
โดนยึดบัตรเอทีเอ็ม
06 พ.ย. 2557
เปิดซองส่องไทย : โดนยึดบัตรเอทีเอ็ม : โดย...ลุงแจ่ม
ผมใช้บัตรเอทีเอ็มของธนาคารอาคารสงเคราะห์เช็กยอดเงินในบัญชีที่ตู้เอทีเอ็มธนาคาร LH bank (ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) สาขาบิ๊กซี บางพลี หลังจากทำรายการเรียบร้อย ขณะกำลังรอรับบัตรเอทีเอ็มคืนนั้น ผมได้ยินเสียงเครื่องทำการฟีดบัตรประมาณ 3-4 ครั้ง หน้าจอขึ้นสถานะว่ากรุณารับบัตรคืน ผมรออยู่ประมาณ 1 นาที ปรากฏว่าตู้ยึดบัตร และขึ้นสถานะหน้าจอว่าขออภัย งดให้บริการ
จึงเดินเข้าไปในสาขาธนาคาร แจ้งพนักงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พนักงานบอกว่าบัตรเอทีเอ็มต่างธนาคาร หากตู้ยึดบัตรจะถูกทำลายทิ้ง ผมถามว่าเพราะอะไร พนักงานบอกว่าเป็นประกาศจากทางแบงก์ชาติ ต้องทำเหมือนกันทุกธนาคาร อย่างนี้ไม่ยุติธรรมกับประชาชนผู้บริโภคเลย แค่เช็กยอดเงิน บัตรถูกยึด ไม่ใช่ความผิดของผม
แต่ผมต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมและเสียเวลาเดินทางไปทำบัตรใหม่ สาขาของธนาคารอาคารสงเคราะห์แต่ละแห่งอยู่ไกลที่ทำงานและไกลบ้านผม ผมทราบจากผู้รู้ว่า สาเหตุที่ทำให้ตู้เอทีเอ็มเกิดปัญหา เกิดจากไฟตก ทำให้เครื่องหยุดทำงานชั่วขณะ ซึ่งปัญหานี้ยังไม่มีธนาคารแห่งไหนในประเทศไทยที่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้น ผมขอเตือนทุกท่านที่ต้องการความสะดวกสบายไม่อยากเกิดปัญหากดเงินแล้วเงินไม่ออก ฝากเงินที่ตู้ฝากแล้วเงินไม่เข้า หรือกรณีของผมคือตู้ยึดบัตรเอทีเอ็มไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ก็เข้าใจไว้ด้วยว่า ท่านอาจเจอเหมือนกับผม และต้องยอมรับสภาพโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
พงษ์ศักดิ์
ตอบ
ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า ศคง.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนกรณีนำบัตรกดเงินอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรเอทีเอ็ม) ทำรายการผ่านตู้เอทีเอ็มต่างธนาคารและเกิดปัญหาขัดข้องเป็นเหตุให้ตู้เอ็มทีเอ็มยึดบัตร และสถาบันการเงินให้คำตอบลูกค้าของธนาคารว่าจะต้องทำลายบัตรทิ้ง เพราะเป็นคำสั่งของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ที่ผ่านมาเกิดกรณีขโมยข้อมูลและนำบัตรไปกดเงินทำให้เงินสูญหายจากบัญชี ซึ่งมิจฉาชีพหรือผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของบัญชีมักคาดเดารหัสบัตรและมีการสุ่มกดรหัส หากคาดเดาผิดเกินจำนวนครั้งที่กำหนด ระบบจะทำการยึดบัตรทันที ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น สมาคมธนาคารไทยจึงเห็นควรให้ทำลายบัตรทิ้ง และขอความเห็นมายังธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ออกจดหมายเวียนไปยังสถาบันการเงินทุกแห่งเพื่อปฏิบัติ
