ไลฟ์สไตล์

9ประเภทไม้มงคลเสริมบารมี(1)สำหรับคนรักต้นไม้ในรับปีมะแม

9ประเภทไม้มงคลเสริมบารมี(1)สำหรับคนรักต้นไม้ในรับปีมะแม

31 ธ.ค. 2557

9ประเภทไม้มงคล เสริมบารมี(1) สำหรับคนรักต้นไม้ในรับปีมะแม : นายสวีสองรายงาน

               มนุษย์เรานับตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว ที่มีความเชื่อที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่แต่ละชนเผ่า อย่างต้นไม้ที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาตินั้น บรรพบุรุษของไทยเรามีความเชื่อว่า มีทั้งไม้ประเภทมงคลนาม ที่ปลูกแล้วมีทั้งเสริมบารมี เสริมเสน่ห์ ให้โชคลาภ และป้องภัย เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ยังมีพรรณไม้บางชนิดที่เชื่อว่าแล้วเป็นอัปมงคล ไม่ควรปลูกไว้ในบริเวณบ้าน

               ในวาระดิถีวันขึ้นปีใหม่ปีมะเมีย หรือปีม้า ซึ่งเป็นสัตว์ที่ทรงพลัง จึงขอแนะนำไม้มงคลนาม เพื่อหลายคนที่เพิ่งซื้อบ้านใหม่ที่มีเนื้อที่กว้างพอที่จะปลูกไม้มงคลเพื่อเสริมบารมีความเชื่อของคนไทยโบราณที่ยึดมาถึงทุกวันนี้

               ความจริงคนไทยเราเชื่อว่า มีไม้มงคลหลายชนิด ทั้งไม้ยืนต้น ไม้ดอก ไม้ประดับ รวมถึงจำพวกว่านด้วย แต่นิยมกันจริงๆ เป็นไม้มงคลมีหลัก 9 ชนิด คือ ราชพฤกษ์, ชัยพฤกษ์, ทองหลางลาย, ไผ่สีสุก, กันเกรา, ทรงบาดาล, สัก, พะยูง และขนุน

1. "ราชพฤกษ์" ปลูกเพื่อสิริมงคล

               ไม้ราชพฤกษ์ มีชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula L. อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE - CAESAL PINIOIEAE หรือที่รู้จักกันในนามต้นคูณ เป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบ สูงราว 10-15 เมตร เปลือกต้นสีเทาน้ำตาล

               ใบ เป็นประกอบแบบขนนกมีใบย่อยขึ้นออกเป็นคู่ ประมาณ 3-8 คู่ รูปทรงรี ขนาดกว้าง 4-7 ซม. ยาว 8-15 ซม.

               ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ แต่ละช่อยาวราว 25-40 ซม. มีดอกย่อสีเหลืองสวยงามมาก ดอกจะออกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 

               ส่วนผล ออกเป็นฝักทรงกระบอก ยาว 25-60 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2.5 ซม. ไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในเอเชียแถบร้อน ตามป่าเบญจพรรณแล้งทั่วไป

               คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้ประจำบ้านจะช่วยเพิ่มสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย เจ้าของบ้านจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เพราะต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีคุณค่าสูง และยังเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทยอีกด้วย

               การปลูกต้นราชพฤกษ์ ต้องปลูกทางทิศตะวัตตกเฉียงใต้ และควรปลูกในวันเสาร์ เพราะโบราณเชื่อว่า การปลูกไม้เพื่อเอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ โดยให้ผู้ใหญ่ที่ควรเคารพนับถือและเป็นผู้ประกอบคุณงามความดี ยิ่งจะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก

2.ปลูก "กัลปพฤกษ์" จะนำไปสู่ความสำเร็จ

               ตามความเชื่อของคนไทยเราตั้งแต่โบราณที่เชื่อว่า บ้านใดปลูกต้น "กัลปพฤกษ์" ไว้ประจำบ้านจะช่วยทำให้เกิดความประสบผลสำเร็จในชีวิต เพราะต้นกัลปพฤกษ์ เป็นต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ และความอิสระ นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่า ต้นกัลปพฤกษ์เป็นต้นไม้ของเทพเจ้าด้วย

               การปลูกเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นกัลปพฤกษ์ไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ปลูกในวันเสาร์เช่นกัน เพราะโบราณเชื่อว่า การปลูกไม้มีคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ ถ้าจะให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญ่ที่ควรเคารพนับถือ และเป็นผู้ประกอบคุณงามความดีนั่นเอง

               ลักษณะของกัลปพฤกษ์ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE สูงราว 10-15 เมตร ลำต้นตรงเปลือกต้นสีน้ำตาล ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ขึ้นเรียงสลับตามกิ่ง มีใบย่อยราว 5-15 คู่ กว้าง 1.5-2.5 ซม. ยาว 2.5-5 ซม.

               ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบยาว 5-15 ซม. เวลาบานสีชมพู และค่อยเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม แต่ละดอกมีกลีบเลี้ยงสีแดงเข้ม ดอกเส้นผ่าศูนย์ กลาง 3-4 ซม. จะออกดอกราวเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ส่วน ผล เป็นฝักกลมสีดำ ยาว 25-60 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลาง  1-1.5 ซม. เมื่อแก่ไม่แตก ด้านในมีเมล็ดจำนวนมาก การขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

3. "ทองหลางด่าง" เชื่อให้ความร่ำรวย

               พูดถึง "ทองหลางด่าง" ถือเป็นต้นไม้สมัยพุทธกาล จัดอยู่ในจำพวกไม้มงคล ที่คนสมัยก่อนนิยมปลูก เพราะเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นทองหลางด่างไว้ประจำบ้าน จะทำให้เจ้าของมีความร่ำรวย มีทองมากมาย ก็คงเป็นเพราะว่า นอกจาก "ทองหลางด่าง" จะมีใบสีทองแล้ว ยังมีความสวยงามเรืองรองเหมือนกับทอง ทำให้นักเล่นต้นไม้มีความเชื่อว่า หากนำใบทองหลางไปใช้ในพิธีกรรมของศาสนาพุทธ หรือพราหมณ์ เช่น พิธีปลูกบ้าน วางศิลาฤกษ์ พิธีแต่งงาน จะทำให้เกิดสิริมงคลยิ่งขึ้น

               หากจะให้มีมงคลยิ่ง การปลูกนั้น ผู้ปลูกควรเป็นผู้เกิดในปีมะแม และปลูกในวันเสาร์  ทางทิศเหนือ เป็นต้นไม้ชอบดินร่วนซุย ต้องเป็นบริเวณที่มีแสงแดดจัดหรือกลางแจ้ง ต้องการน้ำปานกลาง ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค ทนต่อสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

               "ทองหลางด่าง" เป็นไม้อยู่ในวงศ์ "LEGUMINOSAE" เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขาแผ่ออกไปรอบๆ ต้น ลำต้นมีสีเทาอ่อนๆ หรือจะออกเหลืองอ่อน ตามลำต้นและกิ่งมีหนามแหลมคมคล้ายกับต้นงิ้ว

               ใบ เป็นใบรวม ออกเป็นช่อ ช่อละราว 3 ใบ รูปทรงจะออกสามเหลี่ยมคล้ายใบโพธิ์ โคนมน ปลายใบแหลม ใบมีสีเขียวสด สลับสีเหลืองลากผ่านตามเส้นแขนงของใบไปทั่ว มองเป็นใบด่าง จึงเรียกว่า "ทองหลางด่าง"

               ดอก ออกเป็นช่อ ออกตามข้อต้นหรือตามโคนใบ ช่อของดอกจะยาวประมาณ 12 ซม. สีแดงสด เมื่อออกดอกลำต้นจะทิ้งใบหมด ราวช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เห็นแล้วสวยอีกแบบหนึ่ง

4. "ไผ่สีสุก" เสริมความมั่งมีศรีสุข

               คนไทยเรานิยมปลูก "ไผ่สีสุก" มาตั้งแต่โบราณแล้ว เพราะนอกจากจะมีประโยชน์ในการช่วยบังลม และนำหน่อไม้มาทำเป็นอาหารแล้ว ยังมีความเชื่อว่า ถ้าปลูกไผ่สีสุกไว้ภายในบริเวณบ้านจะทำให้คนภายในบ้านมีความซื่อตรงดุจลำต้นของไผ่ แล้วทำให้ท่านเจ้าของบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดี มั่งมีศรีสุขด้วย ยิ่งถ้าคนในบ้านเกิดปีมะแม ก็จะยิ่งเป็นมงคล เพราะเป็นไม้มงคลประจำปีมะแมนั่นเอง เวลาปลูกควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออก

               ลักษณะทั่วไปของไผ่สีสุก จะขึ้นเป็นกอลำต้นตรงสูงยาว 10-18 เมตร อยู่ในวงศ์ Gramineae มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8-15 ซม. ผิวเรียบเป็นมัน ข้อไม่พอง แต่กิ่งก้านสาขาเป็นฉากกับลำต้น ใบ เป็นใบรวมแต่ละใบมีใบย่อย 5-6 ใบ ใกล้ปลายกิ่ง รูปเรียวแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่ม แผ่นใบกว้าง 1-2 ซม. ยาว 10-20 ซม. ใต้ใบมีสีเขียวอมเหลือง ก้านใบสั้น ขอบใบสาก การขยายพันธุ์นิยมแยกกอ

               ที่เหลือต่อฉบับวันพรุ่งนี้ (1 ม.ค.58)