
ต่อยอดงานวิจัย 'ขนมแห้ง-น้ำยาผง'
06 มี.ค. 2558
ทำมาหากิน : ต่อยอดงานวิจัย 'ขนมแห้ง-น้ำยาผง' นวัตกรรมเด่นผลงาน ม.เกษตรศาสตร์
จากความสำเร็จในวิจัยคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ของการผลิตขนมจีนแห้งที่มีสารกาบาสูงและน้ำยาผง ที่นำภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทำขนมจีนและน้ำยาแบบดั้งเดิม ผสมผสานกับวิทยาการสมัยใหม่ ในการออกแบบกระบวนการผลิตใหม่ ของ ดร.สิริชัย ส่งเสริมพงษ์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ล่าสุด ภาคเอกชนให้ความสนใจนำผลงานวิจัยไปต่อยอดเพื่อนำไปผลิตผลิตภัณฑ์และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นภายใต้ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับเทคโนโลยีใหม่ในการผลิตขนมจีนแห้งที่มีสารกาบาสูงและน้ำยาผง ของ ดร.สิริชัย นั้น ออกแบบเครื่องจักรให้เหมาะสมกับปัจจุบันและพัฒนารูปแบบสินค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย ตรงความต้องการของผู้บริโภคในประเทศต่างๆ ซึ่งผลงานขนมจีนแห้งและน้ำยาปลาแซลมอนผงคืนรูปเร็ว ซึ่งหนึ่งในนวัตกรรมของ ดร.สิริชัยได้รับรางวัลเหรียญเงิน ผลงานสิ่งประดิษฐ์ดีเด่นระดับนานาชาติ จากสาธารณรัฐเกาหลี “Seoul International Invention Fair (SIIF) 2014” และได้รับรางวัลพิเศษ จากประเทศสาธารณรัฐจีน ควบคู่อีก 1 รางวัล เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม 2557 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีด้วย
ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาราชการแทนรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า ผลงานวิจัย เรื่อง “กรรมวิธีการหมักแป้งขนมจีนที่มีปริมาณสารกาบาสูง” เป็นกรรมวิธีการผลิตเส้นขนมจีนแห้งกึ่งสำเร็จรูปคืนรูปเร็วและ กรรมวิธีการผลิตน้ำยาขนมจีนผงกึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นผลงานวิจัยของ ดร.สิริชัย ได้ยื่นคำขอรับอนุสิทธิบัตรต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้ว เป็นผลงานวิจัยจัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีโอกาสทางการตลาดสูงมาก ทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีผลิตภัณฑ์ขนมจีนกึ่งสำเร็จรูปชนิดบรรจุในภาชนะถ้วยพลาสติกทนความร้อน พร้อมน้ำยาอบแห้งที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติไม่มีการแต่งกลิ่นหรือสีสังเคราะห์ และไม่มีส่วนผสมของสารกันบูด ที่สำคัญสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 1 ปี เมื่อต้องการรับประทานชงด้วยน้ำเดือดและปิดฝาภาชนะทิ้งไว้นาน 3 นาที จะได้ขนมจีนน้ำยามารับประทานแล้ว
ด้าน ดร.สิริชัย บอกว่า งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับทุนจากสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เริ่มพัฒนากระบวนการผลิตใหม่เมื่อปี พ.ศ.2543 ใช้เวลาวิจัยนาน 1 ปี จนปี พ.ศ.2554 สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติได้ให้ทุนวิจัยเพื่อพัฒนาขนมจีนแห้งให้คืนรูปเร็วแบบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ต่อมาในปี 2556 สามารถทำให้คืนรูปเร็วแบบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในในถ้วยโดยใช้น้ำร้อน 90 องศาเซลเซียส ในเวลา 3 นาทีเท่านั้น
นอกจากได้พัฒนาวิธีการหมักขนมจีนให้ได้สารกาบาสูงแล้วยังได้พัฒนาเส้นขนมจีนให้มีความหลากหลายได้อีก 11 ชนิดโดยเติมสารสกัดจากดอกอัญชันให้มีสีม่วง จากฟักทองให้มีสีเหลือง จากใบเตยให้มีสีเขียว จากแครอทให้มีสีส้ม จากฟักข้าวให้มีสีแดง จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้มีสีม่วงแดง จากสาหร่ายให้มีสีเขียวเข้ม จากหมึกของปลาหมึกให้มีสีดำ จากข้าวกล้องและข้าวกล้องเริ่มงอกให้มีสีน้ำตาล และจากข้าวสังข์หยดให้มีสีแดง ซึ่งเป็นการเพิ่มสารแอนติออกซิแดนท์ในขนมจีนเพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค
สำหรับน้ำยาสามารถทำได้ 9 ชนิดได้แก่ น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำพริก น้ำยาปักษ์ใต้ น้ำเงี้ยว น้ำยาแกงไตปลา แกงเขียวหวาน น้ำยามังสวิรัติ น้ำยาปลาแซลมอนมีเนื้อปลาแซลมอนที่มีสารโอเมกา 3 สูงและมีพืชสมุนไพรและเครื่องเทศที่มีสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถเก็บได้นาน 1 ปี
ล่าสุด ภาคเอกชนให้ความสนใจนำผลงานวิจัยดังกล่าวไปต่อยอดการผลิตผลิตภัณฑ์และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นภายใต้ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ตกลงให้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจพีเอ็น วอน เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัย “กรรมวิธีการหมักแป้งขนมจีนที่มีปริมาณสารกาบาสูง” “กรรมวิธีการผลิตเส้นขนมจีนแห้งกึ่งสำเร็จรูปคืนรูปเร็ว” และ “กรรมวิธีการผลิตน้ำยาขนมจีนผงกึ่งสำเร็จรูป” ซึ่งได้มีพิธีลงนามข้อตกลงอนุญาตให้สิทธิใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยร่วมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา