ไลฟ์สไตล์

ครั้งแรกในโลก 'อหิวาต์เลือดไก่' เชื้ออหิวาต์แท้-เทียม

ครั้งแรกในโลก 'อหิวาต์เลือดไก่' เชื้ออหิวาต์แท้-เทียม

25 ม.ค. 2558

ครั้งแรกในโลก 'อหิวาต์เลือดไก่' เชื้ออหิวาต์แท้-เทียม : โดย...โต๊ะรายงานพิเศษ

 
                          "ปกติเชื้ออหิวาต์เทียม จะทำให้เกิดอาเจียน ปวดท้อง ถ่ายบ่อยท้องเสีย อาการจะดีขึ้นภายใน 3 วัน อัตราเสียชีวิตน้อยกว่า 1 ต่อ 1,000 เชื้อตัวนี้ชอบอยู่ในน้ำเค็มหรือน้ำกร่อย พบมากในหอย กุ้ง เพิ่งพบว่า ปนเปื้อนในเลือดไก่ครั้งแรกของโลก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น ยังต้องมีการสอบสวนโรคต่อไป" 
 
                          นพ.โอภาส การกวินพงษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีพบผู้ป่วยมีอาการท้องเสียและอาเจียนจากการกินเลือดไก่ที่ต้มไม่สุก ในภาคเหนือและภาคอีสานของไทย ทำให้หลายฝ่ายเกิดความสงสัยว่า อหิวาตกโรคแบบแท้และเทียมแตกต่างกันอย่างไร ? และจะกลายเป็นโรคระบาดต่อไปในอนาคตหรือไม่ ?
 
                          ความเป็นมาของเรื่องราวที่เกิดขึ้นข้างต้น เริ่มจากมีผู้เผยแพร่หนังสือราชการจากสำนักงานสาธารณสุขนครราชสีมา ที่ส่งถึงโรงพยาบาลและสาธารณสุขอำเภอใน จ.นครราชสีมา เพื่อเตือนให้เฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้ออหิวาต์เทียม คาดว่าอาจเกิดจากการกินเลือดไก่ปนเปื้อนเชื้อโรคในจานข้าวมันไก่ 
 
                          หลังจากนั้น กรมควบคุมโรค ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวเริ่มมาจากการสำรวจโรคอาหารเป็นพิษทั้งสิ้น 173 เหตุกาณ์รวมผู้ป่วย 9,132 ราย ช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน 2557 จากนั้นพบจุดน่าสงสัยในภาคอีสานและภาคเหนือ ที่มีผู้ป่วยถึง 2,680 รวม 43 เหตุกาณ์ ที่ท้องร่วงเพราะกินอาหารเหมือนกันคือ "ข้าวมันไก่" เจ้าหน้าที่สาธารณสุขย้อนสืบรายละเอียดไปที่ต้นตอ ถึงรู้ว่าไม่ได้เกี่ยวกับข้าวหรือเนื้อไก่ แต่เป็น "เลือดต้ม" ซึ่งวางแปะมา 2-3 ชิ้นในจานข้าวมันไก่นั่นเอง 
 
                          "ตอนแรกไม่มั่นใจกัน  เพราะไม่เคยได้ยินว่าข้าวมันไก่ทำให้เกิดโรคอหิวาต์ จนกระทั่งเราสืบตรวจไปที่คนขาย ร้านอาหาร โรงงาน พอตรวจละเอียดทุกส่วนทำให้พบว่ามีเลือดไก่ปนเปื้อนเชื้ออหิวาต์เทียมจริง ก็เตือนให้ประชาชนรับทราบว่าต้องกินเลือดไก่ปรุงสุกเท่านั้น อีกด้านหนึ่งให้กรมปศุสัตว์และหน่วยงานโรคระบาดไปสืบค้นว่าที่ผ่านมาเคยมีประเทศไหนพบเชื้ออหิวาต์ในเลือดไก่หรือเปล่า ปรากฏว่าไม่เคยมีเลย เชื้อตัวนี้ส่วนใหญ่จะพบในอาหารทะเลเท่านั้น" 
 
                          นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ขั้นตอนจากนี้ไปคือสืบสวนให้ได้ว่า เลือดไก่ในโรงงาน 3-4 แห่งที่พบว่ามีการปนเปื้อนเชื้ออหิวาต์เทียม รับเชื้อมาจากทางใดได้บ้าง เช่น จากน้ำเกลือที่แช่เลือด หรือจากพนักงาน และมีการขอให้ 3 กรมดูแลเป็นพิเศษ คือ กรมปศุสัตว์ดูแลโรงงานเชือดไก่ กรมอนามัยดูแลร้านอาหาร ส่วนกรมควบคุมโรคให้เฝ้าระวังผู้มีอาการท้องร่วง 
 
                          ส่วนอหิวาตกโรคแบบแท้และเทียมแตกต่างกันอย่างไร?  
 