กรณีที่บัตรถูกยึดโดยเหตุที่มิใช่ความผิดของลูกค้า เมื่อลูกค้าติดต่อขอทำบัตรเอทีเอ็มใบใหม่ สามารถขอยกเว้นค่าธรรมเนียมกับสถาบันการเงินเจ้าของบัญชีได้ โดยแจ้งเหตุผลในการขอทำบัตรใบใหม่ สถาบันการเงินจะพิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมให้ลูกค้าได้เป็นกรณีๆ ไป
ลุงแจ่ม
ขยะกองใหญ่ เหม็นมาก
เนื่องจากบ้านผมอยู่ซอยลาซาล 52 เขตบางนา แขวงบางนา กทม. ด้วยซอยลาซาล 52 แห่งนี้ เป็นที่ทิ้งขยะเศษพลาสติกและขยะอื่นๆ อีกมายมากกองใหญ่มากๆ หากหน่วยงานหรือเจ้าของที่ดินปล่อยปละละเลยก็จะกลายเป็นขยะกองใหญ่ และได้สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นเป็นอย่างมาก
ผมกลัวว่าขยะกองใหญ่กองนี้อาจจะเหมือนกองขยะที่แพรกษาได้ ถ้าหากมีใครจุดไฟเผา หรือทิ้งก้นบุหรี่ อาจจะก่อให้เกิดเปลวไฟแล้วลุกลามไหม้ขยะกองใหญ่กองนี้ได้ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนี้ ผมไม่อยากให้วัวหายแล้วล้อมคอกเหมือนอย่างขยะที่แพรกษา จึงอยากให้ทางสำนักงานเขตบางนาช่วยเข้ามาแก้ไขดูแล จัดเก็บให้ด้วย
จึงขอความกรุณาลุงแจ่ม คมชัดลึก ช่วยเป็นปากเสียงให้ด้วย เพราะโดยเฉพาะหน่วยงานที่ใช้ยาแรงๆ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันนี้ขยะกองสูงเท่ากับบ้านชั้นเดียวแล้ว เคยมีคนมาจุดไฟเผาแต่ดับได้ทันมีกลิ่นเหม็นมากๆ ไม่ทราบว่ามีขยะประเภทสารเคมีปะปนอยู่ด้วยหรือเปล่า วอนเขตบางนาช่วยชาวบ้านขจัดขยะกองใหญ่กองนี้ด้วย
บุญยืน / ลาซาล
ตอบ
นายชัชชญา ขำจันทร์ หัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตบางนา ชี้แจงว่า ปกติทางฝ่ายรักษาฯ จะพัฒนาพื้นที่อยู่ตลอด พื้นที่ตรงนี้อาจเป็นพื้นที่ของเอกชนก็ได้ ต้องไปสืบหาเจ้าของก่อน บางครั้งเจ้าของที่อยากให้นำขยะมาถมเพื่อถมที่ไปในตัว
แต่กรณีที่ขยะเกิดล้นมาตรงผิวจราจรทางฝ่ายรักษาฯ ก็จะเข้าไปจัดเก็บให้ แต่ในส่วนของพื้นที่เจ้าของไม่ได้ให้ดำเนินการก็ทำอะไรไม่ได้ ฝ่ายรักษาฯ มีหน้าที่เพียงแค่ปรับพื้นที่ริมทางเท่านั้น แล้วติดป้ายประกาศเตือนว่าห้ามนำขยะมาทิ้ง ทางฝ่ายรักษาฯ มีหน้าที่เก็บอย่างเดียวเท่าที่เก็บได้ ในกรณีที่ประชาชนเดือดร้อน
บางครั้งขยะที่มาถูกนำทิ้งนั้น อาจเป็นของเจ้าของพื้นที่เอามาทิ้งเอง พอเห็นขยะเต็มก็มาร้องทางเขตให้ไปเก็บขยะ ซึ่งทางเขตต้องเสียค่าใช้จ่ายในการไปจัดเก็บ พื้นที่บริเวณซอยลาซาลนี้ตรงนี้เป็นซอยเปลี่ยวเป็นซอยทางลัดที่ออกแบริ่งติดต่อสมุทรปราการ ถ้าเป็นของเขตจะรีบเข้าไปแก้ไขปัญหาเลย
