ท่องศูนย์เรียนรู้ปาล์มน้ำมัน 'ซีพีไอ' | คมชัดลึก

 

                          หลังประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาปรับปรุงพันธุ์จนได้ปาล์มสายพันธุ์ใหม่มีชื่อว่า "ซีพีไอ ไฮบริด" สำหรับบริษัท ซีพีไอ อะโกรเทค จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายพันธุ์ปาล์มน้ำมันครบวงจร โดยมีคุณสมบัติเด่นเป็นปาล์ม "ทนแล้ง" สามารถเจริญเติบโตได้ดีและให้ผลผลิตที่ดกในพื้นที่แม้จะมีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปกติทั่วไปเฉลี่ย 1,500 มิลลิเมตรต่อปี 

 

                          "ท่องโลกเกษตร" อาทิตย์นี้ล่องใต้สู่เมืองชุมพรไปดูแหล่งปลูกปาล์มพันธุ์ดีของซีพีไอ อะโกรเทค นำโดยบอสใหญ่ "โกศล นันทิลีพงศ์" และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงพันธุ์พืช "ศ.ดร.กฤษฎา สัมพันธารักษ์" ในฐานะหัวหน้าทีมวิจัยปาล์มสายพันธุ์ดังกล่าว พร้อมเจ้าหน้าที่ของบริษัทกว่า 10 ชีวิต หลังอุ่นเครื่องด้วยกาแฟยามเช้า ณ ที่ทำการของบริษัท ริมถนนเพชรเกษม บริเวณสี่แยกท่าแซะ จากนั้นทั้งหมดก็มุ่งหน้าสู่ศูนย์การเรียนรู้ปาล์มน้ำมันซีพีไอ ตั้งอยู่ใจกลางอาณาจักรสวนปาล์มน้ำมันนับหมื่นไร่ใน ต.ไชยราช อ.ปะทิว เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมของศูนย์เรียนรู้และแปลงปลูกปาล์มน้ำมันสายพันธุ์ดังกล่าว

 

                          "เราทำงานวิชาการร่วมกับศูนย์ไบโอเทค ม.เกษตรกำแพงแสนมา 25 ปีแล้ว โดยมี อ.กฤษฎา (สัมพันธารักษ์) เข้ามาช่วยวางแผนให้เป็นระบบและร่วมวิจัยพันธุ์ปาล์มจนได้สายพันธุ์ใหม่ชื่อว่าซีพีไอ ไฮบริด เมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากนั้นเราตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับแบบครบวงจร" โกศลเผยที่มาของปาล์มพันธุ์ใหม่ระหว่างนำเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ตามจุดต่างๆ อาทิ ฐานรวบรวมพันธุ์ปาล์มจากทั่วโลกกว่า 50 สายพันธุ์ ฐานดินและปุ๋ย ฐานวัดสภาพอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ ฐานแปลงทดลองพันธุ์ ฐานเลี้ยงนกแสกกำจัดหนูในสวนปาล์ม ฯลฯ

 

                          สำหรับปาล์มสายพันธุ์นี้มีจุดเด่นเป็นสายพันธุ์ที่ทนแล้งได้ดี ซึ่งบริษัทได้นำมาทดลองปลูกในแปลงปลูกใหม่บนเนื้อที่กว่า 2 หมื่นไร่เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าให้ผลผลิตดีมากเฉลี่ย 4-5 ตันต่อไร่ ขณะเดียวกันก็ไม่มีปัญหาในช่วงหน้าแล้งยังสามารถให้ผลผลิตได้ตามปกติ ซึ่งต่างจากพันธุ์ปาล์มโดยทั่วไปที่ไม่ให้ผลผลิต เนื่องจากต้องใช้น้ำที่มีอยู่จำกัดไปเลี้ยงลำต้นแทน จากความสำเร็จดังกล่าวจึงเป็นที่สนใจของเกษตรกรเป็นอย่างมากในการเข้ามาเพื่อศึกษาเรียนรู้ดูงานกระบวนการผลิตปาล์มน้ำมัน จนกระทั่งปีที่แล้ว บริษัทจึงได้สร้างศูนย์การเรียนรู้ปาล์มน้ำมันขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมสำหรับเกษตรกรที่สนใจภายใต้ชื่อ "ศูนย์การเรียนรู้ปาล์มน้ำมันซีพีไอ" ปัจจุบันปาล์มสายพันธุ์นี้ได้กระจายไปสู่แปลงของเกษตรกรในทุกภูมิภาคของประเทศไม่ต่ำกว่า 5 แสนต้นและในอนาคตเตรียมขยายพื้นที่ปลูกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย

 

