
ปลูก'หม่อน'พันธุ์กำแพงแสน42เพิ่มค่า'ผลสด'แทนใช้เลี้ยงไหม
27 พ.ย. 2557
ทำมาหากิน : ปลูก 'หม่อน' พันธุ์กำแพงแสน 42 เพิ่มค่า 'ผลสด' แทนใช้เลี้ยงไหม : โดย...กวินทรา ใจซื่อ
คนไทยคุ้นเคยกับต้นหม่อนเพื่อใช้ในการเลี้ยงตัวไหม ส่วนผลหม่อนหรือที่เรียกกันว่า มัลเบอร์รี่ นั้น เพิ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภค มีทั้งรับประทานผลสด นำไปแปรรูปเป็นน้ำและแยมมัลเบอร์รี่ เนื่องจากเป็นผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ มีคุณค่าทางอาหาร รสชาติหวานอมเปรี้ยวที่อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ในตำรับยาโบราณใช้ผลต้มกินทั้งเนื้อและน้ำแก้โรคไขข้ออักเสบ โลหิตจาง และขับเสมหะ สีม่วงแดงจากผลสดมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและป้องกันโรคหัวใจด้วย
จากสรรพคุณที่หลากหลาย ประกอบกับกระแสการบริโภคอาหารเป็นยา ทำให้ "ชาตรี นาสิงห์" เกษตรกรชาว จ.นครราชสีมา สนใจปลูกหม่อนสายพันธุ์กำแพงแสน 42 ซึ่งเป็นสายพันธุ์เหมาะสำหรับรับประทานผลสด มีลักษณะเด่น คือให้ผลดก รสหวานหอม ทนแล้ง ทนฝน ปลูกและดูแลรักษาง่าย โรคและแมลงรบกวนน้อย ชอบแดดจัดไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง ชอบน้ำแต่ไม่ชอบน้ำขังเพราะจะทำให้รากเน่า
“เดิมรู้จักเฉพาะพันธุ์พื้นเมืองที่ชาวบ้านใช้ใบเลี้ยงตัวไหม เมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา นักวิชาการของกรมหม่อนไหมแนะนำพันธุ์หม่อนกำแพงแสน 42 ช่วงนั้นถือว่าเกษตรกรยังไม่รู้จัก ไม่เป็นที่แพร่หลาย ประเทศไทยต้องนำเข้าผลหม่อนจากต่างประเทศ ถือเป็นผลไม้ที่มีราคาแพง จึงหาข้อมูลทำให้รู้สรรพคุณของผล ประกอบกับกระแสการบริโภคอาหารเป็นยามีคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นจึงลองปลูก"
ชาตรี ถือเป็นเกษตรกรรายแรกๆ ของจังหวัดที่ปลูกมัลเบอร์รี่กินผลสดเพื่อจำหน่าย ซึ่งการปลูกต้นหม่อนหรือต้นมัลเบอร์รี่นั้น มีระยะห่างที่เหมาะสมประมาณ 3X 3 เมตร เพื่อให้ต้นได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ จากนั้นขุดหลุมแล้วรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก เมื่อปลูกเสร็จใส่ปุ๋ยคอกแล้วรดน้ำให้ชุ่ม รอจนต้นแข็งแรงจึงค่อยตัดแต่งกิ่งกระตุ้นให้ออกผล
"ใน 1 ปีจะบังคับให้มัลเบอร์รี่ติดผล 3 รอบ เริ่มจากการใส่ปุ๋ยคอกให้รอบต้นรดน้ำให้ชุ่ม รอให้ต้นแตกใบอ่อนจนมีสีเขียวเข้ม แล้วตัดแต่งกิ่งให้เสมอกันสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร จากนั้นต้นหม่อนจะติดผล ประมาณ 45 วันสามารถเก็บผลขายได้ ปกติจะติดผล 2 เดือน เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจะพักต้น จากนั้นจะเริ่มบังคับให้ออกลูกเป็นรอบที่ 2"
เกษตรกรเจ้าของสวนมัลเบอร์รี่ อธิบายต่อว่า หลังจากเริ่มบังคับให้ออกลูกเป็นรอบที่ 2 จากนั้นก็เริ่มบำรุงต้น และตัดแต่งกิ่งให้ออกผลอีกครั้ง ส่วนตลาดผลสด ขณะนี้จะส่งไปขายที่ จ.ภูเก็ต ราคากิโลกรัมละ 300-500 บาท ขณะเดียวกันก็มีลูกค้าบางส่วนนำไปแปรรูปเป็นแยมและน้ำมัลเบอร์รี่ ส่งขายตามโรงแรม โดยเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวและคนรักสุขภาพ ส่วนใบหม่อนส่งขายโรงงานในราคากิโลกรัมละ14-20 บาท ถือว่าตลาดยังไปได้อีกไกล
"ข้อเสียมีเพียงผลสดจะสุกและร่วงเร็ว จึงเก็บรักษาได้ไม่นาน จึงเหมาะกับการนำไปแปรรูป นอกจากจะขายผลสดแล้ว ยังเพาะกิ่งพันธุ์มัลเบอร์รี่จำหน่ายให้เกษตรกรที่สนใจด้วย" ชาตรีกล่าวย้ำ พร้อมให้คำแนะนำในการปลูกให้หม่อนติดผลเร็ว และมีผลเก็บขายได้ตลอดทั้งปีด้วย
หากสนใจสามารถสอบถามแนวทางในการปลูกมัลเบอร์รี่ ผลไม้ที่ตลาดยังสดใส สอบถามข้อมูลการปลูกได้ที่ 87/32 ซอย 19 ต.ในเมือง อ.เมือง นครราชสีมา หรือโทร.08-7956-4528 เขายินดีแนะนำด้วยความเต็มใจ
------------------------------
(ทำมาหากิน : ปลูก 'หม่อน' พันธุ์กำแพงแสน 42 เพิ่มค่า 'ผลสด' แทนใช้เลี้ยงไหม : โดย...กวินทรา ใจซื่อ)