ไลฟ์สไตล์

'พ่อคูณ'...'ค้ำคูณ'

'พ่อคูณ'...'ค้ำคูณ'

06 มิ.ย. 2558

“พ่อคูณ” ... “ค้ำคูณ” : คอลัมน์ คลินิคคนรักบ้าน โดย... ดร.ภัทรพล

 
 
          ก็เป็นควันหลงครับจากการที่ “หลวงพ่อคูณ” (คูณ ปริสุทโธ) หรือ “พระเทพวิทยาคม” แห่ง “วัดบ้านไร่” อำเภอ “ด่านขุนทด” แห่งเมือง “โคราช” ได้ละสังขารจากไปตั้งแต่วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม เป็นไปตามกฎของ “ไตรลักษณ์” ที่ว่าด้วยการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแตกดับ สารภาพตามตรงว่าใจหายครับเพราะ “หลวงพ่อคูณ” ก็เป็นพระเถระอีกรูปหนึ่งซึ่งเป็น “หลักชัย” ให้ผมในการทำงานและการใช้ชีวิตมาโดยตลอด ท่านผู้อ่านอาจจะคิดไม่ถึงว่าในบางครั้ง บางโอกาสเมื่อผมออกแบบอาคารบางหลังแล้วเสร็จก็ยังได้มีโอกาสนำไปให้หลวงพ่อท่านชมและถามความคิดเห็น พอนึกย้อนหลังกลับไปในอดีต จะว่าไปแล้วผมเป็นคนที่โชคดีมากครับ ที่ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ได้มีโอกาสเข้าวัดถือ “เชี่ยนหมาก” ตามยาย ก็เลยทำให้ได้มีโอกาสสัมผัส “พระดี” ในช่วงที่ท่านเหล่านี้นั้นยังมีชีวิตอยู่ ได้ฟังธรรมะอันประเสริฐจาก “พระดี” เหล่านี้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น “หลวงปู่ชา” วัดหนองป่าพง, “หลวงปู่ดุลย์” วัดบูรพาราม, “สมเด็จญาณฯ” วัดบวรฯ ซึ่งผมก็มีบุญวาสนาได้บวชเป็น “พระนวกะ” โดยมี “สมเด็จญาณฯ” เป็นองค์อุปัชฌาย์ อีกทั้งได้มีโอกาสไปกราบ “ครูบาน้อย”, “ครูบาบุญชุ่ม” พระเถระผู้ใหญ่แห่งล้านนา รวมไปถึง “หลวงพ่อคูณ” ที่วัดบ้านไร่ ที่พึ่งได้ละสังขารไป คงไม่ผิดนะครับที่จะบอกว่า “หลวงพ่อคูณ” เป็นหนึ่งใน “เกจิอาจารย์” ที่เป็นเสาหลักที่ “ค้ำคูณ” ผมมาโดยตลอด ทำให้ผมมีทั้งสติและปัญญาสามารถยืนหยัดกัดฟันสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้ทำ “หน้าที่ทางจริยธรรม” มายาวนานนับสิบปี ก็เพราะบรรดาครูบาอาจารย์ที่เป็น “เสาหลัก” เหล่านี้แหละครับ รวมทั้ง “อรหันต์ในบ้าน” คือ “บุพการี” ก็น่าเศร้าครับ พออายุผมมากขึ้นบรรดาเสาหลักที่ “ค้ำคูณ” ผมก็ทยอยละสังขารไปตามวัฏจักรของธรรมชาติ เหลือทิ้งไว้แต่คุณงามความดี และคำสอน ที่ทำให้ “บัวใต้น้ำ” อย่างผม ได้มีโอกาสแทงยอดโผล่พ้นผิวน้ำ ถึงแม้จะพ้นผิวน้ำขึ้นมาไม่มากนักก็ตามผมก็ได้รับรู้ทั้งประโยชน์และความสุขจากการได้ทำหน้าที่พลเมืองดีที่ถูกต้อง
 
          ทุกวันนี้คำสอนของ “หลวงพ่อคูณ” ก็ยังคงอยู่ในใจผมมิรู้ลืม ถึงแม้ว่าจะไม่มีโอกาสไปกราบแทบเท้าท่านดังที่เคย ไปบีบนวดฝ่าเท้าให้ท่าน ไปประคองท่านเวลาลุกนั่ง ก็ยอมรับครับว่าลึกๆ รู้สึกเหงาๆ และดูเหมือนชีวิตผมได้ขาดอะไรไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยามท่านมีชีวิตอยู่ หากมีธุระปะปังที่ “โคราช” ก็ต้องถือโอกาสแวะไปกราบท่านเสมอ วันนี้คงไม่มีโอกาสได้กราบท่านตัวเป็นๆ อีกแล้ว เหลือไว้แต่ความทรงจำและคำสอนที่ผมยึดถือเป็นแนวทางและเป็นกรอบทางความคิดในการปฏิบัติ ซึ่งคำสอนของท่านที่ผมจำไม่ลืมเลือน เช่น
 
          ... “กูไม่มีอะไรมาก กูไม่มีอะไรจะสอนพวกมึงหรอก เพราะพวกมึงก็รู้ว่ากูพูดไม่เป็น พูดไม่เก่งเหมือนเขา เทศนาว่ากล่าวอะไรก็ไม่เป็น กูมีแต่ว่าให้ละชั่ว ทำดีกันเท่านั้นแหละ บุญบาปมีจริงลูกหลานเอ้ย ให้เชื่อว่าบุญมีจริง บาปมีจริง ให้ละชั่ว ทำดี มีศีลธรรมประจำใจ บุญเห็นกับตา บาปเห็นกับตา รักตัวกลัวภัยอย่าทำชั่ว ให้ตั้งอยู่ในเมตตา”…
 
          ...“ลูกหลานเอ๋ยการทำหน้าที่คือการปฏิบัติธรรม จงทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด อย่าได้ทุจริตต่อหน้าที่เลย”...
 
          จะว่าไปแล้ว “หลวงพ่อคูณ” ที่เป็นเสมือนหนึ่งในเสาหลักที่ “ค้ำคูณ” ผมไม่ได้ไปไหนหรอกครับ ก็ยังคงอยู่ในใจผมตลอดเวลา คิดไปคิดมาก็รู้ว่าตัวเองโชคดีจริงๆ ครับ ที่ได้มีโอกาสได้ฟังคำสอนดีๆ และได้กราบพระดีๆ ก็เลยทำให้พูดได้เต็มปากว่า “พ่อคูณ ค้ำคูณ” ผมเสมอครับ