
รวมกลุ่มแปรรูปพริก 'ขุนม่วงไข่ขจร'
21 ต.ค. 2557
ทำมาหากิน : รวมกลุ่มแปรรูปพริก 'ขุนม่วงไข่ขจร' ช่วยเพิ่มมูลค่า-ป้องกันถูกกดราคา : โดย...ศุภชัย วิเศษสรรค์
แม้ว่า "พริก" จะเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของเกษตรกร ต.หนองม่วงไข่ อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ที่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวเกษตรกรได้เป็นอย่างดี แต่ที่ผ่านมาเกษตรกรถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาทำให้รายได้หดหายไปมาก ทำให้บางรายต้องยอมเก็บพริกทั้งน้ำตาเพราะความจำเป็น เกษตรกรชาวหนองม่วงไข่ จึงรวมกลุ่มเพิ่มอำนาจต่อรองหาตลาดใหม่จนกระทั่งมีโรงงานแปรรูปพริกรายใหญ่รับซื้อพริกแดงแบบไม่จำกัดจำนวน อีกทั้งสามารถรวมกลุ่มแปรรูปพริกเป็น "น้ำพริก" หลากรสยี่ห้อ "ขุนม่วงไข่ขจร" เตรียมออกวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการถูกกดราคาและสินค้าล้นตลาด
วันชัย โพธิ์ศรีทอง ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพริกตำบลหนองม่วงไข่ จ.แพร่ เล่าว่า เกือบทุกครอบครัวชาวตำบลหนองม่วงไข่จะปลูกพริกขาย โดยเฉพาะพันธุ์หยกสยามที่เป็นพริกเมล็ดใหญ่เป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งโดยรวมแล้วตำบลหนองม่วงไข่มีพื้นที่ปลูกพริกกว่า 1,800 ไร่ สร้างรายได้ให้เกษตรกรชาวหนองม่วงไข่ได้หลักแสนหลักล้านบาทต่อปี และถือว่ารายได้ดีกว่าการปลูกพืชชนิดอื่นๆ โดยเกษตรกรจะปลูกพริก ภายหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวโพดก็จะเริ่มปลูกในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน และเริ่มเก็บผลผลิตในช่วงเดือนตุลาคมถึงเมษายน
"จากสถิติข้อมูลที่รวบรวมไว้ 1 ไร่จะสามารถเก็บพริกได้ราว 6-12 ตัน ส่วนราคาขายสูงสุดที่เคยขายได้ ที่เป็นพริกหนุ่มเขียวกิโลกรัมละ 45 บาท ส่วนพริกแดงกิโลกรัมละ 70 บาท แต่บางปีและบางช่วงราคาพริกก็ตกลงเหลือเพียง 10 กว่าบาทต่อกิโลกรัม ที่ผ่านมาเกษตรกรที่ปลูกพริกประสบปัญหาในเรื่องของราคามาตลอด เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่แล้วจะขายให้พ่อค้าคนกลางซึ่งจะถูกกดราคาทุกครั้ง"
วันชัยยอมรับว่าส่วนต่างระหว่างราคารับซื้อจากพ่อค้ากับราคาขายของเกษตรกรต่างกันมา อย่างเช่นราคาพริกหนุ่มเขียวที่ตลาดไทเจริญขายกิโลกรัมละ 55 บาท แต่พ่อค้าคนกลางมารับซื้อจากเกษตรกรกิโลกรัมละ 21 บาท ทำให้กลุ่มเกษตรกรได้มานั่งคุยกันและพยายามหาตลาดให้ส่งพริกขายไปยังพ่อค้าขายพริกโดยตรงโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางหรือส่งไปยังโรงงานแปรรูปพริกเพื่อเพิ่มช่องทางการขายและเพิ่มรายได้เกษตรกรจากการถูกกดราคาของพ่อค้าคนกลางด้วย
"เมื่อเร็วๆ นี้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพริก ต.หนองม่วงไข่ได้เดินทางไปดูงานที่โรงงานทำซอสพริกที่ จ.นครสวรรค์ และได้รับข่าวดีจากทางโรงงานซึ่งจะเข้ามาช่วยเหลือโดยจะประกันราคารับซื้อพริกแดง ในราคา 15 บาทต่อกิโลกรัม โดยไม่จำกัดจำนวน อีกทั้งทางโรงงานจะออกค่าขนส่งให้อีกด้วยทำให้กลุ่มเกษตรกรมีตลาดรองรับเพิ่มเติมและอย่างน้อยจะไม่ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา ซึ่งบางปีถูกกดราคาต้องขายในกิโลกรัมละ 9 บาท"
ประธานกลุ่มเกษตรกรคนเดิมย้ำด้วยว่าเป็นที่น่ายินดีในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้จะเริ่มนำพริกมาแปรรูปเป็นสินค้าของกลุ่ม ทั้งน้ำพริกหนุ่ม, น้ำพริกลาบ, น้ำพริกแมงดา, น้ำพริกตาแดง และน้ำพริกปลาร้า อีกทั้งทางกลุ่มอาจจะทำพริกแกงเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากในพื้นที่มีทั้งข่าและตระไคร้ที่เป็นส่วนผสมของพริกแกงอยู่เป็นจำนวนมาก โดยสินค้าของกลุ่มจะใช้ชื่อแบรนด์ “ขุนม่วงไข่ขจร”
"ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้สนับสนุนเครื่องคั่วพริกและเครื่องบดพริกมาให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพริกชาวหนองม่วงไข่เพื่อที่จะนำมาช่วยแปรรูปพริกตามโครงการของกลุ่มแล้วด้วย เบื้องต้นทางกลุ่มได้ติดต่อร้านขายของฝากในตัวเมือง จ.แพร่ ไว้หลายร้านแล้วและจะนำออกจำหน่ายที่ถนนคนเดินและตามงานแสดงสินค้าต่างๆ"
นับเป็นอีกทางออกของเกษตรกรผู้ปลูกพริกใน ต.หนองม่วงไข่ นอกจากนำผลผลิตส่งโรงงานโดยตรงแล้วยังนำผลพริกดสดมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่า ภายใต้ตราสัญลักษณ์ "ขุนม่วงไข่ขจร" อีกด้วย
-------------------------
(ทำมาหากิน : รวมกลุ่มแปรรูปพริก 'ขุนม่วงไข่ขจร' ช่วยเพิ่มมูลค่า-ป้องกันถูกกดราคา : โดย...ศุภชัย วิเศษสรรค์)