
เกษตรฯดีเดย์15พ.ย.จ่ายเงินยาง1,000 บาท/ไร่
เกษตรฯดีเดย์ จ่ายเงินยาง 15 พ.ย. เริ่มจ่ายเงินชดเชยรายได้ 1,000 บาท/ไร่ เกษตรฯยันโปร่งใส หลายหน่วยงานร่วมตรวจสอบ
27ต.ค.2557 นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าการจ่ายเงินให้กับชาวสวนยาง ไร่ละ 1,000 บาทไม่เกิน ครัวเรือนละ 15 ไร่นั้นจะเปิดให้ชาวสวนยางขึ้นทะเบียนได้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.- 15 ธ.ค. นี้ รวมทั้งกระทรวงเกษตรฯจะจัดทำหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเสนอให้ครม.พิจารณา อีกครั้งทั้งนี้เพราะชาวสวนยางมีความหลากหลายมากกว่าเมื่อเทียบกับชาวนา ที่จะเพาะปลูกในพื้นที่มีกรมสิทธิ์อย่างถูกต้องเท่านั้น ในขณะที่ยางพารา ยังมีพื้นที่ของเขตป่าไม้ และอื่น ๆ ดังนั้นการจ่ายเงินจะต้องมีการตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับสิทธิอย่างเข้มข้น มีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอขึ้นมา เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ ที่อาจมีการเปลี่ยนมือไป
นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า โครงการนี้จะเริ่มจ่ายเงินได้จริงผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพ.ย. ให้กับเกษตรกรเป้าหมาย 850,000 ครัวเรือน พื้นที่ 8.2 ล้านไร่ วงเงิน 8,500 ล้านบาท และจะจ่ายเงินได้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หรือ ภายในเดือนเม.ย. 2558
สำหรับระบบตรวจสอบรับรองสิทธิครั้งนี้มีความรัดกุม เนื่องจากเป็นการทำงานประสานหลายหน่วยงาน โดยกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นผู้รับขึ้นทะเบียน แต่จะมีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบสิทธิระดับตำบลประกอบด้วยหลายฝ่าย เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร ทำงานร่วมกันตรวจสอบพื้นที่เปิดกรีด รวมถึงมีเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมในคณะทำงาน เพื่อให้การรับรองกรณีเป็นพื้นที่ป่าที่กระทรวงฯอนุญาตให้ทำการเกษตรได้
“คนที่เคยได้รอบก่อนที่ชดเชยให้ 2,520 บาท/ไร่ ก็จะต้องตรวจสอบใหม่เช่นกัน แต่จะทำได้เร็วกว่าเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนใหม่ซึ่งต้องตรวจสอบสภาพยางและการเปิดกรีด”นายโอฬาร กล่าว
นายโอฬาร กล่าวว่าการขึ้นทะเบียนชดเชยรายได้ชาวนา 1,000 บาท/ไร่ ขณะนี้มีการขึ้นทะเบียนแล้ว 3 ล้านครัวเรือน คณะทำงานตรวจสอบสิทธิระดับตำบลตรวจสอบแล้ว 1.5 ล้านครัวเรือน และส่งข้อมูลผ่านอำเภอไปยังธ.ก.ส.แล้ว 2 แสนครัวเรือน
“การรับรองสิทธิรูปแบบที่รัฐบาลนี้สั่งการถือเป็นรูปแบบที่ดี เพราะมีหลายหน่วยงานร่วมกัน และถ้าเกษตรกรแจ้งผิดจะต้องรับโทษทางอาญาซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะย้ำเกษตรกรเรื่องนี้ทุกครั้ง และมีอำนาจทางปกครองที่จะเรียกตรวจสอบได้” นายโอฬารกล่าว