
ไอทีรีวิว : Huawei Honor 6+
24 พ.ค. 2558
ไอทีรีวิว : Huawei Honor 6+ : โดย...ไซเบอร์แบต
ในงาน Thailand mobile expo 2015 (ทีเอ็มอี)ที่เพิ่งผ่านไปไม่นานมานี้ มีสมาร์ทโฟนเปิดตัวกันไม่กี่ค่าย ลดความคึกคักของงานนี้ลงไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของงานที่เน้นการขายโทรศัพท์มือถือพร้อมโปรโมชั่นนั้นลดลงไปมากเท่าใด เท่าที่ไปเดินดูก็รู้สึกว่ามีผู้คนเดินชมงานกันมาก แต่ตัดสินใจซื้อมือถือในงานนี้ยากขึ้นเล็กน้อยพอสังเกตได้ นั่นอาจจะเป็นเพราะตลาดสมาร์ทโฟนได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และเศรษฐกิจของแต่ละบุคคลที่ต้องผ่อนนั่นผ่อนนี่กันมากเป็นพิเศษ จนทำให้ต้อง "เลือก" ที่จะใช้เงินให้คุ้มค่ามากที่สุด
อย่างไรก็ดี ในงานทีเอ็มอี ที่ผ่านมานี้ หัวเหว่ย ก็ใช้โอกาสเป็นเวทีเปิดตัว Huawei Honor 6+ สมาร์ทโฟนระดับราคากลางๆ แต่มีจุดเด่นที่ฟังก์ชันการถ่ายภาพที่สามารถเลือกระยะชัดหลังจากการถ่ายภาพได้โดยอาศัยประสิทธิภาพของเลนส์คู่และซอฟต์แวร์ภายในตัว ที่ถือเป็นจุดขายสำคัญจุดหนึ่งของเจ้าสมาร์ทโฟนตัวนี้ และงานนี้หัวเหว่ยตั้งใจออกแบบให้ Honor 6+ มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจาก Honor 6 ที่เป็นรุ่นพี่อย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าน้องใหม่หน้าตาจะสดใส จิ้มลิ้มกว่านั่นเอง
พูดถึงสเปกทั่วไปของเจ้า Honor 6+ (ออนเนอร์ 6 พลัส) กันก่อน เจ้าตัวนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นพี่เพราะใช้จอแสดงผล TFT-LTPS ขนาด 5.5 นิ้ว (ออนเนอร์ 6 มีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว) กับความละเอียดหน้าจอระดับ Full HD ที่ 1,920x1,080 พิกเซล วัสดุที่ใช้ทำหน้าจอเป็นกระจก กันรอย Corning? Gorilla? Glass 3 ทนทานต่อการขีดข่วนได้ดี สามารถแสดงผลได้ 16.7 ล้านสี และที่สำคัญยังอออกแบบมาให้ขอบหน้าจอส่วนแสดงผลห่างจากกรอบเพียง 2.8 มิลลิเมตร ทำให้รู้สึก "เหมือน" ว่าเป็นสมาร์ทโฟนไร้ขอบ
ความ "เหมือน" ยังลุกลามไปถึงการออกแบบที่ดูจะอิงกับสมาร์ทโฟนค่ายแอปเปิ้ลแหว่ง รุ่นล่าสุด อยู่ไม่น้อย ดูผาดๆ อาจจะคิดว่าเป็นสมาร์ทโฟนของค่ายนั้น ที่มีราคาแพงกว่า 2 เท่า วัสดุที่ใช้ทำบอดี้ประกอบกันระหว่างอะลูมิเนียมที่ทำเป็นกรอบโครงสร้างให้ความแข็งแรง กับไฟเบอร์กลาส 6 ชั้นขัดลายตาราง ที่่เล่นกับแสงให้มิติเหมือนมิติของอัญมณีที่เจียระไนให้มีเหลี่ยมมุมล้อกับแสง แถมยังมีวัสดุพลาสติกใสเคลือบทับไว้อีกชั้นป้องกันเนื้อพลาสติกภายในเป็นรอย นับว่าใส่ใจในรายละเอียดด้านการตกแต่งบอดี้ได้ดี
