'โคชิฮิการิ' ข้าวของพ่อ | คมชัดลึก

 

 

 

                       30 ปีก่อน ผมตามหนุ่มปทุมปลูกข้าวบาสมาติ แล้วใช้หัวรถจักรไอน้ำเก่า ผลิตไฟฟ้าเอามาสีข้าวบาสมาติส่งขายอินเดีย ข่าวนี้ออกทีวีช่อง 5 ดังไปทั้งประเทศ ต้นปีนี้มีโทรศัพท์ถึงผม “ผมชื่อเชษฐ ตันสกุล อ่านโครงการพระราชดำริลุ่มน้ำปากพนัง ในคมชัดลึกแล้วชอบมาก ในหลวงทำเพื่อชาวใต้จริงๆ ผมเป็นผู้ริเริ่มสร้างบ้านให้พ่อ พระตำหนักปากพนังจนสำเร็จครับ”

 

                       คุณเชษฐ ตันสกุล ซื้อเครื่องปลูกข้าวใช้แล้วจากญี่ปุ่น ขณะล้างพบข้าวเปลือกญี่ปุ่นติดอยู่ที่ล้อหลายเมล็ด จึงเก็บไปบ่มเพาะจนได้ต้นพันธุ์ข้าวโคชิฮิการิ คุณเชษฐนำไปทดลองปลูกที่โรงสีเอเชียไรซ์ ริมคลองพระราชดำริปากพนัง อ.หัวไทร ใช้ดินที่ในหลวงขุดขึ้นมาทำคลอง ใช้น้ำที่ในหลวงส่งให้ชาวใต้ พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช เลี้ยงต้นข้าวญี่ปุ่นจนเติบโต

 

                       ข้าวโคชิฮิการิ ปลูกได้ดีทางเกาะเหนือ หลังหิมะละลายเข้าฤดูร้อน ชาวนาญี่ปุ่นรีบปลูกทันที ข้าวเม็ดขาวสะอาด รสหวาน เหนียวนุ่ม คุณเชษฐใช้ปุ๋ยอินทรีรดต้นข้าว ทำให้พื้นที่ปลูก 6 ไร่ ใช้เวลาปลูก 80 วัน ก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 4 ตัน รอบแปลงข้าวยังปลูกกล้วยได้ผลผลิตดีด้วย ผมให้คุณกานดาร้านอีสานบ้านสวน ลงไปถ่ายรูปกับข้าวโคชิฮิการิที่กำลังออกรวงมาให้ชม

 

                       ข้าวญี่ปุ่นทั้งหมดได้รับการทดสอบจากสถานทูตญี่ปุ่นว่า เป็นข้าวปลอดสารพิษ คุณภาพดีไม่แพ้ข้าวโคชิฮิการิจากเกาะฮอกไกโด แต่ดีกว่าที่เป็นข้าวปลูกด้วยปุ๋ยอินทรี จึงปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค ข่าวนี้ดังไปถึงญี่ปุ่น ชาวนาญี่ปุ่นกลุ่มใหญ่ จึงมาดูการเพาะพันธุ์ข้าวโคชิฮิการิ ที่เอเชียไรซ์ปทุมธานี ขอข้อมูลการปลูกข้าวโคชิฮิการิปีละ 2 ครั้ง

 

                        คุณเชษฐ ตันสกุล ย้ำว่า โครงการในพระราชดำริลุ่มน้ำปากพนังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทำเพื่อปรับปรุงดินน้ำระบบนิเวศ ตั้งแต่พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ช่วยให้พื้นดินที่เคยเสื่อมโทรมกลับมาเป็นดินดี มีน้ำให้ใช้ตลอดปี ข้าวโคชิฮิการิ มีขายที่ห้างสยามพารากอน ถุง 1 กก. ราคา 199 บาท

 

 

 

 

 

บ้านแกงอ่าฉ๊ะ ซีฟู้ดสดจากทะเลหลังครัว

 

 

                       ออกจากโรงสีข้าวโคชิฮิการิ คุณกานดา ถาวรวงศ์ เจ้าของอีสานบ้านสวน เมืองนครศรีธรรมราช ขับรถพาผมไปกินข้าวเที่ยงที่ บ้านแกงอ่าฉ๊ะ ร้านอาหารมุสลิมริมทะเลอ่าวไทย มีกับข้าวให้เลือกกิน 20 กว่าอย่าง คุณอนัศรา มุสลิมี เรียนจบราชมงคลศรีวิชัย มาช่วยแม่ทำอาหารขาย ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสองทุ่ม

