เกิดอเมริกาก็ต้องเกณฑ์ทหาร | คมชัดลึก

 

                         มีเรื่องอยากจะปรึกษาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร เนื่องจากดิฉันทำงานเกี่ยวกับทางด้าน HR ค่ะ อยากสอบถามเพื่อเป็นความรู้ เรื่องของดิฉันมีอยู่ว่า ทางผู้สมัครงานท่านหนึ่ง พ่อแม่เป็นคนไทยปกติ เกิดที่อเมริกา ตัวผู้สมัครท่านนี้ก็เลยได้สัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติ ที่ผ่านมาก็เรียนที่อเมริกามาได้สักพักในช่วงวัยเด็ก แล้วก็ย้ายมาเรียนในเมืองไทย คือทางผู้สมัครท่านนี้ก็ได้สัญชาติไทยด้วย กลายเป็นว่าตอนนี้เป็นคนสองสัญชาติ ถือทั้งพาสปอร์ตไทยด้วยและอเมริกาด้วย

 

                         หลังจากเรียนในเมืองไทยไม่กี่ปี ช่วง High School ก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตลอด จนจบปริญญาโท ช่วงเวลานั้นจะเดินทางกลับมาบ้านบ้างไม่กี่เดือน และก็เดินทางกลับไปอีก ปัจจุบันกลับมาอยู่เมืองไทย ต้องการหางานทำที่เมืองไทย แต่ติดปัญหาตรงที่พูดไทยไม่คล่อง เขียนไทยไม่คล่อง มีเรื่องหนึ่งที่สงสัยคือเรื่องการเกณฑ์ทหาร เพราะผู้สมัครท่านนี้ยังไม่เคยเกณฑ์ทหารเลย

 

                         จึงอยากสอบถามและรบกวนช่วยแนะนำเพื่อเป็นความรู้ ว่าเขาต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารหรือไม่ ตอนนี้ชายคนนี้อายุ 24 ปีแล้ว สอบถามว่าทางบ้านเคยได้รับหมายเรียกหรือไม่ คำตอบคือ ไม่เคยได้รับหมายเรียก จะต้องให้เขาทำอย่างไรต่อไป ควรแนะนำอย่างไรดี 

 

 

ชฎาภัค

 

 

ตอบ

 

 

                         สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ ชี้แจงว่า ชายไทยที่มีสัญชาติไทยมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ ย่างเข้า 18 ปี ต้องไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินที่ภูมิลำเนาของตน ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 สำหรับชายไทยที่อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์มีหน้าที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกเพื่อเป็นทหารตามภูมิลำเนาที่ตนมีชื่อในทะเบียนบ้าน หากได้รับหมายเรียกแล้วไม่ไปเกณฑ์ทหารจะมีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี

 

                         กรณีเกิดในต่างประเทศและยังไม่ได้เพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้านเมื่ออายุครบ 17 บริบูรณ์ย่างเข้า 18 ปี จะต้องแจ้งลงบัญชีทหารกองเกินเช่นกัน เพราะชื่อของชายสัญชาติไทยและไม่ไปแจ้งชื่อเข้าทะเบียนบ้านจะมีชื่อปรากฏในทะเบียนบ้านกลาง สัสดีกลางมีอำนาจที่จะออกหมายจับ หากไม่ไปรับการเกณฑ์ทหาร ชายไทยที่มีอายุ 18 ปีและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของไทยจะได้รับหนังสือเรียกให้ไปลงทะเบียนเป็นทหารกองเกินที่อำเภอที่มีภูมิลำเนาของตน

 

                         สำหรับกรณีร้องเรียนนี้ แนะนำให้ติดต่อแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินที่อำเภอที่มีภูมิลำเนา หากไม่ลงบัญชีทหารกองเกินจะมีความผิดฐานหลีกเลี่ยงขัดขืน ถ้าเจ้าหน้าที่สัสดีส่งรายชื่อให้ตำรวจติดตามจับกุมดำเนินคดี จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

 

กฟน. เพิ่มช่องทาง รับชำระผ่านแอพ

 

 

                         นายชาญ ปัทมะวิภาค ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า การไฟฟ้านครหลวงเปิดตัวแอพพลิเคชัน “MEA Smart Life New Version” ต่อยอดบริการ MEA Smart Life เพิ่มช่องทางการชำระค่าไฟฟ้าผ่านแอพพลิเคชัน 

