ไลฟ์สไตล์

Dell XPS 13 อัลตร้าบุ๊คเจ้าเสน่ห์

Dell XPS 13 อัลตร้าบุ๊คเจ้าเสน่ห์

17 พ.ค. 2558

ไอทีรีวิว : Dell XPS 13 อัลตร้าบุ๊คเจ้าเสน่ห์ : โดย...ไซเบอร์แบต

 
                               ท่ามกลางกระแสแท็บเล็ตที่ทำงานได้คล้ายกับโน้ตบุ๊ก ประเภทแท็บเล็ตที่มีคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะติดมาด้วยที่กำลังรุกล้ำส่วนแบ่งของโน้ตบุ๊ก และ อัลตร้าบุ๊ก (โน้ตบุ๊กที่บางเบา เน้นพกพา และมีหน่วยประมวลผลแรงพอสมควร) เข้าไปทุกที แต่ค่ายเดลล์ ยังคงเชื่อมั่นกับการผลิตอัลตร้าบุ๊กทรงประสิทธิภาพ ที่เน้นการพกพา แถมยังมีประสิทธิภาพในการทำงานระดับสูง ในกลุ่มอัลตร้าบุ๊กรหัส "XPS" ที่ถือว่าเป็นรุ่นท็อปของโน้คบุ๊กสัญชาติอเมริกันค่ายนี้
 
                               ล่าสุด เดลล์ ส่ง XPS 13 อัลตร้าบุ๊กระดับสุดยอดออกมาสู่ตลาดประเทศไทย หลังจากที่ได้เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาไปในช่วงปีที่แล้ว และวันนี้ เดลล์ ประเทศไทย จัดส่ง XPS 13 อัลตร้าบุ๊กรุ่นท็อปที่ใช้ซีพียูทรงพลังในตระกูล i7 มาให้ผู้เขียนทดลองใช้ ซึ่งทำให้บอกได้คำเดียวว่าประทับใจกับเจ้าอัลตร้าบุ๊กตัวนี้มากทีเดียว
 
                               เดลล์ ตั้งใจออกแบบอัลตร้าบุ๊กรุ่นนี้ให้พกพาได้ง่าย จากการออกแบบตัวเครื่องให้มีความบางมาก ตัวเครื่องเป็นทรงลิ่ม ส่วนหนาที่สุดอยู่ที่ 15 มิลลิเมตร และส่วนบางที่สุดอยู่ที่ 9 มิลลิเมตรเท่านั้น ประกอบกับหน้าจอที่ออกแบบมาในพิกัด 13 นิ้ว ทำให้อัลตร้าบุ๊กตัวนี้ หยิบจับ ถือได้ง่าย คล้ายกับแท็บเล็ตขนาดใหญ่ๆ สักตัว แต่เจ้า XPS 13 เหนือกว่าแท็บเล็ตอยู่หลายขุม เพราะมันมีคีย์บอร์ดมาตรฐานแบบเรืองแสง และ ทัชแพดขนาดใหญ่ ที่ใช้เทคโนโลยี Precision Touchpad ของไมโครซอฟท์ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการกดและคลิก
 
                               ส่วนที่สำคัญของเจ้า XPS 13 คือ วัสดุที่ใช้ทำโครงสร้าง ที่แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ อะลูมิเนียมที่ใช้เป็นโครงสร้างภายนอกเพื่อผลของการระบายความร้อนและความมีหน้ามีตา (เพราะดูดี) เจ้า XPS  13 ที่ผู้เขียนได้รับมาทดสอบนั้นมีสีเทาดำ เข้มๆ ดูขรึมๆไม่น้อย และอีกส่วนคือวัสดุราคาแพงอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ ที่ปรากฏอยู่บนพื้นผิวบริเวณคีย์บอร์ด ที่โชว์ลายคาร์บอนไฟเบอร์กันอย่างเต็มที่ วัสดุประเภทนี้มีความแข็งแรงอย่างเหลือเชื่อ (แข็งแรงกว่าเหล็ก แต่เบากว่ากันหลายเท่าเมื่อเทียบในขนาดเท่าๆ กัน) 
 
                               คีย์บอร์ดของเจ้า XPS 13 เป็นปุ่มแบบที่เรียกว่า ชิคเคล็ท ที่ลอยตัวแยกออกจากกัน น้ำหนักกดของปุ่มน้อย แต่ให้ความรู้สึกหนึบ ไม่ปวดนิ้วเวลาพิมพ์งานหนักๆ แถมไฟเรืองแสงบนตัวคีย์บอร์ดยังปรับความสว่างได้ 2 ระดับตามความต้องการ
 