แต่เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทางเขตเคยนำรถแทร็กเตอร์เข้าไปพัฒนาดันปรับกองขยะที่มันล้นออกมาต้องผิวจราจรให้ ในซอยลาซาล 52 นี้ผิวจราจรข่อนข้างขรุขระ เพราะมีรถเทรลเลอร์วิ่งอยู่ตลอดเวลา ถนนก็จะเป็นหลุมเป็นบ่อ เป็นถนนดิน ถนนลูกรัง ไม่ใช่ถนนแอลฟัสติก ทางฝ่ายรักษาฯ ขอเวลาเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ ถ้าพบเห็นขยะก็จะเร่งดำเนินการให้ในทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
ลุงแจ่ม
ลูกท้อง ผู้ชายไม่รับ
ลูกสาวของผมกำลังเรียนอยู่ครับ อายุประมาณ 19 ปี แต่มีแฟน ซึ่งเป็นรุ่นพี่ แล้วได้เสียกัน โดยที่ทางครอบครัวก็ไม่มีใครทราบเรื่องเลย มาทราบอีกทีก็ลูกสาวบอกว่าตั้งท้อง ซึ่งทางผู้ชายเองก็อายุ 21 ปี กำลังเรียนอยู่เหมือนกัน
ครั้งแรกที่ทราบเรื่อง ผมโกรธมาก และไม่อยากให้อภัย แต่ภรรยาผมซึ่งเสียใจมากไม่แพ้ผม ก็บอกว่าโกรธไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว ทางที่ดีควรจะหาทางแก้ไขเพื่อช่วยเหลือลูก เพราะเราเองก็มีลูกสาวเพียงคนเดียวในครอบครัว
ผมเลยบอกกับผู้ชายไปว่า ให้พาพ่อแม่มาคุยกัน จะได้ช่วยกันหาทางออก หลังจากบอกผู้ชายไปแล้ว แต่ทุกอย่างก็ยังนิ่งเฉย ผมมองว่า น่าจะเป็นปัญหาแล้ว เพราะทางผู้ชายก็ยังไม่บอกครอบครัวของเขาสักที ผมถามหลายครั้งก็บ่ายเบี่ยง
อยากทราบว่า กรณีนี้ ถ้าเขาไม่บอกครอบครัว ผมสามารถแจ้งความได้ไหมครับ แล้วถ้าทางครอบครัวเขาไม่รับผิดชอบลูกสาวผม ในทางกฎหมายผมทำอย่างไรได้บ้างครับ
มานพ
ตอบ
ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ชลธิชา สมสอาด คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำเรื่องนี้ว่า ในทางกฎหมาย หากเด็กไปมีเพศสัมพันธ์อายุยังไม่ถึง 18 ปี พ่อแม่สามารถแจ้งความได้ ฐานพรากผู้เยาว์ ซึ่งในทางกฎหมายถือว่า ความเสียหายเกิดขึ้นกับผู้ปกครอง แต่ถ้าเด็กที่มีอายุ 19-20 ปี ในทางกฏหมายคุ้มครองในทางแพ่ง ถ้าเข้าข่ายการข่มขืน โดยผู้เสียหายคือตัวผู้ที่ถูกกระทำ ซึ่งก็คือเด็กนั่นเอง ในกรณีนี้สามารถเอาผิดทางกฎหมายแพ่งได้ถ้าถูกข่มขืน หรือ ละเมิด
กรณีลูกของคุณ อายุเกิน 18 ปี ดังนั้นเกินกว่ากฎหมายกำหนดในทางคดีอาญา และถ้าจะมาว่ากันในเรื่องคดีแพ่ง ผู้เสียหายคือลูกคุณ ก็ไม่ได้อยู่ในข่ายของการถูกข่มขืน แต่เป็นการสมยอมเพราะรักกัน ดังนั้น ในกรณีนี้ ถ้าจะเอาผิดกันทางกฎหมาย จึงค่อนข้างเอาผิดได้ยาก
ส่วนเรื่องแจ้งความนั้น ส่วนใหญ่ตำรวจจะไม่รับแจ้งความ หากทราบว่าผู้เสียหายมีอายุเกิน 18 ปีแล้ว เหตุผลก็ดังที่แจ้งไปข้างต้นแล้ว
ทางที่ดีควรเจรจาด้วยตัวเองกับพ่อแม่ฝ่ายชาย เพื่อช่วยกันหาทางออก การพูดคุยเพื่ออนาคตของเด็กสองคนที่รักกันจนมีลูกขึ้นมา น่าจะเป็นทางออกที่พ่อแม่ช่วยกันประคับประคองเพื่อให้มีทางออกที่ดีร่วมกันสำหรับลูกของทั้งสองครอบครัว ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าจะเจรจากันได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเด็กก็ยังเรียนหนังสืออยู่ทั้งคู่
ลุงแจ่ม