ลำบาก...นั่งรถตู้แทนรถบัส | คมชัดลึก

 

                            พวกดิฉันเป็นชาวบ้านบ้านยางอุ้ม บ้านกลาง อ.ท่าคันโท บ้านดงสวรรค์ บ้านหนองหิน บ้านหนองแข้ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พวกเราซึ่งเป็นชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีรถโดยสารเดินทางไปยังจ.กาฬสินธุ์เกือบปีแล้ว 

 

                            เนื่องจากรถสาย 562 อุดรธานี-กาฬสินธุ์ ของบริษัท ไชยศุภลาภ ซึ่งได้สัมปทานให้วิ่งรถในเส้นทางสายนี้ ไม่ได้นำรถมาวิ่งรับผู้โดยสาร ก่อนหน้านี้รถสายนี้มีรถบัสปรับอากาศมาวิ่งบริการวันละ 2 เที่ยว เช้าหนึ่งคัน-บ่ายหนึ่งคัน ไปกลับก็ได้รับความสะดวกดี แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีรถบัสปรับอากาศบริการแแล้ว 

 

                            เด็กนักเรียนที่ต้องไปโรงเรียนก็ต้องเหมารถสองแถวไปเรียนกัน พวกดิฉันจะเดินทางไปจ.กาฬสินธุ์หรือจ.อุดรธานี ต้องเหมารถไปเอง หรือจ้างรถสามล้อเครื่องหรือรถจักรยานยนต์รับจ้างไปส่งปากทางด้านห้วยยางดง รอรถตู้มาจากอุดรธานีหรือมาจากกาฬสินธุ์ รถตู้มาแต่ละคันก็เต็มหมดแล้ว รถตู้นั่งได้ 14 ที่นั่ง 

 

                            พวกดิฉันต้องเสริมยืนคันละ 20 กว่าคน ลำบากมาก และรถก็วิ่งเร็วมาก คนขับก็พูดจาไม่สุภาพ ขากลับจากจ.กาฬสินธุ์คนขับรถตู้บอกว่าจะไปส่งให้ดง (ทางสายนี้เขาเรียกว่ารถดง) เก็บค่าโดยสารคนละ 120-150 บาท พอมาถึงปากทางบ้านห้วยยางดง ก็ไล่พวกดิฉันลงว่าไม่ไปส่งแล้ว เสียเวลาจะรีบไปส่งผู้โดยสารที่อุดรธานี พวกดิฉันต้องนั่งรถสามล้อเครื่องหรือรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่ง เสียค่ารถอีกคนละ 50-80 บาท แล้วแต่บ้านใกล้หรือไกล ค่ารถที่เก็บมาก็ไม่คืน ตั้งแต่ไม่มีรถบริการรถบัสเสียค่ารถคนละ 80 บาท

 

                            เรื่องนี้พวกดิฉันได้ร้องเรียนไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ขนส่งจังหวัดอุดรธานี แล้วเรื่องก็เงียบไป พวกดิฉันชาวอ.ท่าคันโท อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ขอให้หนังสือพิมพ์คมชัดลึกช่วยให้กรมการขนส่งทางบก ช่วยจัดรถบัสโดยสารมาบริการด้วย ถ้าหากบริษัท ไชยศุภลาภ ไม่สามารถจะส่งรถได้ ก็ให้บริษัทอื่นมาวิ่งแทน เพราะพวกดิฉันและเด็กนักเรียนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

 

 

ชาวบ้านที่ใช้รถโดยสาร

 

 

ตอบ

 

 

                            นายวิโรจน์ วิริยะจันทร์ ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ชี้แจงว่า ได้เข้าไปตรวจสอบเรื่องร้องเรียนแล้ว จากการสอบถามผู้ประกอบการเดินรถ เส้นทางดังกล่าว บริษัท ไชยศุภลาภ ยังคงสัมปทานเดินรถเช่นเดิม แต่ปรับเปลี่ยนจากรถบัสปรับอากาศเป็นรถตู้โดยสารและให้บริการตามเส้นทางเดิม จำนวนเที่ยวในการให้บริการก็เช่นเดียวกัน ยังคงให้บริการเท่ากับการให้บริการโดยรถบัสปรับอากาศ

 

                            กรณีรถตู้มีจำนวนที่นั่งไม่เพียงพอกับจำนวนผู้โดยสาร ทำให้ผู้โดยสารต้องยืนจำนวนมากนั้น ผู้ประกอบการยืนยันว่า รถตู้โดยสารอุดรธานี-กาฬสินธุ์ ผู้โดยสารแต่ละเที่ยวมีจำนวนไม่มาก หากที่นั่งเต็มจะมีผู้โดยสารยืนเพียงไม่กี่คน จำนวนไม่มากดังเช่นที่มีการร้องเรียน กรณีผู้โดยสารเต็มจนผู้โดยสารต้องยืนจำนวนมาก เป็นรถตู้โดยสารที่ตัดเส้นทางที่อ.ท่าคันโท ซึ่งมีผู้โดยสารเต็มตั้งแต่ต้นทาง สำหรับกรณีไล่ผู้โดยสารลงจากรถนั้น ผู้ประกอบการให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการเสียเวลาอ้อมระยะทางไกล

 

                            ทั้งนี้ ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์มีแนวทางแก้ปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยให้ผู้ประกอบการกันที่นั่งว่างจากต้นทางจำนวน 2 ที่ และให้รถที่วิ่งอุดรธานี-กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นเที่ยวหลักให้เข้าไปส่งผู้โดยสารตามเส้นทางที่แจ้งไว้ ห้ามทิ้งผู้โดยสาร มิเช่นนั้นจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด

 

 

 

ทำสัญญาเช่าให้ถูกต้อง

 

 

                            มีเรื่องร้อนใจอยากทราบค่ะ คือว่า สามีมีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งซึ่งเป็นสมบัติเก่าแก่ที่ได้รับมาจากคุณแม่ แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำประโยชน์จึงให้ญาติของพ่อทำประโยชน์ ซึ่งปัจจุบันเขาก็ใช้พื้นที่ตรงนี้ทำนา โดยที่ผ่านมาก็ไม่เคยเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรว่า เป็นการให้ใช้เพื่อประโยชน์โดยห้ามมีสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเขาก็ทำนามาประมาณ 7 ปี  

 

                            ปัญหาเกิดขึ้นตรงที่ปัจจุบันผู้ที่ใช้ที่ดินเริ่มมีสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน ด้วยการปลูกบ้านหลังขนาดไม่ใหญ่มาไว้บนที่ดินหนึ่งหลัง โดยที่ไม่เคยขออนุญาตก่อน จึงอยากทราบว่า กรณีนี้อย่างนี้ เขามีความผิดไหม

 

                            แล้วถ้าสามีดิฉันต้องการให้เขาย้ายออก หรือไม่ให้ทำกินตรงนี้แล้วจะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะเกรงว่า ถ้าปล่อยไว้เขาอาจจะมีสิ่งปลูกสร้างที่ถาวรกว่านี้ เลยจะทำให้รู้สึกไม่ดีไปกันใหญ่ หรืออาจจะมีเรื่องราวบานปลาย ถ้าเป็นอย่างนั้น ควรจะจัดการอย่างไรดี ให้ออกไปเลย หรือให้เช่าแบบมีการทำจดหมายแบบเป็นทางการ แล้วถ้าให้เช่า เรื่องสิ่งปลูกสร้างควรตกลงกันอย่างไรดีคะ

 

 

ก้อย

 

 

ตอบ

 

 

                            ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ชลธิชา  สมสะอาด คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำเรื่องนี้ว่า ถ้าว่ากันตามหลักกฎหมายแล้ว ถ้ามีการฟ้องร้องแล้วถามขึ้นมาถึงการที่เข้ามาอยู่บที่ดินของคุณแล้วมีการปลูกสร้างนั้น ในขั้นแรกก็ต้องมีคำถามกลับมาที่คุณก่อนว่า ทางคุณเป็นผู้อนุญาตให้เข้าไปทำกินหรือเปล่า แล้วขอบเขตการทำกินมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่า ผิดหรือไม่ผิด แต่ถ้าคุณไม่เคยอนุญาตให้เข้ามาทำกินเลย แต่เขาเข้ามาใช้พื้นที่แล้วมีสิ่งปลูกสร้าง กรณีนี้ ถือว่าผิด และบุกรุก

 

                            ส่วนในเรื่องที่บอกว่า จะให้ออก หรือจะให้อยู่ กรณีนี้คงต้องอยู่ที่การตัดสินใจของคุณ แต่ขอแนะนำว่า ในการที่จะให้ญาติเข้ามาใช้ประโยชน์บนที่ดินนี้ควรจะต้องมีสัญญการเช่าเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งการเช่าบนที่นานั้น ถ้าเป็นการเช่าเพื่อการทำกินอย่างเดียวก็จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ถ้าเป็นการเช่าเพื่อปลูกบ้าน หากเกิน 3 ปี ต้องเสียค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนด้วย 

 

                            ทางที่ดีควรให้เช่าระยะยาวไปเลย จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย แล้วก็มีการกำหนดกันให้ชัดเจนไปเลยว่า จะสามารถปลูกสร้างอะไรได้บ้าง เพื่อที่ว่าจะได้ไม่มีปัญหากันทั้งสองฝ่าย แล้วก็จะได้ไม่ต้องมาเสียความรู้สึกต่อกัน หากมีการก่อสร้างสิ่งต่างๆ ลงไปโดยที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่รู้

 

 

ลุงแจ่ม