 

                       อ่าฉ๊ะ มุสลิมี ทำขนมหวานแกงปลาทุกชนิด ใส่หาบเดินเร่ขายทั่ว อ.หัวไทร สามีออกทะเลหลังบ้านไปหาปลา เอามาให้มะแกงขายทุกวัน พอลูกเรียนจบจึงปักหลักขายข้าวแกงในบ้าน มีลูกค้าคณะใหญ่ขับรถมาจากมาเลเซียหลายคัน จอดกินข้าวจนโต๊ะไม่พอนั่ง แต่มีท่านหนึ่งแยกโต๊ะกินต่างหาก มีถ้วยชามช้อนส้อมจัดมาเอง

 

                       ผู้ติดตามแนะนำว่า ชายหนุ่มอายุ 30 ปีเศษ คือ มกุฎราชกุมารจากมาเลเซีย โปรดอาหารบ้านอ่าฉ๊ะมาก น้องนัทตกใจที่ได้รับเกียรติจากราชวงศ์มาเลเซีย มากินข้าวแกงอย่างไม่ถือพระองค์ ทุกครั้งที่เดินทางผ่านหัวไทร จะจอดรถหน้าร้านเรียงเป็นแถว กินจนเป็นขาประจำ คุณแม่อ่าฉ๊ะภูมิใจมากที่ข้าวราดแกงชาวบ้านได้รับใช้พระราชา

 

                       ปลาอินทรีสด ขึ้นจากทะเลหลังบ้าน อ่าฉ๊ะตัดแบ่งเป็นชิ้น หมักน้ำปลาทอดให้เนื้อปลาเหลืองกรอบ ไข่ปลายังอัดแน่นเต็มพุง อ่าฉ๊ะขายชิ้นละ 40 บาท ปลากุเลาต้มน้ำปลา ปลาตัวไม่ใหญ่แต่ไข่เต็มท้อง ต้มกับน้ำปลาอย่างดี ให้เนื้อปลาดูดน้ำปลาเข้าไปเค็มนิดๆ หอมอร่อย หมึกไข่ต้มน้ำตาลโตนด เนื้อหมึกอัดแน่นด้วยไข่ น้ำตาลโตนดหัวไทรหวานกลมกล่อม

 

                       แกงคั่วกะทิไก่บ้านกับหัวตาลโตนด มีให้กินเฉพาะที่หัวไทร ดินแดนที่อุดมไปด้วยต้นตาลกว่า 1,000 ปี ปูทะเลผัดผงกะหรี่ อ่าฉ๊ะใช้ปูเนื้อผัดผงกะหรี่ตรามือ เคล้ากับน้ำตาลโตนดให้หอมหวาน แกงคั่วหอยแครงใบชะพลู ทะเลหัวไทรเต็มไปด้วยหอยแครง ให้กินถึงลูกหลานอีก 100 ปี อ่าฉ๊ะเอามาแกงคั่วกินกับใบชะพลูสด

 

                       ข้าวหมกไก่บ้านโบราณ หอมเครื่องเทศหมกกับข้าวหอมมะลินุ่มอร่อย ซุปหางวัว อ่าฉ๊ะใช้หางวัวพื้นบ้าน ต้มเคี่ยวจนหางวัวเปื่อยนุ่ม ซดร้อนๆ แซบถึงหัวใจ ชาวประมงหัวไทรใช้ไข่เป็ด เอาไข่ขาวไปหมักเชือกอวนให้เหนียว แล้วหมักไข่แดงกับน้ำเกลือ ใส่กลับไปในเปลือกตากแดดให้หมดคาวนึ่งทำ ไข่ครอบ กล้วยนางพญาเชื่อม กล้วยน้ำว้าลูกใหญ่เหลืองหวาน ไม่มีเม็ด

 

                       อ่าฉ๊ะเล่าว่า วันนี้ปลาหม้อแตก ปลาโคบ ปลาบุหลันหน้านวล กั้งใหญ่ ปลาอินทรี ปลาฉลาม กุ้งกุลาดำ มีให้จับกินไม่หมด คนไทยโชคดีที่มีในหลวง พลิกดิน ปรับน้ำ ให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง 

 

 

 

 

 

--------------------------

 

(ตำนานแผ่นดิน : 'โคชิฮิการิ' ข้าวของพ่อ : โดย ... อ.ไชยแสง กิระชัยวนิช)