ไลฟ์สไตล์

เริ่มจากตลาดนัดสู่กิจการขายส่ง

เริ่มจากตลาดนัดสู่กิจการขายส่ง

13 พ.ย. 2557

หนักเอาเบาสู้ : เริ่มจากตลาดนัดสู่กิจการขายส่ง อาชีพเสริมรายได้งาม 'จ่าวี ไหมชู' : โดย...ดลมนัส กาเจ

 
                               จากพฤติกรรมของตำรวจนอกรีตเพียงน้อยนิดที่เก็บส่วย และรีดไถ ทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจดีๆ ที่มีจำนวนมากของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับถูกมองในแง่ลบ ทั้งที่มีตำรวจจำนวนไม่น้อยที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตตรงไปตรงมา บางนายใช้เวลาว่างจากงานราชการมาประกอบอาชีพเสริมอย่างบริสุทธิ์ เพื่อหารายได้เข้าครอบครัวกลับไม่มีใครพูดถึง 
 
                               อย่าง "ด.ต.วีรพร ไหมชู" หรือ "จ่าวี น้ำแข็ง" วัย 45 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายงานป้องกันปราบปราม สน.ร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้เวลาว่างมาประกอบอาชีพเสริม เริ่มต้นจากขายน้ำอัดลม ตระเวนขายตามตลาดนัดช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และมาปักหลักด้วยการใช้บ้านของตัวเองในซอย 24 ถนนการเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น ลาดกระบัง กรุงเทพฯ เปิดเป็นร้านโชห่วย หรือร้านขายของชำ ขายน้ำแข็งสามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดี วันนี้บ้านของเขากลายเป็นร้านค้าส่งและค้าปลีก สินค้าอุปโภค-บริโภค ที่มีเงินสะพัดเดือนละ 2.5 ล้านบาท
 
                               ด.ต.วีรพร บอกว่า จบจากโรงเรียนตำรวจนครบาลบางเขน เมื่อปี 2536 รับราชการมาตลอด จนมีลูกและเริ่มโตขึ้น ทำให้รายจ่ายเพิ่มขึ้น คิดว่าลำพังเงินเดือนของตำรวจชั้นผู้น้อยกับเงินของภรรยา ที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน เริ่มไม่เพียงพอแล้ว จึงตัดสินใจขายน้ำอัดลมใส่น้ำแข็งตระเวนขายตามตลาดนัดในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ปรากฏว่าขายดีมาก แต่ยอมรับว่าเหนื่อย จึงไปเป็นพ่อค้าคนกลางรับน้ำแข็งยูนิตจากโรงงานย่านมีนบุรีมาเป็นกระสอบ ใช้รถจักรยานยนต์พ่วงตระเวนขายส่งตามร้านค้าและร้านอาหารย่านชุมชนร่มเกล้า ปรากฏว่าสร้างรายได้ดีพอสมควร
 
                               "ถ้าคิดว่างมงายก็ใช่ แต่คิดว่าทำแล้วสบายใจก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเชื่อหมอดู อย่างผมเกิดวันอังคาร หมอดูทักว่า ควรทำธุรกิจเย็นๆ เกี่ยวกับน้ำ ผมเลือกขายน้ำแข็ง ช่วงแรกผมไม่มีอะไร รถจักรยานพ่วงยืมของพรรคพวก พอได้เงินมาต่อรถจักรยานพ่วงเอง จนปี 2552 เห็นว่ากิจการไปได้สวย จึงใช้บ้านตัวเอง ซึ่งเป็นตึกแถว 2 ชั้น มาเปิดร้านขายปลีกน้ำแข็งขายเป็นกิโล พร้อมๆ กับสั่งของอื่นมาขาย ทั้งสุรา บุหรี่ ข้าวสาร น้ำอัด ขนมขบเคี้ยว และอื่นๆ โดยให้ภรรยาออกจากงานมาดูแล้วร้านอย่างเต็มตัว" ด.ต.วีรพร กล่าว 
 
                               การเปิดร้านโชห่วยกว่า 3 ปี เขาเก็บเงินซื้อบ้านที่เป็นตึกแถวอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกันกับร้านเดิม เพื่อเปิดร้านขายส่ง-ขายปลีก จนวันนี้เขามีรถยนต์เพื่อใช้งาน 1 คัน รถจักรยานยนต์พ่วงอีก 3 คัน มีลูกน้อง 5 คน ในแต่ละเดือนมียอดขายรวมเดือนละ 2.5 ล้านบาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะลูกน้องตกเดือนละเกือบ 1 แสนบาท หักต้นทุนอื่นๆ อีก ในแต่ละเดือนยังพอมีกำไรสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ และมีรายได้มากกว่าเงินเดือนหลายเท่าตัว
 
                               นับเป็นตำรวจชั้นผู้น้อยที่สู้ชีวิตจนประสบผลสำเร็จอีกรายหนึ่ง สามารถขยายกิจการจากเดิมทำเป็นอาชีพเสริม แต่วันนี้กลับสร้างรายได้หลักของครอบครัวอย่างน่ายกย่อง
 
 
 
 
 
 
 
--------------------------
 
(หนักเอาเบาสู้ : เริ่มจากตลาดนัดสู่กิจการขายส่ง อาชีพเสริมรายได้งาม 'จ่าวี ไหมชู' : โดย...ดลมนัส กาเจ)