียงร้อง บอกเล่าแทนถ้อยคำนับหมื่นนับพัน

 

                     ปิดท้ายโชว์ ด้วยการลองใช้ปลายจมูกสัมผัสกับชาวเมารี มันทำให้ฉันบอกตัวเองว่า ใช่...เรามาถึงนิวซีแลนด์แล้ว ว่ากันว่า ถ้าไม่ได้แตะจมูกชาวเมารี ถือว่ามาไม่ถึงแผ่นดินนิวซีแลนด์อย่างแท้จริง

 

                    จะว่าไป ความพิเศษอีกอย่างของโรโตรัวคือ การใช้ชีวิตของผู้คน ท่ามกลางการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนระหว่างชาวพื้นเมืองดั้งเดิมและคนผิวขาวที่อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐาน ชาวเมารีในนิวซีแลนด์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าชาวอะบอริจิ้นในออสเตรเลียมาก แถมยังได้รับการยอมรับจากสังคมเทียบเท่าคนผิวขาว นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตามองค์กร หน่วยงาน หรือแม้กระทั่งร้านค้าทั่วไปจะเปิดทางชาวเมารีได้ทำงานเช่นเดียวกับคนผิวขาว  

 

                    ชาวเมารีเป็นชนเผ่าพื้นเมืองของประเทศนิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตเหมือนพลเมืองทั่วไป ถ้าสัญจรไปตามเมืองต่างๆ แล้วเห็นคนตัวใหญ่ ตาโต จมูกโด่ง มีรอยสักเต็มตัว บางคนอาจจะไว้ผมยาวแต่รวบตึง  

 

                    หากจะย้อนดูประวัติของชาวเมารีแล้ว บรรพบุรุษของชาวเมารีหรือชนเผ่าดั้งเดิมของนิวซีแลนด์จริงๆ มีชื่อว่า เผ่าเต อราวา (Te Arawa) ถือเป็นชาวเมืองเผ่าแรกของนิวซีแลนด์ พวกเขาเหล่านี้เองที่ได้สืบลูกหลาน และยังอาศัยอยู่จนทุกวันนี้

 

                    สายน้ำ ความร้อนใต้ผืนดิน และเมารี ทุกอย่างล้วนเป็นหนึ่งเดียวบนแผ่นดินโรโตรัว คอนเสิร์ตของลูกหลานชาวเมารีรูดม่านลง  กลิ่นกำมะถัน  ไอร้อน บ่อโคลน น้ำพุพวยพุ่ง และเสียงเพลงของชาวเมารี ล้วนเป็นมุมละไมในโรโตรัวที่ไม่เคยพร่าเลือน

 

 

 

 

 

---------------------

 

(เที่ยวนี้ขอเล่า : เยือนถิ่นเมารีที่ 'โรโตรัว' : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง [email protected] IG - kan_hongthong)