ไลฟ์สไตล์

'MAKA OKME' โอท็อปแบรนด์ดัง ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญา 'บ้านดอนข่า'

'MAKA OKME' โอท็อปแบรนด์ดัง ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญา 'บ้านดอนข่า'

28 พ.ย. 2557

ทำมาหากิน : 'MAKA OKME' โอท็อปแบรนด์ดัง ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญา 'บ้านดอนข่า' : โดย...สุรัตน์ อัตตะ

 
                                 ผลสำเร็จจากการทำโฮมสเตย์ ทำให้ชาวบ้านดอนข่า หมู่ 7 ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ได้พัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างอาชีพและรายได้เพิ่มด้วยการสร้างแบรนด์ผ้าไหมมัดหมี่ แหล่งผลิตผ้าไหมที่มีชื่อเสียงระดับประเทศที่สืบทอดภูมิปัญญามาไม่ต่ำกว่า 200 ปี ภายใต้ชื่อ MAKA OKME ภายใต้การนำของทวี สุขโข ประธานอำนวยการหมู่บ้านโอท็อป เพื่อการท่องเที่ยวบ้านดอนข่า 
 
                                 ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมัดหมี่บ้านดอนข่า ถือเป็นภูมิปัญญาที่ผ่านการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ปัจจุบันมีการยกระดับการทอผ้าไหมจากภูมิปัญญาแห่งการมัดหมี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Product) ภายใต้สโลแกน "จากภูมิปัญญาไทยสู่มาตรฐานสากล" 
 
                                 "บ้านดอนข่า นอกเหนือจากผ้าไหม เรามีมะค่าโมง เป็นต้นไม้ที่เป็นเอกลักษณ์เดิมของชุมชน เมื่อก่อนตรงนี้ เนื้อที่ประมาณ 200 กว่าไร่ เต็มไปด้วยป่ามะค่าโมง แต่วันนี้เหลือเพียงต้นเดียวสุดท้ายที่ตายยืนอยู่ในชุมชน และขณะนี้กลายเป็นศาลปู่ตาประจำชุมชน จนเป็นที่มาของแบรนด์ผ้าไหมมัดหมี่ที่เราเรียกว่า MAKA OKME"
 
                                 ทวี เล่าต่อว่า จากมะค่าโมงไม้ประดับของชุมชนที่เอาเม็ดมาแต่งเป็นของที่ระลึก จากนั้นก็ต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมัดหมี่ โดยใช้เอกลักษณ์ในเรื่องลาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ใหม่มีชื่อว่าลายนพเกล้าเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งทางชุมชนคาดหวังว่าอีก 7 ปีข้างหน้าจะสะสมเรื่องของต้นแบบลายนพเกล้าเฉลิมพระเกียรติให้ครบ 108 ลาย ความยาว 108 เมตร เพื่อเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ 
 
                                 "ลายนพเกล้า เรามีแนวคิดจากการสร้างลาย โดยดึงองค์ประกอบของลายมาจาก 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ตำราไหมมัดหมี่ ประกอบด้วย 7 ลาย หมี่ขอ หมี่ข้อ หมี่คม หมี่กลม หมี่กระจับ หมี่ดอกแก้ว หมี่ใบไผ่ และอีก 2 ลายจากความเป็นท้องถิ่นคือ ลายจี้เพชรและลายขันหมากเบ็งและใช้แคน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีประจำ จ.ขอนแก่น เข้าไปบอกว่า นี่คือผ้าของขอนแก่น"
 
                                 ประธานอำนวยการหมู่บ้านโอท็อป เพื่อการท่องเที่ยวบ้านดอนข่ากล่าวถึงแบรนด์  MAKA ว่า ได้ใช้คำขยายความว่า MAKA OKME โดย MAKA มาจากชื่อของต้นไม้ที่เป็นเอกลักษณ์คือมะค่า (MAKA) โดย M คือ Memory ความทรงจำแห่งเอกลักษณ์  A คือ Antiques ความเป็นโบราณแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น คือ ไม้มะค่าโมงและผ้าไหมมัดหมี่ K คือ Khowledge เป็นการจัดการองค์ความรู้ เพื่อที่จะเผยแพร่ให้เกิดความยั่งยืนในชุมชน และ A คือ Appreciation ความชื่นชอบในเสน่ห์แห่งไหม
 
                                 ส่วน คำว่า OKME มาจากเรื่องของกระบวนการกับแนวคิด กล่าวคือ O มาจาก Queen of Organic Silk เป็นการเลือกเอาเส้นใยมาตรฐานออร์แกนิกมาทำผ้าสีธรรมชาติ K เป็นที่มาของสี ผลิตภัณฑ์ของเราใช้สีจากต้นไม้ของพระราชา จึงเรียกว่า King of Tree ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำ จ.ขอนแก่นด้วย M คือ Multi-Purpose เป็นเรื่องฟังก์ชันของการใช้งาน โดยจะออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีฟังก์ชันการใช้งานตั้งแต่ 2 ฟังก์ชันขึ้นไปและสุดท้าย E คือ Easy Care เป็นการต่อยอดงานวิจัยของคณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับโครงสร้างของเส้นใยที่มีคุณสมบัติพิเศษผ้าไหมมัดหมี่ที่ซักเครื่องได้ สีไม่ตก ที่สำคัญแฟชั่นดีไซน์มีการออกแบบร่วมสมัยใส่ได้ในทุกวาระงาน 
 
                                 จากผลงานเด่นดังกล่าว ทำให้บ้านดอนข่า เป็น 1 ใน 8 หมู่บ้านที่ได้รับรางวัลหมู่บ้านโอท็อป เพื่อการท่องเที่ยวประจำปี 2557 จากกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยอีกด้วย สนใจผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมัดหมี่ของดีบ้านดอนข่า โทร.08-5008-2264 ได้ทุกวัน
 
 
 
 
 
 
--------------------------
 
(ทำมาหากิน : 'MAKA OKME' โอท็อปแบรนด์ดัง ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญา 'บ้านดอนข่า' : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)