ไลฟ์สไตล์

โขนเด็กร.ร.วัดหนองเครือบุญสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย

โขนเด็กร.ร.วัดหนองเครือบุญสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย

28 ม.ค. 2558

โขนเด็กร.ร.วัดหนองเครือบุญสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย : หทัยรัตน์ ดีประเสริฐรายงาน

                "ที่นี่สอนเด็กให้เล่นโขนมากว่า 10 ปีแล้ว เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยและความเป็นอยุธยา และภูมิปัญญาท้องถิ่น สอนเด็กให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และยังสร้างรายได้ให้แก่นักเรียนอีกด้วย เพราะเด็กอนุบาลถึงชั้น ป.6 ที่นี่ส่วนใหญ่มาจากฐานะที่ยากจน ถ้าเขาได้เล่นโขนอย่างน้อยไปแสดงงานงานหนึ่งจะได้ไม่ต่ำกว่าคนละ 200 บาท ถือว่าเป็นค่าขนม ที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองได้" เจือจันทร์ เสาร์ฤกษ์ ครูผู้ริ่เริ่มและควบคุมการแสดงโขน และรักษาการ ผอ.ร.ร.วัดหนองเครือบุญ กล่าว

                เดิมโรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2482 ใช้ศาลาวัดหนองเครือบุญเป็นที่เรียน เปิดสอนชั้นประถมปีที่ 1-4 ต่อมา ปี 2510 นายพี  พงษ์ประยูร ผู้ใหญ่บ้านได้บริจาคที่ดิน 2 ไร่เศษ ให้สร้างอาคารเรียนแบบ  ป.1 ดัดแปลง 2 ห้องเรียน ใช้เงินงบประมาณและเงินบริจาค เปิดใช้เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2511 ซึ่งปี 2517 ได้ต่อเติมอีก 1 ห้องเรียน เปิดสอนถึงชั้นประถมปีที่ 6 มีครูและนักเรียนเพิ่มขึ้นตามลำดับ

                ปี 2527 สร้างอาคารเรียนแบบ สปช.108 จำนวน 2 ห้องเรียน 1 หลัง ภายหลังได้ ต่อเติมชั้นล่าง ปัจจุบันใช้เป็นห้องพักครูและห้องคอมพิวเตอร์  ปี 2530 เปิดสอนชั้นเด็กเล็ก ปี 2539 สร้างอาคารพิเศษ 1 หลัง 3 ห้องเรียนใช้เป็นโรงอาหารและห้องเรียน ปัจจุบันมีครู 3 คน นักเรียน 52 คน และมีพนักงานบริการ 1 คน อยู่ห่าง อ.ภาชี 6 กม. และห่างจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
40 กม.

                ร.ร.วัดหนองเครือบุญ เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก 3 ปีก่อนกระทรวงศึกษาธิการเคยมีนโยบายจะยุบโรงเรียนที่มีนักเรียนต่ำกว่า 60 คน และไม่มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียน ส่งผลให้ ครูเจือจันทร์  ต้องรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนมาหลายปี แม้ว่าจะเกษียณในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ แต่ก็พยายามจัดการศึกษา เพื่อพัฒนานักเรียน ให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม มีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียน รักษ์ภาษา อนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่นและให้เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ

                ครูเจือจันทร์ เล่าว่า ได้ติดต่อ ปู่สังเวียน หอมกิ่งแก้ว ภูมิปัญญาชาวบ้านมาสอนโขนให้นักเรียนต่อมาปู่เสียชีวิตแล้ว โรงเรียนได้ติดต่อ ลุงสมใจ  และป้าผ่องศรี แจ้งประจักษ์  ภูมิปัญญา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มาช่วยสอนโขนและตัดเย็บชุดให้แก่นักเรียน แรกๆ สอนเด็กป.5-6 ต่อมาได้เพิ่มสอนตั้งแต่ ป.1 ตามความสมัครใจเพื่อฝึกไว้แสดงแทนรุ่นพี่ที่จบ ป.6 ออกไป แต่เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นักเรียนที่จบ ป.6 ไปแล้ว ยังกลับมาสอนน้องและช่วยแสดงให้แก่โรงเรียนในบางโอกาสอีกด้วย อย่างเช่น ด.ช.ไชยวัฒน์ ศรีเสวก นักเรียนโขนรุ่นแรกๆ เล่นเป็นยักษ์ ตอนนี้อยู่ ม.2 โรงเรียนหนองแสงวิทยา ที่มาช่วยแสดงโขนพร้อมกับ ครู คณพศ พูลสมบัติ ที่มาช่วยตีระนาดให้แก่โรงเรียนหลายๆ ครั้ง

                ครูเจือจันทร์ บอกว่า เป็นห่วงนักเรียนมาก เพราะอีกไม่กี่เดือนจะเกษียณแล้ว จะเหลือข้าราชการครูเพียงคนเดียว คือ นางยุพิน ขันธฤกษ์  ที่เพิ่งมาบรรจุได้ 3 สัปดาห์ และอัตราจ้าง 2 อัตรา ที่สำนักงานเขตพื้นที่จ้างให้ ซึ่งกว่าจะมีครูมาบรรจุทดแทน อาจจะต้องใช้เวลานานเป็นเทอม บางครั้งอาจจะนานเป็นปี เกรงว่าจะกระทบกับนักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่มีฐานะยากจน หากไม่มีครูสอน อาจจะนำไปสู่การยุบโรงเรียนแห่งนี้ได้

                "เด็กที่นี่ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ถ้าโรงเรียนยุบอาจจะต้องเดินทางไปเรียนอีกโรงเรียนหนองเป้าที่อยู่ห่างไป 7-8 กิโลเมตร แต่ถ้ามีครูสอน ชุมชนและท้องถิ่นช่วยกันจัดการศึกษาเพื่อพัฒนานักเรียน ให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม  มีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียน รักษ์ภาษา อนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่นและให้เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ โรงเรียนเล็กๆ อย่างวัดหนองเครือบุญก็ยังดำรงสภาพความเป็นโรงเรียนต่อไปได้" รักษาการผอ.ร.ร.วัดหนองเครือบุญ กล่าว

                ล่าสุด อาสาจากหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และคม ชัด ลึก และพันธมิตร ได้นำอุปกรณ์กีฬา การเรียน การสอน และทุนการศึกษาไปให้โรงเรียนวัดหนองเครือบุญ และมีโอกาสชมการแสดงโขนเด็กตอนสุครีบถอนต้นรัง  สร้างความสนุกสนานเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ทำหัวโขนจำลองขาย และ เคยไปแสดงตามงานต่างๆ มานับไม่ถ้วนแล้ว หน่วยงานภาครัฐหรือ เอกชนที่สนใจโขนเด็ก ร.ร.วัดหนองเครือบุญ ไปแสดงสอบถามที่ เจือจันทร์ เสาร์ฤกษ์ รักษาการผอ.ร.ร.วัดหนองเครือบุญ 08-9805-2465  หรือ โทร.0-3575-0058