ปรับกลยุทธ์รับ 'คนรุ่นใหม่' ทิศทางตลาด 'จินดาสมุนไพร' | คมชัดลึก

 

                                กระแสการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558 มีผลต่อการปรับตัวของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี อย่างมาก เมื่อต่างสนใจว่า จะมีผลกระทบต่อธุรกิจของตนเองหรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะสินค้าในหมวดสมุนไพร ที่ปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูง ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต่างเร่งปรับตัวมองทิศทางตลาดในภูมิภาคอาเซียนเพื่อขยายฐานให้มากขึ้น  

 

                                เช่นเดียวกับผู้ประกอบการด้านสมุนไพรที่เกี่ยวกับเส้นผม อย่างแบรนด์ "จินดาสมุนไพร" ที่ได้ปรับทิศทางการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ เพื่อรองรับตลาดให้ครอบคลุมกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น หลังปี 2557 ที่ผ่านมา ได้นำร่องผลิตภัณฑ์สู่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย จนได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ

 

                                นายไชยกร นิธิคณาวุฒิ ประธานกรรมการบริษัท จินดาสมุนไพร จำกัด กล่าวว่า การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558 นั้น บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะเปิดตลาดประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น โดยได้ปรับกลยุทธ์การตลาดให้เป็นสากลเพื่อสนองตอบความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะเน้นผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ คัดสรรวัตถุดิบใบหมี่พืชสมุนไพรเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ที่ปลูกแบบอินทรีย์ ปลอดสารเคมี 

 

                                "เราเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวในโลกที่นำพืชชนิดนี้มาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผม ทั้งแชมพู ครีมนวด เซรั่มบำรุงผม ซึ่งสินค้าเหล่านี้ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ที่สำคัญสินค้าทั้งหมดผ่านการวิจัยจากศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.เชียงใหม่ ผ่านกระบวนการการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน GMP เพื่อการส่งออก อีกทั้งได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และตราสัญลักษณ์ฮาลาลด้วย" นายไชยกร แจง 

 

                                พร้อมระบุว่า เนื่องจากกระแสตลาดโลกหันมานิยมใช้สินค้าสมุนไพรไทยเพิ่มขึ้น บริษัทจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าปีละ 1-2 รายการ รวมทั้งได้ขยายไลน์ธุรกิจในลักษณะ OEM (Origianl Equipment Manufacturer) รับจ้างผลิตสินค้าให้แก่แบรนด์ต่างๆ ตามแบบที่ลูกค้าต้องการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้ทำในประเทศลาว ใช้ชื่อทางการค้าภายใต้แบรนด์ ดอกบัวคำ บาย จินดา ซึ่งผลตอบรับจากกลุ่มผู้ใช้นั้นดีเกินคาด 

 

                                "เราได้พยายามคิดค้น สร้างสรรค์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับผู้คนในแต่ละประเทศบนพื้นฐานความเหมือนที่แตกต่าง และขณะนี้ก็เปิดโอกาสให้ผู้ที่มองหาอาชีพทั้งชาวไทยชาวต่างชาติที่อยากมีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเองได้เข้ามาเป็นคู่ค้าด้วย เพื่อมาร่วมกันพัฒนาสินค้าสมุนไพรใบหมี่ให้เป็นที่นิยมมากขึ้นในตลาดเส้นผมโลก"

 

                                นายไชยกร กล่าวถึงแนวโน้มกลุ่มลูกค้าแบรนด์จินดาสมุนไพร ว่า ปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชายและหญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ล่าสุดจากที่ได้สำรวจตลาดเพิ่มเติมพบว่า ขณะนี้กลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนเริ่มต้นทำงาน อายุเฉลี่ย 20 ปีขึ้นไป หันมาสนใจผลิตภัณฑ์มากขึ้นเกือบ 20% ดังนั้นบริษัทจึงวางเป้าหมายมุ่งพัฒนารูปลักษณ์สินค้าให้ทันสมัย เหมาะแก่การหยิบจับและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ให้มากยิ่งขึ้น 

 

                                ส่วนแนวโน้มการขยายตลาดต่างประเทศอื่นๆ นายไชยกร ยอมรับว่า ได้พัฒนาคุณภาพสินค้าสู่มาตรฐานฮาลาล (HALAL) ตามข้อกำหนดของสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมาตรฐานตามหลักศาสนาอิสลาม มุ่งรองรับตลาดมุสลิมทั่วโลกอันเป็นอีกช่องทางการตลาดของแบรนด์จินดาสมุนไพรในอนาคต

 

 

 

 

 

------------------------

 

(ทำมาหากิน : ปรับกลยุทธ์รับ 'คนรุ่นใหม่' ทิศทางตลาด 'จินดาสมุนไพร' : โดย...ธานี กุลแพทย์)