ไลฟ์สไตล์

Nikon D750 ฟูลเฟรมตัวเล็กใจใหญ่

Nikon D750 ฟูลเฟรมตัวเล็กใจใหญ่

22 ก.พ. 2558

ไอทีรีวิว : Nikon D750 ฟูลเฟรมตัวเล็กใจใหญ่

 
                            โลกของกล้องทุกวันนี้ แม้จะถูกเบียดส่วนแบ่งไปบ้างด้วยกล้องบนโทรศัพท์มือถือ แต่กล้องระดับมืออาชีพในกลุ่ม DSLR ก็ยังมีการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ เพื่อหนีกล้องกลุ่ม Mirrorless ที่กำลังมาแรงในตลาดระดับกลาง-สูง เป็นเหตุให้ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทกล้อง DSLR คุณภาพสูงรุ่นใหม่ๆอยู่เรื่อย
 
                            Nikon D 750 ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้อง DSLR กึ่งมืออาชีพที่ทางนิคอนผลิตออกมาตอบสนองความต้องการของมือสมัครเล่นที่ต้องการก้าวขึ้นไปสู่ความเป็นมืออาชีพอีกระดับ ด้วยเทคโนโลยีที่อัดแน่นในตัวกล้องขนาดเล็กที่สุดในกลุ่ม DSLR ระดับฟูลเฟรม (ของนิคอน) และเข้ามาแทรกกลางระหว่าง D610 กับ D810 เป็นทางเลือกใหม่ 
 
                            ผมได้รับ Nikon D 750 มาพร้อมกับเลนส์ในฝันของตากล้องสายนิคอน นั่นคือ Nikkor 24-70 F 2.8 N มาทดลองใช้พักหนึ่ง ทำให้ผมได้สัมผัสกับคู่ขวัญที่ลงตัวกันอย่างกลมกลืนระหว่างกล้องระดับฟูลเฟรม ความละเอียด 24.3 ล้านพิกเซล กับเลนส์ช่วงนอร์มอล-เทเลโฟโต้ ชั้นเลิศ ทำให้ผมมีช่วงเวลาที่สนุกกับการถ่ายภาพมากที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต
 
                            ตัวกล้องออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก แต่แปลกที่การจับถือเป็นไปได้อย่างดี กริปด้านหน้าไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป คนมือ (และตัว) ใหญ่ อย่างผมจับถือได้ไม่ขัดเขิน ไม่กลัวหลุด น้ำหนักกล้องที่เบาทำให้หยิบขึ้นมาถ่ายได้ง่าย แต่ด้วยความที่เลนส์ค่อนข้างหนัก บางทีการจับโฟกัสก็เกิดปัญหา เนื่องจากขาดความสมดุลระหว่างกล้องกับเลนส์ ตรงนี้น่าจะแก้ไขได้ด้วยการเพิ่มกริปแบตเตอรี่สำรองเข้ามาถ่วง
 
                            เซ็นเซอร์ภาพ CMOS ของนิคอนชุดนี้ ทำออกมาได้ดีอย่างน่าประทับใจ คอนทราสท์สีในภาพจัดมาได้เต็มๆ แต่เลนส์ตัวนี้จะให้โทนสีนุ่มกว่าเลนส์ตัวอื่นของนิคอน อย่าง 58 mm. F 1.4 ที่ให้สีจัดจ้าน จี๊ดจ๊าดกว่า ทำให้ผมตัดสินใจเน้นไปที่การถ่ายภาพพอร์ตเทรต (Portrait) เพื่อจับผิดการให้สีผิวของกล้องตัวนี้เป็นหลัก 
 
                            โทนสีที่ได้ปรากฏว่าสีผิวออกมาค่อนข้างจัดกว่าตัวแบบจริงเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นสไตล์ของนิคอนที่จะเน้นความจัดจ้านของสี มากกว่าคู่แข่ง ทำให้ภาพดูเหนือจริงไปนิดๆ ซึ่งตรงจุดนี้ผมชอบมากกว่าภาพที่ได้จาก Nikon D600 ที่เคยทดสอบมาก่อนหน้านี้ 
 
                            จุดที่น่าประทับใจในตัว D750 คือ การจัดการสัญญาณรบกวน (Noise) ในภาพ จากกล้องที่มีช่วงความไวแสง (ISO) ตั้งแต่ 50 (ในโหมด Lo1) จนถึง 51200 (ในโหมด Hi2) ทำให้การถ่ายภาพในช่วง ISO ที่ 6400 แทบจะไม่ปรากฏน้อยส์ในภาพ แถมยังให้สีสันและรายละเอียดของผิวตัวแบบที่ค่อนข้างคล้ำ แสดงออกมาได้อย่างชัดเจนน่าประทับใจ เรียกว่า งานนี้ซอฟต์แวร์ในตัวกล้องทำออกมาดีมาก ผนวกกับชิพประมวลผลภาพ Expeed 4 ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ภาพที่ออกมามีคุณภาพดี
 
                            การใส่ระบบออโต้โฟกัส (AF) 51 จุด ทำงานด้วยความเร็วสูงและแม่นยำแม้โฟกัสในที่ที่มีแสงน้อย (ได้ถึง -3EV) ทำให้สามารถถ่ายภาพด้วยระบบออโต้โฟกัสในที่มืด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะหาโฟกัสด้วยตาเปล่า นอกจากนี้ โหมดออโตโฟกัสแบบ Group-area ยังสามารถตรวจจับวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้ด้วยความแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ จึงมั่นใจได้ว่าจะได้ภาพที่คมชัดและโฟกัสตรงจุดที่ต้องการ ประกอบกับจอแอลซีดีด้านหลังแบบปรับเอียงได้ ช่วยให้การถ่ายภาพได้ในมุมที่ต้องการ
 
                            ที่ชอบอีกจุดหนึ่งคือ การติดตั้งระบบไว-ไฟ ภายในตัวกล้องทำให้ตากล้องใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เป็นรีโมทในการถ่ายภาพ และดึงภาพเข้ามายังอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ในทันที แต่ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นของนิคอนมาติดตั้งก่อน ซึ่งจุดนี้ส่วนตัวแล้วอยากให้เพิ่มการควบคุมจุดโฟกัสและฟังก์ชันการปรับแต่งเข้าไปในแอพพลิเคชั่นด้วย น่าจะทำให้ตากล้องได้ภาพที่ตรงใจและสะดวกขึ้น
 
                            ในราคาราว 5xxxx บาท เฉพาะบอดี้ ก็นับเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง แต่หากมีงบประมาณถึง D750 ก็ตอบโจทย์ความต้องการของนักถ่ายภาพที่จริงจังได้ดีทีเดียว