                          ศ.ดร.กฤษฎา สัมพันธารักษ์ กล่าวถึงจุดเด่นของปาล์มพันธุ์นี้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ทนแล้งได้ดี โตเร็ว ลูกดก ให้ผลผลิตดีเริ่มให้ผลผลิตได้ในปีที่ 3 และมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ เฉลี่ย 29-30 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญเป็นพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ในประเทศไทยที่มีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างน้อยเฉลี่ย 1,500 มิลลิเมตรต่อปี โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ชุมพร และใกล้เคียง นอกจากนี้ยังไม่มีปัญหาในเรื่องโรคและแมลงศัตรูปาล์มน้ำมัน 

 

                          "ที่ว่าทนแล้งก็คือช่วงหน้าแล้งก็ยังให้ผลผลิต ปกติปาล์มโดยทั่วไปถ้าช่วงหน้าแล้งหรือช่วงที่มีปริมาณน้ำฝนน้อยจะไม่มีผลผลิตหรือถ้ามีก็เป็นช่อตัวผู้ ไม่ใช่ตัวเมีย เพราะน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดจะใช้ไปเลี้ยงลำต้นแทน แต่ปาล์มพันธุ์ไม่ว่าหน้าไหนก็ให้ผลผลิตคือให้ผลผลิตตลอดทั้งปีว่างั้นเถอะ" หัวหน้าทีมวิจัยเผยคุณสมบัติเด่น พร้อมย้ำว่ากว่าจะได้ปาล์มพันธุ์นี้ต้องใช้เวลาทดสอบสายพันธุ์นานถึง 10 ปี ใช้งบไปไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน"  

 

                          หลังได้รับฟังข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานและเยี่่ยมชมกระบวนการผลิตกล้าพันธุ์ปาล์มของบริษัทภายในศูนย์ จากนั้นทั้งหมดก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปคือแปลงปาล์มของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จที่ผ่านการอบรมจากศูนย์และเข้าร่วมโครงการยกระดับผลผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืนของบริษัท โดยมี ดร.กวิน ปุญโญกุล จากศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตร วิทยาเขตกำแพงแสน เป็นหัวหน้าโครงการ  

 

                          จากนั้นเดินทางต่อไปยังโรงเรียนทุ่งเรี้ย ต.ดอนยาง อ.ปะทิว เพื่อไปความก้าวหน้าโครงการปลูกปาล์มของโรงเรียนบนเนื้อที่ 5 ไร่ ที่บริษัท ซีพีไอ ให้การสนับสนุนกล้าพันธุ์และค่าใช้จ่ายในการดูแลแก่โรงเรียน ตามโครงการช่วยเหลืออาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียน ซึ่งขณะนี้ต้นปาล์มอายุเกือบ 2 ปีแล้ว คาดว่าอีก 1 ปีคงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ อ.สาโรจน์ อินทร์สังข์ รักษาการผอ.โรงเรียนทุ่งเรี้ย กล่าวขอบคุณซีพีไอที่ได้สนับสนุนโครงการดีๆ แก่โรงเรียน ซึ่งได้มอบหมายให้นักเรียนเป็นผู้ดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ย โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทมาคอยแนะนำให้ความรู้แก่นักเรียนอยู่เป็นประจำ

 

                          "ขอบคุณซีพีไอที่มีโครงการดีๆ แบบนี้ อีกไม่นานปาล์มก็จะให้ผลผลิต โรงเรียนก็จะมีรายได้จากส่วนนี้มาเป็นค่าใช้จ่ายโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน แล้วเด็กๆ ก็ยังได้เรียนรู้ ได้รู้จักวิธีการดูแลต้นปาล์มอย่างถูกวิธีด้วย เพราะครอบครัวของเด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำสวนปาล์มอยู่แล้ว" อ.สาโรจน์ กล่าวขอบคุณ 

 

                          ก่อนเดินทางต่อไปยังสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดชุมพรเพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มใน จ.ชุมพร จากผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส.ชุมพร "สิทธิวัชช์ เวชสิทธิ์" ซึ่งเขายอมรับว่าเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันถือเป็นลูกค้าชั้นดีเมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ โดยลูกค้าที่อยู่ในความดูแลของธ.ก.ส.จำนวนทั้งสิ้น 44,645 ครัวเรือน มีพื้นที่ปลูกกว่า 8 แสนไร่ รวมเม็ดเงินปล่อยสินเชื่อให้แก่เกษตรกรกลุ่มนี้อยู่ที่ 8 พันกว่าล้าน

 

 

 

 

-------------------

 

(ท่องโลกเกษตร : ท่องศูนย์เรียนรู้ปาล์มน้ำมัน 'ซีพีไอ' ดูวิธีการผลิต 'กล้าพันธุ์' ครบวงจร : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)