                          ผศ.นพ.ดร.ฉัตรชัย เหมือนประสาท ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล นักวิทยาศาสตร์ผู้พัฒนาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพรักษาอหิวาตกโรค อธิบายให้ฟังว่า "อหิวาตกโรค" หรือที่เรียกว่าอหิวาต์แท้ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย "วิบริโอ คลอเรลลา" (Vibrio Cholerae) ในลำไส้ เชื้อนี้ติดต่อโดยการกินอาหารหรือน้ำดื่มที่มีอหิวาตกโรคปนเปื้อน เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะสร้างพิษเพื่อดูดเกลือโซเดียมและน้ำเข้าสู่โพรงลำไส้ แล้วถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำออกมา ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการขาดน้ำอย่างรุนแรงจนอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ที่ผ่านมาไม่มียารักษาโดยตรง ส่วนใหญ่ให้ดื่มสารละลายเกลือแร่ (ORS) เพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป หรือกินยาฆ่าเชื้อ 
 
                          "ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อประมาณปีละ 1,000 กว่าคนเท่านั้น เพราะเวลาที่ผู้ป่วยท้องร่วง หมอรักษาไม่ค่อยส่งเชื้อไปตรวจหาเชื้ออหิวาต์ เพราะยุ่งยากและมีค่าใช้จ่าย ส่วนใหญ่ให้คนไข้กินน้ำเกลือแร่และยาฆ่าเชื้อ ทำให้ไม่รู้ตัวเลขที่แท้จริงว่ามีผู้ป่วยโรคนี้เท่าไรกันแน่ คิดว่าน่าจะมากกว่าที่รายงานประมาณ 10 เท่า เชื้ออหิวาต์จะติดจากน้ำ อาหาร อุจจาระผู้ป่วย เป็นเชื้อที่ระบาดจากคนสู่คนได้ ส่วนอหิวาต์เทียมเป็นเชื้อคนละตัว อธิบายง่ายๆ คือ เป็นพี่น้องกันอยู่ตระกูลเดียวกัน แต่คนละพ่อแม่" 
 
                          ดร.ฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า เชื้ออหิวาต์เทียม หรือ "วิบริโอ พาราฮิโมไลติคัส" (Vibrio parahaemolyticus) จะมีอาการเบากว่ามาก และไม่ระบาดจากคนสู่คน ส่วนใหญ่ปนเปื้อนในอาหารทะเล เมื่อคนกินเข้าไปก็เกิดอาการท้องร่วง แต่ไม่ได้ไปสร้างพิษร้ายเหมือนอหิวาต์จริง และที่สำคัญคือไม่แพร่ระบาดผ่านแม่น้ำ ลำคลอง หรือ น้ำกินน้ำใช้ ทำให้ผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มเล็กๆ รักษา 2-3 วันก็หาย 
 
                          อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ข้างต้น กล่าวเตือนถึงภัยร้ายของโรคนี้ว่า ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากอหิวาตกโรคประมาณ 1-3 แสนคน และมีแนวโน้มแพร่ระบาดสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภาวะโลกร้อน มีการคาดคะเนว่าอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส จะทำให้อัตราการเกิดโรคอหิวาต์สูงเพิ่มขึ้นถึง 15 เปอร์เซ็นต์ 
 
                          เมื่อประเทศไทยเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งมีเชื้ออหิวาต์อาศัยอยู่ จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดว่า แบคทีเรียตัวนี้อาจกลายเป็นโรคระบาดใหญ่ในอนาคตหรือไม่ โดยเฉพาะการพบการปนเปื้อนในอาหารอย่าง "เลือดไก่" ซึ่งไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในโลก !?!
 
 
 
 
 
-------------------
 
(ครั้งแรกในโลก 'อหิวาต์เลือดไก่' เชื้ออหิวาต์แท้-เทียม : โดย...โต๊ะรายงานพิเศษ)