ระบบประมวลผลใช้บริการของ ซีพียู Huawei HiSilicon Kirin 925 Octa-core ชิพเซต 4 แกนขนาดใหญ่ A15 1.8 GHz บวกกับ 4แกนขนาดเล็ก A7 1.3 GHz เพิ่มเติมด้วย Smart Micro Core อีก 1 แกน หรือที่เรียกว่า 8+1 Core (Super Core) หน่วยประมวลภาพกราฟฟิก Mali T628 MP4 หน่วยความจำ RAM ให้มามากถึง 3 กิกะไบต์ เลยทีเดียว ขณะที่หน่วยความจำ ROM ภายในตัวเครื่องอยู่ที่ 32 กิกะไบต์ แบตเตอรี่แบบลิเทียม-โพลีเมอร์ ความจุ 3,600 มิลลิแอมป์/ชั่วโมง รองรับเครือข่าย 4G (LTE FDD/LTE TD) 3G (CDMA/UMTS/TDS-CDMA) 2G (GSM) ครบทุกค่ายทุกบริการ
ฟังก์ชันเด่นของเจ้า ออนเนอร์ 6 พลัส นั่นคือกล้องเลนส์คู่และซอฟต์แวร์ที่ทำให้การถ่ายภาพสนุกสนานทีเดียว ภายในตัวมีโหมดการทำงานหลากหลาย ทั้งฟังก์ชันหน้าสวย /เอชดีอาร์/พาโนรามา/รูรับแสงกว้าง/ภาพที่ดีที่สุด/ โหมดกลางคืนขั้นสูง ให้เลือกใช้ โดยเฉพาะโหมด รูรับแสงกว้าง ตัวซอฟต์แวร์ภายในจะรับภาพจากเลนส์ทั้งสองทางด้านหลัง และมาประมวลผลโดยจำลองสภาพ "เหมือน" กับการถ่ายภาพด้วยกล้องที่ใช้เลนส์รูรับแสงกว้างมากที่สุดถถึง F 0.95 และแคบที่สุดที่ F 16
แต่การจำลองสภาพของภาพนั้น ทำขึ้นเฉพาะระยะชัดตื้น-ลึก ของภาพที่ได้จากเลนส์เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าภาพจะสว่างขึ้นตามการเปิดรูรับแสงกว้างของเลนส์สำหรับกล้องถ่ายภาพปกติ โดยเมื่อถ่ายภาพในโหมดนี้มาแล้ว ผู้ใช้สามารถเลือกโฟกัส และเลือกว่าจะจำลองความชัดตื้น (ด้วยการปรับค่า F ให้ต่ำลง) หรือ ชัดลึก (ด้วยการปรับค่า F ให้มากขึ้น) ได้ในภายหลัง
ส่วนโหมดกลางคืนขั้นสูง สามารถเลือกปรับได้ว่าจะตั้งค่า ISO เท่าไหร่ (จาก 100-1,600) พร้อมระบบกำจัดสัญญาณรบกวน (Noise) และระยะเวลาของการเปิด-ปิดชัตเตอร์ จากเร็วที่สุดที่ 1/4 วินาที ไปถึงเปิดชัตเตอร์เพื่อรับแสงค้างไว้นานถึง 32 วินาที กันเลย แต่โหมดนี้ต้องอาศัยขาตั้งมือถือเพื่อความนิ่งของภาพ
จากการใช้งานนั้นพบว่า ออนเนอร์ 6+ ทำงานได้เร็ว การกดชัตเตอร์ถ่ายภาพแทบไม่มีเวลาลังเลของตัวกล้อง (ที่เรียกว่า Lag time) การเชื่อมต่อเครือข่ายผู้ให้บริการมือถือเป็นไปได้ดี นิ่ง สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้เร็ว สมกับเป็นผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมขนาดใหญ่ชั้นนำของโลก หน้าจอและปุ่ม User Interface ต่างๆ ใช้งานง่าย ชัดเจน แถมมี Live Wallpaper ฟังก์ชันเสริมความฟรุ้งฟริ้งของหน้าจอที่แสดงภาพเคลื่อนไหวเป็นพื้นหลังให้ดูดีอีกด้วย
ส่วนข้อตินั้น อยู่ที่ความละเอียดของกล้องที่ให้มาแค่ 8 ล้านพิกเซล ดูจะน้อยหน้าคู่แข่งเจ้าอื่นไปสักนิด ซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพ ในโหมดแก้ไขยังมีอาการเอ๋อนิดๆ เมื่อต้องแต่งภาพที่มีรายละเอียดมากๆ
สำหรับราคาอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 15,990 บาท แล้วแต่จะตัดสินใจกันครับ
-----------------------
(ไอทีรีวิว : Huawei Honor 6+ : โดย...ไซเบอร์แบต)