
ถิ่นไทยงาม : ขัวศิลปะ ครัวศิลปิน
25 ม.ค. 2558
ถิ่นไทยงาม : ขัวศิลปะ ครัวศิลปิน
แว่บแรกที่ได้ยินชื่อ “ขัวศิลปะ” เกิดอาการสะดุดหูขึ้นมาทันที เชียงรายมีกลุ่มศิลปินมากมาย ขนาดรวมกลุ่ม หรือจะเรียกเป็นชมรม องค์กร ได้ขนาดนี้เชียวเหรอ ? หลายคนอาจจะรู้ว่า จังหวัดเชียงรายมีศิลปินชั้นบรมครูอยู่ 2 คน คือ อ.ถวัลย์ ดัชนี และ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ สองศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์(จิตรกรรม) ในปี พ.ศ.2544 และ 2554
อ.ถวัลย์ เสียชีวิตไปแล้ว แต่ผลงานยังประจักษ์อยู่ โดยเฉพาะภาพวาดที่ไปปรากฏตามสถานที่ต่างๆ หลายประเทศ และผลงานบางชิ้นกลายเป็นของสะสมที่ได้รับการประมูลที่มีมูลค่าสูงสุดของเอเชีย ขณะที่ อ.เฉลิมชัย ออกแบบก่อสร้างอุโบสถวัดร่องขุ่น ทั้งยังเป็นผู้ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าให้วาดภาพประกอบบทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก รวมถึงผลงานอื่นๆ อีกมาก
แต่สำคัญกว่านั้น คือ การปูทางไปสู่การรวมกลุ่มของศิลปินในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จนนำไปสู่การจัดตั้งเป็น “ขัวศิลปะ” ภายใต้การก่อตั้งโดย กองทุนศิลปินเชียงราย
ขัวในภาษาเหนือ แปลว่าสะพาน ขัวศิลปะ ก็หมายถึงสะพานที่จะเชื่อมศิลปะสู่สังคม
ทรงเดช ทิพย์ทอง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานของขัวศิลปะ เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันมีศิลปินที่เป็นสมาชิกของขัวศิลปะ อยู่ราวๆ 300 คน เริ่มจากศิลปินในจังหวัดเชียงราย ปัจจุบันขยายเครือข่ายไปยังศิลปินจากที่อื่นๆ
ขัวศิลปะ มีลักษณะเหมือนองค์กร เหมือนสหกรณ์ สร้างจากเงินของศิลปิน และคนที่ชื่นชอบงานศิลปะ โดยระดมทุนในรูปของหุ้นละ 1,000 บาท แต่หลังๆ มานี่หุ้นเต็มแล้ว และไม่จำเป็นต้องระดมทุนอีก ใครที่จะเข้ามาเป็นสมาชิก ก็เสียค่าแรกเข้า คนละ 2,000 บาท ก็เป็นสมาชิกได้ตลอดชีวิต
“คนที่มาเป็นสมาชิก จึงจะสามารถนำรูปมาจัดแสดง โดยเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าเฟรม ค่าจัดทำสูจิบัตรให้ ภาพขายได้ก็หักรายได้ให้ขัว 30% ก็มีสมาชิกมาแสดงผลงานมากขึ้น จึงต้องขยายเพิ่มชั้นบนเป้ฯห้องแสดงภาพ และก่อตั้งโรงเรียนสอนศิลปะด้วย“
ธีระยุทธ สืบทิม ศิลปินที่ชื่นชอบแนวสีน้ำ และเรียลลิสติก หนึ่งในสมาชิกของขัวศิลปะ ตั้งแต่ยุคก่อตั้ง บอกว่า ขัวศิลปะก็เหมือนกับบ้านของเรา พวกเรามารวมกันในบ้านเดียวกัน เป็นการทำเพื่อส่วนรวม
ขณะที่ ณรงค์เดช สุดใจ ศิลปินแนวจิตรกรรมไทย มองว่า การก่อตั้งขัวเป็นเรื่องดี ศิลปินรวมกันเป็นกลุ่มก้อน ทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนเป็นเรื่องเป็นราว มากกว่าทำไปคนเดียว แล้วยังช่วยคนอื่นได้ด้วย เช่น การวาดภาพเพื่อหารายได้ไปใช้ด้านงานการกุศล เป็นการช่วยเหลือสังคมบ้าง ที่ผ่านมาก็ไปแจกผ้าห่มมาแล้ว 2 ปี
ปัจจุบัน ขัวศิลปะผ่านร้อนหนาวมาได้ 3 ปีแล้ว และเนื่องจากไม่ใช่องค์กรธุรกิจที่แสวงหากำไร ก็ต้องหารายได้เลี้ยงองค์กรให้อยู่รอด ทั้งจากร้านอาหาร “ครัวศิลปิน” และ การจำหน่ายของที่ระลึก และซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากกองทุนศิลปิน ภาพพิมพ์ ศิลปะประดิษฐ์ งานหนัง เซรามิก สมุด หนังสือ จิปาถะ
และถ้าใครไปช่วงนี้ จะได้เห็นรูปปั้น และภาพวาดเป็นรูปอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่ลาลับไปแล้ว อยู่ในโถงด้านหน้า นั่นเป็นผลงานของบรรดาศิลปินในพื้นที่ ที่ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานออกมา เพื่อร่วมจัดนิทรรศการขัวศิลปะครั้งที่ 3 “คารวะ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี” นอกจากนี้ยังมีภาพวาดของอาจารย์ถวัลย์ ที่รวบรวมมาจากที่ต่างๆ รวมถึงขอยืมมาจัดแสดงให้ชม โดยนิทรรศการนี้ จะมีไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้
ส่วนด้านใน เป็นห้องแสดงภาพ ของบรรดาศิลปินที่เป็นสมาชิกของขัวศิลปะ มีทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก รุ่นใหม่ ไปจนถึงศิลปินนานาชาติ โดยแต่ละภาพจะมีชื่อของศิลปินติดไว้ให้รู้ ดูแล้วชอบใจ ก็สามารถติดต่อขอซื้อกลับบ้านได้ด้วย
ชมภาพวาดสวยๆ ตบท้ายด้วยการนั่งจิบกาแฟชิลๆ ที่ครัวศิลปิน หรือใครตั้งใจจะมากินข้าวที่นี่ก็ไม่ผิด เพราะเขามีเมนูเยอะแยะให้เลือกทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารไทย อาหารฝรั่ง แล้วยังเปิดเร็ว ปิดช้า ในบรรยากาศที่มองเห็นขุนเขาและสายน้ำ ให้นั่งแช่อารมณ์ได้อย่างดี