
ยาอบสมุนไพร การรักษาตามภูมิปัญญาท้องถิ่น
26 ธ.ค. 2557
ดูแลสุขภาพ : ยาอบสมุนไพร การรักษาตามภูมิปัญญาท้องถิ่น
ยาอบ เป็นการใช้ไอน้ำและความร้อนพาตัวยาและน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรไปสัมผัสผิวหนัง แทรกซึมผ่านเยื่อบุเข้าสู่ร่างกายของคนไข้ และผ่านเข้าทางลมหายใจที่สูดเข้าไปด้วย ทำให้ตัวยาสามารถออกฤทธิ์ได้ทั่วตัวในเวลาอันรวดเร็ว ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เป็นการเยียวยาบำบัดอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ได้ผลดีกับคนที่มีอาการเกี่ยวกับจิตประสาท และระบบทางเดินหายใจ
การอบสมุนไพรในแต่ละชุมชนจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ทั้งชนิดของสมุนไพร วิธีการ และอุปกรณ์ที่ใช้ภาชนะกักไอน้ำร้อนไว้ สำหรับการอบ ในแต่ละท้องถิ่นยังเรียกยาอบในชื่อต่างๆ เช่น ยาอุ๊ป ยาฮม เป็นต้น
การอบสมุนไพรมีหลากหลายรูปแบบตามภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การต้มสมุนไพรอยู่ภายนอก แล้วต่อท่อเข้าไปยังห้องอบ การนำหม้อยาที่เดือดเข้าไปตั้งอยู่กับผู้ป่วยภายในกระโจมต้มอบ สุ่มไก่ หรือผ้าห่มผื่นหนาๆ การนำหม้อต้มยาที่ต้มจนเดือดดี แล้วตั้งไว้ใต้แคร่ นำเอาผ้าล้อมไว้ทั้งสี่ด้าน เพื่อให้ไอร้อนลอยขึ้นสัมผัสผู้ป่วยที่นอนห่อผ้าอยู่บนแคร่ หรือการนำสมุนไพรมาตำคั้นน้ำ ผสมกับน้ำเปล่าให้ได้ปริมาน 1 กระป๋อง นำมาราดลงบนก้อนหินที่เผาจนร้อน เพื่อให้เกิดไอขึ้นภายในสุ่มไก่
การอบสมุนไพรโดยทั่วไป จะห้ามใช้สำหรับคนไข้ และห้ามคนป่วยกินของแสลงสำหรับโรคนั้นๆ นอกจากนี้ ยังมีข้อห้ามสำหรับแต่ละโรคหรืออาการ เช่น คนที่ฟกช้ำ จากการตกต้นไม้ ควายชน หากมีบาดแผลห้ามอบ แม่หลังคลอดห้ามกินของหมักดอง อาหารรสเผ็ด รสเค็ม เนื้อควายเผือก ปลาไหล กบ อึ่งอ่าง ชะอม ห้ามเดินข้ามหม้อต้มยา อัมพฤกษ์อัมพาต แขนขาไม่มีแรง ห้ามกินหน่อไม้ เงาะ มะพร้าว อาหารหมักดอง ห้ามกินไก่กินเนื้อ ห้ามกินปลาไหล ปลาซิว ปลาฝา ปลาหลาด ปลาเคิง ปลาเลิม เต่า ริดสีดวง ห้ามกินอาหารหมักดอง หน่อไม้ ไก่ เป็ด ปลาไหล ปลาหลด เต่า ถ้าเป็นผื่นคัน ลมพิษ ห้ามกินอาหารรสเผ็ด เค็ม อาหารหยาบย่อยยาก
วิธีการอบ
1.นำสมุนไพรมาล้างให้สะอาด มัดเป็นกำ หรือย่อยขนาดตามสูตร
2.นำสมุนไพรลงต้มในน้ำจนเดือด
3.ให้ผู้ป่วยเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นเพื่อเปิดรูขุมขน แล้วนั่งในกระโจมกับหม้อต้มที่เดือดแล้ว
4.ในรายที่ไม่เคยอบมาก่อน ให้อบครั้งละ 15 นาที จำนวน 3 รอบ ผู้ที่อบเป็นประจำ ให้อบครั้งละ 20 นาที จำนวน 2 รอบ
5.ระหว่างพักให้สังเกตอาการผู้ที่เข้าอบว่ามีอาการเวียนศีรษะ และหายใจไม่สะดวกหรือไม่ หากมีอาการดังกล่าวควรหยุดอบ ระหว่างพักให้ผู้ป่วยรับประทานน้ำอุ่น อาจผสมเกลือลงในน้ำเล็กน้อยเพื่อป้องกันการเสียเกลือแร่
ยาอบนั้นมีอยู่มากมายหลายตำรับ และใช้รักษาอาการได้หลากหลาย โดยตัวยาสมุนไพรหลักๆ คือ สมุนไพรที่มีกลิ่นหอม สมุนไพรรสเปรี้ยว สมุนไพรที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ คล้ายกับที่ใช้ในยาประคบ สมุนไพรหลักสำคัญๆ ในตำรับยาอบ ได้แก่ ใบหนาด ใบเปล้า รองลงไปคือ ตะไคร้ ไพล มะกรูด และสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมพวกพืชตระกูลส้ม เช่น ส่องฟ้า มะกรูด ส้มโอ สมุนไพรที่มี รสเปรี้ยว เช่น ใบมะขาม ใบส้มปล่อย และสมุนไพรที่ใช้รักษาอาการต่างๆ เช่น ผักบุ้ง ดอกบีบ เป็นต้น นอกจากนี้ยังใส่เกลือในปริมาณเล็กน้อยด้วย
ข้อควรระวังในการอบ ต้องระมัดระวังสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรงเบาหวาน อัมพาต เด็กหรือผู้สูงอายุ เพราะคนเหล่านี้มักมีความรู้สึกตอบสนองช้า สำหรับผู้ป่วยที่เป็นผู้วิกลจริตหรือลมบ้าหมูควรมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด หลังการอบสมุนไพรไม่ควรอาบน้ำทันที เพราะจะไปชะล้างตัวยาออกจากผิวหนัง และทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และห้ามอบหากมีไข้ตัวร้อน
ตำรับยาอบแก้ปวดเมื่อย
ใช้ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ ใบและผิวมะกรูด ใบหนาด ว่านน้ำ ใบส้มป่อย เหงือกปลาหมอ ชะลูด กระวาน เกสร 5 สมุลแว้ง พิมแสน การบรู
ตำรับยาแก้ปวดศีรษะ แก้ปวดในสมอง เรียกว่าลมจมประสาท
ใช้ตะไคร้ 1 กอ ต้มให้เดือด แล้วเอากระดาน ปุบนปากหม้อให้ผู้ป่วยนั่งเข้ากระโจมบนนั้น
ตำรับยาอบสมุนไพรคลายเครียด
ใช้ใบเล็บครุฑ ลวกน้ำข้าวแล้วตากให้แห้ง หัวเปราะหอม ผลมะกรูดอ่อนแก่ ใบหนาด เปล้าใหญ่ เปล้าเล็ก ขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย ไพล ว่านน้ำ ว่านหอมแดง ตะไคร้หอม เตยหอม นำยาทั้งหมดตากให้แห้ง เอามาต้มอบ ใส่พิมเสน การบรูเล็กน้อย
ตำรับยาอบแก้วิงเวียน หน้ามืด ปวดศีรษะ
ใช้ใบบีกไก่ตัวผู้สด ใบปีกไก่ตัวเมียสด ต้นกะเพราสด ต้นและใบตะไคร้สด อย่างละ 1 กำมือ หัวว่านไฟ 1 หัว ต้มอบ
ตำรับยาอบแก้วิงเวียนหน้ามืดตาลาย
ใช้ใบมะกรูด ใบมะนาว หัวและใบไพล เอา 3 อย่าง สดหรือแห้ง ถ้าสดโขลกกรองเอาน้ำใส่กะละมัง ผสมน้ำ 6-10 ลิตร
ตำรับยาอบแก้ผื่นคัน ลมพิษ คันทั้งตัว หายใจขัด
ใช้ต้นและใบเสลดพังพอนตัวผู้สด ต้นและใบเสลดพังพอนตัวเมียสด อย่างละ 1-2 กำมือ ใช้ยานี้ ประมาน 3 วันจึงหยุดยยา อาจมีข้างเคียงคือไม่อยากกินข้าวกินน้ำ กินอาหารไม่มีรส
ตำรับยาอบเพื่อสุขภาพ
ใช้ยอดผักบุ้ง ใบมะกรูด ใบมะขาม ใบส้มป่อย ตนตะไคร้ หัวไพล ใบพลับพลึง ใบหนาด การบรู ขมิ้นชัน