
จอดรถเต็มซอยทั้ง 2 ฝั่ง
03 มี.ค. 2558
เปิดซองส่องไทย : จอดรถเต็มซอยทั้ง 2 ฝั่ง
ทางหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก" หน้าลุงแจ่ม เคยตีพิมพ์เรื่องร้องเรียนถนนพระราม 9 ซอย 51 ที่มีเจ้าของรถนำรถยนต์ของตนเองมาจอดสองฝั่งถนนตลอดซอย ทั้งๆ ที่ซอยนี้มีถนนเพียงแค่ 2 เลนเท่านั้น มีลักษณะถนนเป็นถนน 2 เลนสวนกัน เมื่อมีผู้นำรถยนต์มาจอด 2 ข้างทาง ทำให้เหลือถนนสำหรับรถยนต์ผ่านได้แค่ตรงกลาง
ผู้ใช้รถผ่านไปมาในซอยนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ขับรถสวนกันลำบาก ลุงแจ่มเคยตีพิมพ์เรื่องร้องเรียนนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว มีการเสนอให้ติดตั้งป้ายห้ามจอดวันคี่-วันคู่ ดิฉันเห็นว่าเป็นข้อเสนอที่ดี รถจอดเป็นระเบียบ และการจอดฝั่งใดฝั่งหนึ่งทำให้ถนนกว้างมากพอสำหรับรถสวนกันได้โดยไม่สร้างปัญหา การสัญจรจะสะดวกมากขึ้น ครั้งนั้นผู้รับผิดชอบรับปากว่าจะพิจารณาและเสนอตามขั้นตอนเพื่อแก้ไขปัญหา ชาวบ้านดีใจและรอการแก้ปัญหา แต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่มีป้ายห้ามจอดหรือป้ายเตือนจากเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านต้องระวังการขับรถสวนกันเหมือนเดิม
ครั้งนี้ขอร้องลุงแจ่มช่วยทวงถามความคืบหน้าให้ด้วย อยากรู้ว่าติดขัดหรือติดปัญหาตรงไหนถึงยังไม่แก้ปัญหาให้ชาวบ้าน หน่วยงานที่รับผิดชอบจะแก้ปัญหาให้เมื่อไหร่
จินดา
ตอบ
พ.ต.ต.กฤษดา สยังกูล สว.จร.สน.หัวหมาก ชี้แจงว่า ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณที่มีการร้องเรียนแล้ว พระราม 9 ซอย 51 เป็นซอยที่สามารถทะลุไปออก ถ.รามคำแหงได้ ทำให้มีรถสัญจรเข้าออกซอยจำนวนมาก ขณะเข้าตรวจสอบได้สอบถามเจ้าของรถและประชาชนที่อาศัยในละแวกดังกล่าว ได้ข้อมูลว่ารถที่จอดสองฝั่งถนน ส่วนใหญ่เป็นรถของผู้ที่พักอาศัยในซอย ที่ไม่สามารถนำรถไปจอดหน้าบ้านตัวเองได้เพราะเป็นซอยเล็ก หากจอดจะทำให้กีดขวางหน้าบ้านคนอื่น จึงต้องนำรถมาจอดบริเวณถนนหลัก ซึ่งเจ้าของรถสามารถนำรถมาจอดได้ เนื่องจากไม่มีข้อบังคับจราจรห้ามจอด ตำรวจจึงไม่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายกับรถที่จอดบริเวณนี้ เพราะยังไม่มีการกำหนดข้อห้ามตามกฎหมาย แต่เจ้าของรถจะต้องจอดรถในลักษณะที่ไม่กีดขวางทางเดินรถ
จากการตรวจสอบในซอยนี้ รถยังสัญจรผ่านเข้าออกได้ค่อนข้างสะดวก อาจมีหยุดชะงักหรือต้องหยุดรอจังหวะบ้างหากมีรถสวนทางมา ขณะนี้จึงเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือกับเจ้าของรถต่างๆ ให้จอดรถชิดขอบทางให้มากที่สุด ห้ามจอดกีดขวางทางเดินรถและจอดรถซ้อนคัน ส่วนการกำหนดข้อบังคับจราจรห้ามจอดวันคู่-วันคี่ นั้น ต้องศึกษาความเป็นไปได้และความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้จะนำข้อร้องเรียนนี้นำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างเหมาะสมอีกครั้ง
สามี(ตัวดี)มีลูกกับหญิงอื่น
ดิฉันมีเรื่องอยากทราบค่ะ คือสามีกำลังมีภรรยาใหม่ แล้วดิฉันไม่ทราบเรื่องมาก่อนเลย เพิ่งทราบ ซึ่งขณะนี้ปรากฏว่า สามีมีลูกกับภรรยาใหม่แล้ว ส่วนกับดิฉันซึ่งแต่งงานกันมาแล้ว 15 ปี มีทะเบียนสมรสกัน แต่เราไม่มีลูกด้วยกัน
อยากทราบว่า กรณีนี้ลูกจะมีสิทธิในทรัพย์สินของสามีหรือเปล่าคะ เพราะสามีรับราชการ มีสวัสดิการที่เป็นข้าราชการ เด็กคนนั้น แล้วก็ภรรยาน้อย จะมีสิทธิในสวัสดิการของสามีหรือเปล่า แล้วถ้าดิฉันต้องการจะหย่าจากสามี ทรัพย์สินที่มีอยู่จะแบ่งกันอย่างไร เพราะขณะนี้มีบ้าน แล้วก็รถ ซึ่งเป็นชื่อของดิฉันทั้งหมด แต่เป็นสิ่งที่เราหาได้มาหลังจากสมรสกันแล้ว
นิดา
ตอบ
ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ปราชญา อ่อนนาค คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำว่า ในเรื่องของสิทธิของลูกนั้น คงต้องดูที่ว่า สามีของคุณได้มีการจดทะเบียนรับรองเด็กเป็นลูกหรือเปล่า ถ้ามีการจดทะเบียนรับรองบุตร ก็เท่ากับว่า ลูกที่เกิดจากภรรยาใหม่ มีสิทธิในความเป็นลูกของสามีของคุณอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น กฎหมายจึงรองรับ ทำให้เด็กที่เกิดมามีสิทธิในทรัพย์สินส่วนที่เป็นของสามีคุณ แต่ถ้าไม่ได้มีการจดทะเบียนรับรองบุตร กฎหมายก็ไม่รองรับ เด็กก็ไม่มีสิทธิ
ส่วนเรื่องที่ต้องการจะหย่านั้น ถ้าสามีไม่ยอมหย่า คุณก็มีสิทธิที่จะฟ้องหย่าได้เลย เพราะสามีไปยกย่องผู้หญิงอื่นเป็นภรรยา ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อคุณ ซึ่งคุณอ้างเหตุของการมีชู้ เพื่อใช้เป็นเหตุของการฟ้องหย่าได้ และสำหรับเรื่องทรัพย์สินนั้น ในทางกฎหมายแล้ว ถ้าทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่มีมาก่อนแต่งงาน ทรัพย์สินในส่วนนี้ไม่ถือเป็นสินสมรส จึงไม่ต้องแบ่งกัน แต่ถ้าเป็นทรัพย์สินที่ได้หลังจากการแต่งงานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชื่อของใครก็ตาม กรณีนี้ถือว่า เป็นสินสมรส จะต้องแบ่งกันคนละครึ่ง
ทางที่ดีควรลองเจรจากับสามีก่อนว่า ทรัพย์สินจะแบ่งกันอย่างไร แล้วเขียนบันทึกตกลงกันไว้ท้ายหย่า แต่ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องฟ้องหย่า