                               จอภาพเป็นกระจก Gorrila Glass ที่ให้ความแข็งแรง ทนทานต่อการขีดข่วน และเป็นจอแบบสัมผัสที่ทำงานคู่กับวินโดวส์ 8.1 ที่ติดตั้งประจำเครื่องจากโรงงานได้เข้ากันดี จุดเด่นประการหนึ่งของจอเจ้า XPS 13คือ การที่มีขอบบางมาก เมื่อแสดงผลแทบจะมองไม่เห็นขอบจอทำให้ดูเท่เอามากๆ ทีเดียว 
 
                               นอกจากนั้นความละเอียดของจอก็ให้มาอย่างถึงใจที่ระดับ QHD (ความละเอียดสูงสุด 3200x1800 พิกเซล) ทำให้แสดงผลภาพกราฟฟิกต่างๆ ได้ชัดเจน
 
                               ในส่วนของขุมพลังขับเคลื่อนก็ยังจัดเต็มด้วย ซีพียู Intel Core i7-5600U 2.6GHz แรม 8 GB และ ฮาร์ดดิสก์ก็ยังใช้ SSD ที่มีความเร็วสูงสุดในปัจจุบันคือแบบ M.2 ขนาด 512 GB ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 8.1 รุ่น 64 บิท พร้อมโปรแกรมเล็กๆ น้อยๆ จากเดลล์ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง แต่ไม่รบกวนพื้นที่ติดตั้งโปรแกรมและพื้นที่เก็บข้อมูลมากนัก
 
                               ด้วยสเปกขนาดนี้ ทำให้ผู้เขียนคันไม้คันมือ อยากรู้ว่าเจ้า XPS 13 ที่ใช้ซีพียูในระดับแถวบนของตารางซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊ก ที่มีชิพประมวลผลกราฟฟิกรุ่น HD5500 อยู่ในตัวกับแรมที่มากถึง 8 GB นั้นจะรองรับเกม 3 มิติได้ดีเพียงใด เลยทดลองด้วยการกระหน่ำเล่นเกม Half Life 2 ที่ความละเอียดระดับ 1600x900 พิกเซล และ ระดับ 3200x1800 พิกเซล โดยปรับค่ารายละเอียดภาพในเกมระดับสูงสุด 
 
                               ผลปรากฏว่าเจ้า XPS 13 ตอบสนองการเล่นเกมในระดับความละเอียด 1600x900 พิกเซลได้อย่างสบายๆ ภาพไม่มีกระตุกกวนใจ ระบบเสียงที่แม้ลำโพงจะอยู่ข้างใต้ตัวเครื่อง แต่ก็ให้เสียงรอบทิศทางของตัวเกมได้ดีมากทีเดียว ถ่ายทอดบรรยากาศความหลอนของเกมนี้ออกมาได้ชัดเจน 
 
                               แต่เมื่อกดดันเจ้า XPS 13 ด้วยระดับการแสดงผลที่ 3200x1800 พิกเซล ก็เกิดอาการนิดๆ พอจับสังเกตได้ เฟรมเรทที่แสดงออกมาไม่ถึงกับกระตุกแต่มีอาการดีเลย์ออกมาพอให้จับสังเกตุได้
 
                               จากการทดลองกับเกม 3 มิติ โดยใช้พลังแบตเตอรี่เท่านั้น เริ่มต้นที่ระดับแบตเตอรี่ 71% พอเล่นเกมนี้ ผ่านไป 2 ชั่วโมง 30 นาที ระดับแบตเตอรี่ก็ลดลงมาถึงระดับ 14% ก็นับว่าอึดทน ใช้ได้เลยทีเดียว เพราะถ้านำไปใช้งานทั่วไปจริงๆ ก็จะได้ระยะเวลาของแบตเตอรี่นานกว่านี้หลายเท่า แต่เมื่อใช้งานหนักๆ ช่องระบายอากาศด้านล่างของตัวเครื่องก็ร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ร้อนจนน่าเกลียดเหมือนกับโน้ตบุ๊กนเก่าๆ หลายรุ่น
 
                               เจ้า XPS 13 นอกจากจะบางแล้วยังมีพอร์ตชื่อมต่อมาให้เกือบครบ ทั้ง USB 2 พอร์ตMinidisplay 1 พอร์ท สำหรับเชื่อมกับจอมอนิเตอร์ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และสลอตสำหรับอ่านการ์ด SD อีกด้วย 
 
                               ทั้งหมดนี้บรรจุอยู่ใน XPS 13 ที่ออกจำหน่ายในราคา 6xxxx บาทไทยครับ 
 
 
 
 
 
------------------------
 
(ไอทีรีวิว : Dell XPS 13 อัลตร้าบุ๊คเจ้าเสน่ห์ : โดย...ไซเบอร์แบต)