 

                         โดยหักผ่านบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด นอกจากนี้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังสามารถตรวจสอบค่าไฟฟ้า สถานที่รับชำระค่าไฟฟ้า ประกาศดับไฟ แจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้อง และข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจจากการไฟฟ้านครหลวง ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน หรืออัพเดตแอพพลิเคชันที่มีอยู่เดิมได้แล้ววันนี้ ที่ App Store และ Google play โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

 

 

 

โอนแบ่งมรดกแพง 

 

 

                         มีเรื่องอยากขอคำแนะนำด้วยค่ะ คือ พ่อและแม่เสียชีวิต ได้ทิ้งสมบัติไว้ให้ลูก เป็นบ้านหนึ่งหลัง และตึกแถว 1 ห้อง เรามีกัน 3 คนพี่น้อง เลยตกลงกันว่า หนูจะเอาบ้าน ส่วนพี่สาวและน้องสาวจะเอาตึกแถว เราจึงให้น้องสาวทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดก และเราทั้งหมดต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว เลยอยากจะโอนเปลี่ยนชื่อโฉนดบ้านเป็นของหนู ส่วนตึกแถวก็ให้เป็นของพี่สาวกับน้องสาวร่วมกัน เพราะขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นชื่อแม่อยู่ค่ะ   

 

                         อยากทราบว่าจะทำอย่างไรบ้างคะ ค่าโอนแพงมั้ย หรือถ้ายังไม่โอนแล้วจะให้น้องเป็นผู้จัดการมรดก ทำหนังสืออะไรได้บ้างคะที่จะยกบ้านให้เป็นชื่อหนู และตึกเป็นชื่อของพี่สาวกับน้องสาวที่เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน 

 

                         เราต้องทำทุกอย่างผ่านทนายหรือเปล่าคะ ถ้าจะไปโอนเปลี่ยนชื่อจะมีค่าใช้จ่ายแพงไหมคะ 

 

 

หนึ่ง

 

 

ตอบ

 

 

                         ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ปราชญา อ่อนนาค คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำเรื่องนี้ว่า ขั้นแรกเลยก็ต้องทำเรื่องให้น้องสาวเป็นผู้จัดการมรดกเสียก่อน ซึ่งสามารถทำได้ทั้งผ่านทนาย และไม่ผ่านทนาย ถ้าผ่านทนายความก็จะเป็นผู้ดำเนินเรื่องต่างๆ ให้คุณ แต่คุณต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าไม่ต้องการใช้ทนาย ก็สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง โชคดีที่พวกคุณตกลงกันได้จึงไม่ยุ่งยาก 

 

                         โดยต้องดูก่อนว่า แม่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ไหน ให้ไปยื่นเรื่องที่ศาล ซึ่งอยู่ในเขตความรับผิดชอบในภูมิลำเนาของแม่ หลังจากนั้นก็ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดก หลังจากนั้น ศาลก็จะมีคำพิพากษาออกมา ให้ถือคำพิพากษาที่ศาลให้มานั้น นำเอกสารนี้ไปที่กรมที่ดิน แล้วก็ดำเนินการเรื่องขอแยกโฉนดตามที่คุณทั้งสามคนพี่น้องต้องการได้เลย  

 

                         ขั้นตอนที่ยุ่งยากก็อาจจะอยู่ตรงที่ การไปขอเป็นผู้จัดการมรดก แต่เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการนั้นแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะผู้จัดการมรดก สามารถไปดำเนินการแบ่งมรดกให้แก่ผู้รับมรดกตามที่ต้องการได้ที่กรมที่ดิน โดยจะเสียค่าใช้จ่ายในการรับโอนมรดกจากชื่อแม่ มาเป็นชื่อของผู้ที่ต้องการจะรับมรดก ประมาณ  0.5 เปอร์เซ็นต์ของราคาประเมิน  

 

                         ทางที่ดีแนะนำว่า ให้โอนให้เป็นชื่อของแต่ละคนเลยจะดีกว่า เนื่องจากดำเนินเรื่องมาแล้ว แต่งตั้งน้องเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว ก็ทำให้เสร็จสิ้นไป จะได้ไม่ต้องมาทำเรื่องอีกในอนาคต 

 

 

ลุงแจ่ม